"แม่ทัพกุ้ง" ประเมินชายแดนไทย-กัมพูชา ยัง 50-50 กัมพูชาไว้ใจไม่ได้
(19 ส.ค. 68) ที่ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ หรือ วปอ. ได้จัดพิธีมอบทุนสนับสนุน และอุปกรณ์สนับสนุนกำลังพลแนวหน้าบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีผู้บัญชาการกองทัพเข้าร่วมพิธีรับมอบ
พลเอกอุกฤษฎ์ บุญตานนท์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวว่า ตลอดช่วงการปะทะชายแดนที่ผ่านมา กองทัพภาค 2 ได้ยืนหยัดต่อสู้ กล้าหาญ ไม่หวาดหวั่น แน่นอนว่าการบริหารการต่อสู้หลีกเลี่ยงไม่ได้ในความบาดเจ็บสูญเสียของกำลังพล จากวันนั้นถึงวันนี้กำลังพลยังไม่เสียขวัญ ยังคงทำงานเต็มที่ในการรักษาอธิปไตยของไทย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงต้องมอบความช่วยเหลือให้กับทหารที่บาดเจ็บ และเป็นการเสริมกำลังการปฏิบัติการทางทหาร โดยมีวัตถุประสงค์ เชิดชูเกียรติ ตอบแทนคุณงามความดีต่อกำลังพล มอบสวัสดิการให้กำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ พัฒนาขีดความสามารถยุทโธปกรณ์ เทคโนโลยี และการพิสูจน์ทราบในด้านต่างๆ ยังเป็นการปกป้องอนาธิปไตยสิ่งของที่สนับสนุน จะเสริมความมั่นคงในฐานที่มั่น เช่น บังเกอร์ รวมทั้งเส้นทางลาดตระเวนตามภูมิประเทศที่สำคัญ รวมถึงการบริการห้องน้ำ สุขาเคลื่อนที่ ยกตัวอย่างบริเวณภูมะเขือ เป็นจุดที่ทหารไทยเข้าควบคุม ได้วางกำลังค่อนข้างมาก แต่พื้นที่ดั่งกล่าวยากเข้าถึงสุขอนามัยที่ดี จึงต้องมีสุขาให้ถูกสุขลักษณะ จัดหาแผงโซลาเซลล์ กล้องส่องทางไกลอินฟราเรด เพื่อให้นำไปใช้ได้เกิดประโยชน์ และสร้างความปลอดภัยต่อกำลังพล
พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวปาฐกถาว่า เหตุการณ์ตลอดแนวชายแดนเกือบพันกิโลเมตรมีมากกว่าที่ฝ่ายเสนาธิการทหารได้รายงาน พวกเราทหารที่อยู่แนวหน้าพยายามทำให้ดีที่สุด การสูญเสียที่เกิดเราได้ป้องกันอย่างเข้มงวดในทุกระดับชั้น แต่การเข้าตีบางอย่างที่มีเหตุให้ทหารบาดเจ็บบ้าง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับทหารบาดเจ็บเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด สิ่งของที่มอบให้นำไปใช้ในหน้าแนวตามวัตถุประสงค์โดยด่วน บางครั้งงบประมาณราชการก็มีอยู่แล้ว ซึ่งเพียงพอ แต่บางรายการมันเร่งด่วนในการจัดหา การรองบประมาณอาจจะไม่ทัน เวลานี้มีการสอบถามการบริจาคที่หน่วยเพื่อให้ตรงความต้องการ พร้อมทั้งมีเงินช่วยเหลือให้ทหารบาดเจ็บตามแนวชายแดน
ส่วนสถานการณ์ชายแดน แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า สถานการณ์ห้วงนี้ยัง 50/50 ตามที่ข่าวประเทศกัมพูชาเป็นตามที่สังคมเข้าใจไม่มีอะไรที่ไว้ใจได้ ปัจจุบันกองทัพภาคที่ 2 ได้วางกำลังมีผู้บัญชาการทหารสูงสุดลงไปตรวจเยี่ยม เหล่าทัพมีความพร้อมทั้งที่จะคุยกับแบบมีมิตรภาพ และแบบมีเหตุให้ปะทะอีก ขอให้ทุกท่านสบายใจในการปฏิบัติของทหารไทย แต่ตนหวังว่าเหตุการณ์จะยุติโดยเร็ว โดยปลายเดือนนี้จะประชุมRBC กับแม่ทัพภาคที่4 จะพูดคุยให้เข้าใจนำไปสู่การประชุมEBC หวังว่าจะคุยเข้าใจ ทุกสิ่งตั้งอยู่บนระเบียบประเทศชาติ เราพร้อมทำตามหน้าที่ที่ทุกท่านฝากความหวังไว้