24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 8 กันยายน 2568
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 8 กันยายน 2568
>> เพลิงไหม้โรงงานผลิตที่นอนอำเภอเขาย้อย ระดมรถดับเพลิงกว่า 15 คัน สกัดเพลิง
06.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ธิป เข่งคุ้ม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมปอง ขำทวี สารวัตร(สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรเขาย้อย รุดตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตที่นอนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ห้วยโรง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี พร้อมประสานรถดับเพลิงทั้งในพื้นที่และพื้นที่ข้างเคียง กว่า 15 คัน หน่วยผจญเพลิง อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถาน จังหวัดเพชรบุรี ร่วมสนับสนุน
ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้ ภายในอาคารผลิตและเก็บวัตถุดิบที่เป็นใยสังเคราะห์ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้ไฟได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วและรุนแรงเป็นวงกว้าง โดยเจ้าหน้าที่ฯ ได้ระดมกำลังรถดับเพลิงฉีดสกัดเข้าไปที่บริเวณต้นเพลิง ซึ่งเป็นรายผลิตและเป็นเครื่องจักรบางส่วน ที่ใช้ในการผลิตฟูกที่นอน ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด แต่ก็ยังต้องฉีดน้ำไว้หล่อเลี้ยงไว้ตลอดเนื่องจากในพื้นที่มีความร้อนสูง และอาจเกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นมาอีกได้ตลอดเวลา สำหรับโรงงานดังกล่าว เคยเกิดเหตุเพลิงไหม้ใหญ่มาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดเมื่อ 2 มี.ค.57 สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง
สอบถาม ผู้จัดการโรงงานดังกล่าว เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.10 น. พนักงานภายในโรงงานได้โทรมาแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งขณะนั้นตนอยู่ที่กรุงเทพฯ จึงได้รีบขับรถเดินทางมา พอถึงโรงงานพบเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง ต่อต้นเพลิง ลุกไหม้มาจากกองฟูกที่นอนและเครื่องจักรรายการผลิต ที่อยู่ภายในอาคารตัวโรงงาน แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดเพลิงลุกไหม้ได้อย่างไร
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งสอบถามข้อมูลจากผู้พบเห็นเหตุการณ์ โดยจะประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี เข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้ต่อไป
>> รถกระบะเสียหลักฟาดเสาไฟฟ้า บาดเจ็บ 1 และเสียชีวิต 1 ราย
08.40 น. สมาคม วี.อาร์.กู้ภัยลำโขงเฟรนด์ชิพ นครพนม ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะชนเสาไฟ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ริมถนนสายนครพนม - ธาตุพนม ช่วงทางโค้งใหม่ศรีประทุม ขาออก เมืองนครพนม
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ ฟอร์ด สีเทา ป้ายทะเบียน นครพนม ลักษณะชนกับเสาไฟฟ้าข้างทาง พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นผู้หญิง นำส่งโรงพยาบาลนครพนม และพบว่า มีผู้เสียชีวิต 1 ราย สภาพร่างติดค้างในยานพาหนะ จนท.ประสานรถกระเช้าไฟฟ้า ในการยกเสาออก เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากรถ และตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 42 ปี สาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม
>> เด็ก 3 ขวบ นอนรอแม่เก็บเห็ด รถเกิดไฟไหม้ ถูกไฟคลอกดับ
09.15 น. รับแจ้งเหตุไฟไหม้รถยนต์มีผู้เสียชีวิต จุดเกิดเหตุที่บ้านน้อย 5 หมู่ 5 ต.ห้วยบง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เบื้องต้นรับแจ้งว่ามาทั้งหมด 5 คน เป็นรถนั่งส่วนบุคคล สีดำ ทะเบียนนครราชสีมา จากการตรวจสอบภายในรถพบผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นเด็ก อายุ 3 ขวบ
จากการสอบถามเบื้องต้น กลุ่มคนไปหาเห็ดได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น จำนวน 4 ครั้ง จึงเดินกลับมาดูที่รถ พบว่ายางรถระเบิดและเกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยมีเด็ก อายุ3 ขวบ นอนหลับภายในตัวรถ ซึ่งไม่ได้ล็อค แต่ดับเครื่องยนต์ไว้ และกลุ่มบุคคลที่มาหาเห็ด ให้การช่วยเหลือดับไฟ แต่เพลิงได้โหมกระหน่ำขึ้น ทำให้ไม่สามารถเข้าช่วยเหลือผู้ติดภายในยานพาหนะได้ทันท่วงที จึงเกิดเหตุโศกนาฏกรรมขึ้นดังกล่าว จึงประสานรถดับเพลิง อบต.ห้วยบง และ หินดาด เข้าให้การช่วยเหลือ พร้อมทั้ง เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.หินดาด,ห้วยบง โดยทางเจ้าพนักงานตำรวจ จะดำเนินการสอบสวนสาเหตุการเกิดเหตุที่แท้จริงต่อไป
>> ตำรวจภูธรภาค 1 แถลงยึดยาบ้ากว่า 6.9 ล้านเม็ด
11.25 น. ตำรวจภูธรภาค1 แถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ ซี่งเป็นผู้ลำเลียงโดยใช้รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ดัดแปลงซุกซ่อนยาเสพติด จากภาคเหนือลักลอบนำเข้ามายังพื้นที่ตอนใน โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 4 ก.ย.68
พฤติการณ์กล่าวคือ หลังจากสืบสวนทราบว่า จะมีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อนำมาซุกซ่อนพักคอยในพื้นที่ภาคกลางก่อนจะกระจายไปยังเครือข่าย โดยผู้ลำเลียงจะใช้รถบรรทุก 6 ล้อ เสริมคอก โดยอำพรางทำทีเป็นรถบรรทุกต้นกล้าไม้ เดินทางไปส่งยังพื้นที่ภาคเหนือ และจะตีรถเปล่ากลับมายังพื้นที่ภาคกลาง
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ จึงได้วางแผนเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของรถบรรทุกคันดังกล่าว ต่อมาในวันที่ 3 ก.ย.68 พบว่ารถคันดังกล่าว แล่นผ่านพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มุ่งหน้าไปทางพื้นที่ภาคเหนือ เชื่อว่าจะเดินทางขึ้นไปรับยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เฝ้าสังเกต และในวันที่ 4 ก.ย.68 พบว่ารถคันดังกล่าวแล่นออกจากพื้นที่ภาคเหนือมุ่งหน้าลงมาทาง ภาคกลาง จึงได้สะกดรอยติดตามมาตลอดเส้นทาง จนมาถึงถนนสายเอเชียเขตพื้นที่ อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท รถคันดังกล่าวได้จอดบริเวณริมทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ พบผู้ขับขี่ท่าทีมีพิรุธและพยายามจะหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวไว้ได้ และขอทำการตรวจค้นอย่างละเอียดภายในปั๊มน้ำมัน ริมถนนสายเอเชีย จ.ชัยนาท
ผลการตรวจค้นพบยาบ้า ซุกซ่อนอยู่ใต้ท้องบรรทุกที่ถูกดัดแปลง ห่อด้วยกระดาษที่มีตัวอักษร “999” รวมประมาณ 1,200,000 เม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ผู้ขับขี่รถยนต์ว่าได้กระทำผิดฐาน “จำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในสังคม ซึ่งกระทบต่อความมั่นคงของรัฐและความปลอดภัยของประชาชน” พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลหาตัวผู้ร่วมกระทำผิดในเครือข่ายนี้โดยเร่งด่วนต่อไป
>> กกล.บูรพา จับแรงงานกัมพูชากว่าครึ่งร้อย สภาพอิดโรย หิวโซ สารภาพสิ้นไร้หนทาง
12.25 น. กองกำลังบูรพา, ฉก.อรัญประเทศ และ ชค.ทพ.12 (ร้อย ทพ.1206) ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณท้ายหมู่บ้านกุดหิน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังได้รับแจ้งจากสายข่าวในพื้นที่ว่ามีการลักลอบข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้าน จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวแรงงานชาวกัมพูชาจำนวน 50 คน (ชาย 33 คน, หญิง 17 คน) ขณะกำลังเดินเท้าเข้ามาในพื้นที่ สภาพของแรงงานทั้งหมดดูอิดโรยและหิวโหย เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โดยแรงงานเหล่านี้เปิดเผยว่า พวกเขาเคยทำงานในประเทศไทยมาก่อน แต่จำต้องเดินทางกลับประเทศกัมพูชาเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากมาตรการควบคุมการเข้าออกที่เข้มงวดของทั้งสองประเทศ แต่เมื่อกลับไปถึงภูมิลำเนาแล้ว กลับไม่มีงานทำและขาดรายได้ ประกอบกับรัฐบาลกัมพูชาไม่มีมาตรการช่วยเหลือใดๆ จึงตัดสินใจยอมจ่ายเงินค่าเดินทางให้ผู้นำทางหัวละ 5,000-6,000 บาท เพื่อกลับมาตายเอาดาบหน้าในประเทศไทยอีกครั้ง
พวกเขายังเล่าอีกว่า ได้ติดต่อผู้นำทางชาวกัมพูชา 3 คน เพื่อนำพาข้ามแดนมาตามเส้นทางธรรมชาติเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ แต่ระหว่างทางก็ถูกเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบเสียก่อน โดยผู้นำทางทั้ง 3 คนอาศัยช่วงชุลมุนวิ่งหลบหนีไปในไร่อ้อย เหลือไว้แต่แรงงานชาวกัมพูชาที่ถูกจับกุมตัวไว้ได้ทั้งหมด เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวแรงงานชาวกัมพูชาทั้งหมดที่จับกุมได้ในครั้งนี้ ส่ง สภ.คลองน้ำใส เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
>> เพลิงไหม้ห้องเก็บของ ภายในวัดสัมมาชัญญาวาส ถนนพระยาสุเรนทร์
12.49 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ วัดสัมมาชัญญาวาส ถนนพระยาสุเรนทร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร
ประกอบกิจการศาสนสถาน ต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในห้องเก็บของ เพลิงลุกไหม้เสียหายวัสดุ กล่องเก็บของและกองกระดาษ พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 5 ตารางเมตร ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายความร้อน
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ไฟฟ้าลัดวงจรแผงควบคุมระบบไฟฟฟ้า ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางชัน
>> เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ซอยจรัญสนิทวงศ์ 64
13.37 น สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ชุมชนวัดสิงห์ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 64 แยก 5 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นล่าง เพลิงลุกไหม้เสียหายชั้นล่างทั้งหมด และลุกลามชั้นบนเสียหายบางส่วน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 30 ตารางเมตร ประชาชนใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายควันและความร้อน
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ ไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากเพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งหมด ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบวรมงคล
>> "บิ๊กเต่า" เรียกประชุมคณะทำงานติดตามคดีภัยคุกคามพระพุทธศาสนา, สั่งการกองปราบตรวจสอบหมอดูทั่วประเทศ
13.43 น. พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เป็นประธานการประชุมคณะทำงานศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา โดยมีการติดตามความคืบหน้าเรื่องร้องเรียนต่างๆ ที่ส่งเข้ามาที่ศูนย์ฯ รวมถึงการตรวจสอบเรื่องที่น่าสนใจเป็นพิเศษ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อรูปคดี
นอกจากนี้ ยังมีการหารือถึงกลุ่มบุคคลที่อ้างตนว่าเป็นหมอดู, หมอผี หรือผู้มีญาณทิพย์ ซึ่งทางตำรวจมองว่าคนกลุ่มนี้อาจเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน จึงได้สั่งการให้กองปราบปรามรวบรวมข้อมูลหมอดูทั่วประเทศ และหากมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงให้เสียเงินค่าดูดวงหรือค่าบริจาค สามารถเข้าให้ข้อมูลกับกองปราบได้ทันที โดยตนอยากย้ำเตือนให้ประชาชนมีสติและอย่าหลงเชื่อเรื่องงมงาย
ในส่วนของคดีวัดพระบาทน้ำพุ วันนี้จะมีการประชุมร่วมกับกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม โดยล่าสุดมีนักร้อง 4 คนและ "ถั่วแระ เชิญยิ้ม" ตลกชื่อดัง เตรียมขอเข้าพบตนเพื่อให้ข้อมูลและชี้แจงเกี่ยวกับค่าจ้างการแสดงต่างๆ รวมไปถึงจะนำเอกสารเพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วย
>> ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ สั่งตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม และจัด จนท.เวรอำนวยความสะดวก
16.17 น. นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ รวมถึงมีน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้มีน้ำท่วมขังผิวจราจร และภายในชุมชนต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้สั่งการให้ตั้ง ศูนย์รับแจ้งเหตุความเดือดร้อนและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่บ้านเรือนได้รับ ผลกระทบจากน้ำท่วมขัง พร้อมทั้งจัดชุดปฏิบัติการพิเศษเคลื่อนที่เร็วให้เข้าถึงครัวเรือนที่ถูกน้ำท่วมโดยด่วน ให้จัดรถบรรทุก 6 ล้อ บริการประชาชน ตลอด 24ชั่วโมง หากไม่มีรถยกสูงขนย้ายผู้ประสบภัย สามารขอรับการสนับสนุนจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมทั้ง จัดเจ้าหน้าที่เวรอำนวยความสะดวก ช่วยเหลือประชาชนประจำจุดบริเวณน้ำท่วมขัง 24 ชั่วโมง
>> ศาลฎีกา อ่านคำสั่งการบังคับโทษทักษิณ พรุ่งนี้ (9 ก.ย.) เตรียมกำลังตำรวจ-คฝ 100 นาย ดูแลความเรียบร้อย
17.12 น. ที่บริเวณอาคารศาลฎีกา ฝั่งริมคลองหลอด เจ้าหน้าที่ศาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ร่วมกันวางแผนกำหนดแนวพื้นที่เพื่อรักษาความเรียบร้อยเพื่อรองรับการอ่านคำสั่งบังคับโทษคดีชั้น 14 ในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ย.68) ที่ ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกหมายเรียก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้เดินทางมาฟังคำสั่งที่ศาลฎีกาฯ ด้วย
โดยเบื้องต้นจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม เเละกองกำลัง คฝ. รวมจำนวนทั้งสิ้น 100 นาย รวมทั้งได้กำหนดพื้นที่เพื่อรักษาความเรียบร้อย โดยจะอนุญาตให้สื่อมวลชนที่ลงทะเบียนกับศาลฎีกาสามารถเข้าฟัง เเละนำรถทีมข่าวมาจอดบริเวณด้านหลังอาคารศาลฎีกา ริมคลองหลอดได้
ส่วนกลุ่มมวลชนที่จะมาให้กำลังใจนายทักษิณ ให้รวมตัวกันที่บริเวณลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม เชิงสะพานผ่านพิภพลีลา โดยจะมีเเผงเหล็กกั้นไว้เช่นกัน
>> รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต เป็นหนุ่มวัย 19 ปี
19.45 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิร่วมกตัญญูมีอุบัติเหตุ รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้เสียชีวิต บนถนนประชาสำราญ ใกล้เคียงทางเข้าเอื้ออาทรประชาสำราญ
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีแดง ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนกับ รถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ใกล้กันพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นผู้ชาย อายุ 19 ปี ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนอกจอก
>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดเชียงใหม่
21.38 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.4 ความลึก 3 กม. บริเวณพื้นที่ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ไม่มีรายงานการรับรู้แรงสั่นสะเทือน