ลำปางสว่างมาก! 'Vijit@ลำปาง' เที่ยวงานไฟในเมืองรถม้า
ลำปาง เมืองที่เวลาดูเหมือนจะเดินช้าลงอย่างจงใจ เมืองที่เสียงเกือกม้ายังคงก้องกังวานเป็นซาวด์แทร็กประจำวัน และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ยังคงยืนหยัดเล่าเรื่องราวของวันวานได้อย่างภาคภูมิใจ แต่ในค่ำคืนตลอดสัปดาห์นี้ นครลำปางที่คุ้นเคยกำลังจะถูกปลุกให้สว่างไสวและมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ด้วยปรากฏการณ์แสง สี เสียงสุดตระการตาในงาน Vijit@ลำปาง หรือ วิจิตรลำปาง ที่จะพาทุกคนเดินทางข้ามเวลาไปสัมผัสกับ ‘เสน่ห์เหนือกาลเวลา’ โดยที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เนรมิตเมืองรถม้าแห่งนี้ให้กลายเป็นผืนผ้าใบขนาดมหึมา สาดส่องเรื่องราวและจิตวิญญาณของลำปางผ่านนวัตกรรมแสงสีและสื่อผสมที่ทันสมัย ภายใต้คอนเซปต์ "นครลำปาง: เสน่ห์เหนือกาลเวลา Lampang: The Timeless City" ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่งานประดับไฟสวยงาม แต่คือการนำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่กระตุ้นให้เราออกเดินทางเพื่อมาเห็นด้วยตาตัวเอง ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 14 กันยายน 2568 นี้
สี่มุมเมือง สี่เรื่องเล่าผ่านแสงไฟ
ความมหัศจรรย์ของ Vijit@ลำปาง ไม่ได้กระจุกตัวอยู่เพียงที่เดียว แต่กระจายตัวไปทั่ว 4 ย่านสำคัญของเมือง ร้อยเรียง 1 แลนด์มาร์ก และ 12 จุดการแสดง เข้าไว้ด้วยกันเป็นเส้นทางแห่งแสงที่เล่าประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และอัตลักษณ์ของนครลำปางได้อย่างน่าทึ่ง นักท่องเที่ยวยังนั่งรถรางชมเมืองในบรรยากาศสุดพิเศษเพื่อเก็บเกี่ยวความประทับใจในแต่ละจุดได้อีกด้วย
ย่านใจกลางเขลางค์นคร
การเดินทางเริ่มต้นที่ หอนาฬิกา แลนด์มาร์กที่เป็นดั่งศูนย์กลางของเมือง ซึ่งถูกตีความใหม่ในชื่อ "The Rhythm of Lampang: จังหวะของลำปาง" แสงสีที่ฉาบไล้บนสถาปัตยกรรมร่วมสมัยทำให้หอนาฬิกาดูแปลกตาไป ราวกับชีพจรของเมืองที่กำลังเต้นเป็นจังหวะแห่งอนาคตโดยไม่ทิ้งรากเหง้าของอดีต ไม่ไกลกันนัก ที่ หอปูมละกอน กับงานศิลปะแสง "The Flow of the Swan: ลำนำหงส์เหนือกาล" ได้สะท้อนอัตลักษณ์ของเมืองที่ไม่เคยหยุดนิ่งตามกาลเวลา
และที่ สวนสาธารณะห้าแยกหอนาฬิกา ประติมากรรมแสงรูปไก่ขาว สัญลักษณ์แห่งนครลำปาง ในชื่อ "Heart of Lampang: ดวงใจแห่งลำปาง" ได้ถูกจุดประกายขึ้นเพื่อปลุกจิตวิญญาณของพื้นที่ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ย่านกาดกองต้า-ท่ามะโอ
เมื่อก้าวเข้าสู่ย่านเมืองเก่าอย่างกาดกองต้าและท่ามะโอ เราจะสัมผัสได้ถึงประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต ที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าไม้ที่รุ่งเรือง ดึงดูดผู้คนหลากหลายเชื้อชาติเข้ามาตั้งรกราก จนงานวิจิตรลำปางทำให้เกิดเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงามและมีเอกลักษณ์ ที่ บ้าน 3 สไตล์กาดกองต้า เรื่องราวการค้าในอดีตถูกปลุกให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง ผ่านการใช้แสงและเงาที่เน้นลวดลายดั้งเดิมของสถาปัตยกรรม ไม่ว่าจะเป็น อาคารเยียนซีไท้ลีกี ที่สะท้อนวัฒนธรรมจีนในนาม "Hall of Light and Shadow: หอการค้าแห่งแสงเงา"
บ้านแม่แดง ที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมไทย-จีน-ตะวันตก ในชื่อ "The House of Prosperity: อาคารแห่งความรุ่งเรือง" หรือ อาคารหม่องโง่ยซิ่น ตัวแทนยุคทองของกิจการป่าไม้ที่ผสมผสานวัฒนธรรมไทย-พม่า-ยุโรป ในคอนเซปต์ "Timber Legacy: มรดกแห่งไม้และกาลเวลา"
ข้ามมาที่ย่านท่ามะโอ ที่ วัดเกาะวาลุการาม แสงไฟในรูปแบบ Light Installation ภายใต้ชื่อ "Glimmer of Enlightenment: ประกายแห่งปัญญา" ได้เนรมิตให้วัดที่เงียบสงบในยามค่ำคืนส่องประกายแห่งศรัทธาและภูมิปัญญาของชาวเขลางค์นคร ส่วนที่ บ้านหลุยส์ ที เลียวโนเวนส์ เรือนไม้เก่าแก่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ก็กลับมามีชีวิตอีกครั้งใน "Shadow Forest House: รอยเงาแห่งเรือนป่า" การออกแบบแสงและเงาที่นี่เผยให้เห็นความรุ่งเรืองในอดีตของยุคค้าไม้ และตอกย้ำความสำคัญของสถานที่แห่งนี้ต่อการสร้างเมืองลำปาง
ย่านสบตุ๋ย
เส้นทางรถไฟไม่ได้เป็นเพียงเส้นทางสัญจร แต่เป็นเส้นเลือดใหญ่ที่นำพาความเจริญมาสู่ลำปางในอดีต ที่ สวนรถไฟสะพานดำ จิตวิญญาณแห่งยุครถไฟถูกหล่อหลอมขึ้นมาใหม่ผ่านประติมากรรมแสง 3 รูปแบบ เริ่มจาก "The Locomotive Light: หอประทีปรถจักร" ที่นำวัสดุเก่าจากระบบรถไฟมาสร้างสรรค์เป็นสัญลักษณ์ของกาลเวลาที่ถูกหล่อหลอมใหม่ ต่อด้วย "Fire Memory : ไฟแห่งความทรงจำ" ประติมากรรมจากคันชักและประแจที่ส่องสว่างราวเปลวไฟ สื่อถึงพลังงานและความร้อนในยุคทองของรถไฟ และปิดท้ายด้วย "Echo of the Hooves: เสียงสะท้อนแห่งกาลเวลา" ประติมากรรมรถม้าที่สร้างจากชิ้นส่วนรถไฟเก่า ซึ่งสะท้อนอัตลักษณ์ของลำปางได้อย่างคมคายและงดงาม
รวมไฮไลท์ที่ต้องห้ามพลาด
นอกจากการจัดแสดงไฟตามจุดต่างๆ แล้ว Vijit@ลำปาง ยังจัดเต็มกับการแสดงไฮไลท์สุดอลังการด้วยนวัตกรรมแสง สี เสียง และสื่อผสมที่ทันสมัยถึง 3 จุด ซึ่งจะมีการแสดงหมุนเวียนถึงวันละ 16 รอบ เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสความยิ่งใหญ่กันอย่างเต็มอิ่ม
- วัดเชียงราย: พบกับการแสดง Laser Mapping ชุด "Chapter of Faith : บทบันทึกแห่งศรัทธา" ที่ใช้ลำแสงเลเซอร์สุดตระการตาเชื่อมโยงอดีตเข้ากับปัจจุบันบนโบราณสถานสถาปัตยกรรมล้านนา เกิดเป็นความงามที่ล้ำสมัยอย่างน่าอัศจรรย์
- สะพานแขวน (สะพานส้ม): จุดนี้คือ "The Crossing of Eternity : ข้ามผ่านกาลนิรันดร์" การแสดง Illumination ประกอบ Laser และ Light & Sound ที่ยิ่งใหญ่ พร้อมบทเพลงที่ประพันธ์ขึ้นใหม่โดย ครูแอ๊ด (ภานุทัต อภิชานาธง) เพื่อมอบความสุขและความทรงจำยามค่ำคืนให้กับผู้มาเยือนโดยเฉพาะ
- พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย (สาขาลำปาง): ตื่นตาตื่นใจไปกับการแสดง Projection Mapping ชุด "ขุมทรัพย์แห่งกาลเวลา"ภายใต้คอนเซปต์ "The Timeless Bank : ธนาคารสะสมกาล" ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของนครลำปางตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันผ่านภาพที่ฉายลงบนตัวอาคารเก่าแก่อันงดงาม
งาน Vijit@ลำปาง จัดขึ้นตลอด 10 วันเต็ม ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลา 18.00 – 23.00 น. และที่สำคัญคืองานนี้ เข้าชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย นี่คือโอกาสดีที่จะได้มาสัมผัสเมืองลำปางในมุมมองใหม่ที่สร้างสรรค์และน่าประทับใจ เป็นการเดินทางที่ไม่ได้เพียงแค่เห็นความสวยงามของแสงไฟ แต่ยังได้ซึมซับเรื่องราวและจิตวิญญาณของ "นครลำปาง เสน่ห์เหนือกาลเวลา" ที่จะตราตรึงอยู่ในความทรงจำไปตราบนานเท่านาน