ทรัมป์ขู่ฟาดภาษีจีน 200% หากไม่ส่งแร่หายากให้ หลังดีลหมดอายุพ.ย.นี้
ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนกำลังเคลื่อนไปสู่จุดปะทะอีกครั้ง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณเตือนว่าหากจีนจำกัดการส่งออกแม่เหล็กแร่หายาก (rare-earth magnets) ซึ่งถือเป็นวัตถุดิบยุทธศาสตร์ที่ขาดไม่ได้ต่อห่วงโซ่อุตสาหกรรมสหรัฐฯ เขาพร้อมตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนสูงถึง 200%
“พวกเขาจำเป็นต้องส่งแม่เหล็กให้เรา หากไม่ส่ง เราก็จะเก็บภาษี 200% หรือมากกว่านั้น” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว หลังการประชุมกับประธานาธิบดีอี แจ มยอง ของเกาหลีใต้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คำพูดนี้ไม่เพียงสะท้อนท่าทีแข็งกร้าวของสหรัฐฯ แต่ยังเพิ่มแรงกดดันต่อข้อตกลงพักรบทางการค้าที่เปราะบาง ระหว่างสองเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก
ทรัมป์ยังกล่าวอย่างชัดเจนว่า อุตสาหกรรมการบินเป็นแต้มต่อที่สหรัฐฯ สามารถใช้ต่อรองกับจีน โดยอ้างว่าเครื่องบินของจีนกว่า 200 ลำไม่สามารถขึ้นบินได้ เนื่องจากวอชิงตันจงใจระงับการส่งมอบชิ้นส่วนจากโบอิ้ง “เราถือไพ่ในมือ เครื่องบินของพวกเขาหยุดบินเพราะเราไม่ส่งอะไหล่โบอิ้งให้” เขาย้ำ
ขณะเดียวกัน โบอิ้งก็กำลังเร่งผลักดันการเจรจาดีลครั้งประวัติศาสตร์กับจีน โดยรายงานจาก Bloomberg ระบุว่า จีนอาจสั่งซื้อเครื่องบินมากถึง 500 ลำ ซึ่งทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างหารือรายละเอียดในประเด็นรุ่น ประเภท และกำหนดการส่งมอบ ข้อตกลงนี้สะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมการบินพาณิชย์กำลังกลายเป็น “หมากตัวสำคัญ” บนโต๊ะเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน
จีนถือไพ่แม่เหล็กหายาก ข้อตกลงชั่วคราวใกล้หมดอายุ
คำพูดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีขึ้นในช่วงเวลาที่การส่งออกแม่เหล็กของจีนกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง หลังจากที่จีนเคยบังคับใช้มาตรการควบคุมในเดือนเมษายน ข้อมูลทางการล่าสุดระบุว่า ในเดือนมิถุนายน การส่งออกแม่เหล็กไปยังสหรัฐฯ พุ่งขึ้นกว่า 660% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และในเดือนกรกฎาคมก็ยังขยายตัวต่อเนื่องอีก 76% ส่งผลให้ปริมาณส่งออกกลับมาอยู่ใกล้ระดับก่อนการควบคุม
ปัจจุบัน จีนครองความได้เปรียบในตลาดโลกอย่างชัดเจน ด้วยสัดส่วนการผลิตแม่เหล็กหายากราว 90% และยังมีบทบาทสำคัญในกระบวนการแปรรูปแร่ที่จำเป็นต่อการผลิตแม่เหล็ก อำนาจดังกล่าวทำให้จีนมีแต้มต่อสูงบนโต๊ะเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ โดยเฉพาะเมื่อสหรัฐฯ ต้องพึ่งพาวัตถุดิบเหล่านี้ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมหลัก ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ หรือพลังงานหมุนเวียน
อย่างไรก็ตาม เฮนรี หวัง ผู้ก่อตั้งและประธานศูนย์ China & Globalization ในกรุงปักกิ่ง มองว่า คำพูดของทรัมป์เป็นเพียง “การขู่” พร้อมเสริมว่า “เขามักจะพูดโอ่อ่าเรื่องภาษีหรือมาตรการลงโทษ แต่เราไม่ควรติดกับดักวาทกรรมเช่นนั้น”
ในอีกด้านหนึ่ง ข้อตกลงการค้าชั่วคราวที่สหรัฐฯ และจีนบรรลุร่วมกันเมื่อเดือนมิถุนายน ซึ่งครอบคลุมทั้งการผ่อนคลายข้อจำกัดการส่งออกแร่หายาก การยกเลิกข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีบางส่วน รวมถึงการปรับลดอัตราภาษีสินค้าของกันและกันลงเหลือ 55% และ 32% กำลังจะสิ้นสุดอายุในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ ทำให้หากสหรัฐฯ และจีนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใหม่ได้ จีนก็อาจกลับไปจำกัดการส่งออกแร่และแม่เหล็กหายากไปสหรัฐฯ อีกครั้ง
สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อถ้อยแถลงล่าสุดของทรัมป์
ก้าวต่อไปของการเจรจา
รายงานจาก Wall Street Journal เปิดเผยว่า หลี่ เฉิงกัง หัวหน้าคณะเจรจาการค้าระดับอาวุโสของจีน มีกำหนดเดินทางไปกรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ เพื่อเข้าพบเจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการคลัง การหารือครั้งนี้ถูกจับตามองว่าอาจเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการเจรจาระดับสูงที่มีเป้าหมายในการหาทางออกระยะยาวต่อข้อพิพาททางการค้า ซึ่งยืดเยื้อมาหลายปีและสร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่อง
อัลเฟรโด มอนตูฟาร์-เฮลู กรรมการผู้จัดการบริษัทที่ปรึกษา GreenPoint ให้ความเห็นว่า ความสำเร็จของการหยุดยิงทางการค้าจะขึ้นอยู่กับ “การสานต่อการเจรจาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง” พร้อมระบุว่าการเดินทางเยือนของหลี่ครั้งนี้อาจเป็น “ก้าวสำคัญ” ที่ช่วยปูทางไปสู่ข้อตกลงถาวร ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง ไม่เพียงจะช่วยลดแรงปะทะระหว่างสองเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ แต่ยังส่งผลเชิงบวกต่อบรรยากาศการลงทุนและความเชื่อมั่นในตลาดโลกที่กำลังเฝ้ารอความชัดเจน