ผลไม้พิษ’ระบอบทักษิณ’ แขวน2แพทย์ใหญ่รพ.ตำรวจ
รายชื่อนายพล เริ่มเห็นหน้าค่าตากันบ้างว่าใครเป็นใคร หลังจากที่ “บิ๊กต่าย”-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ“บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ “รอง ผบ.ตร.-ผบก.” ไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. เข้าร่วมประชุมกลั่นกรอง
บอร์ดกลั่นกรองเริ่มถกกันตั้งแต่เวลา 09.00 น. กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไป 19.00 น. แต่ละตำแหน่ง “บิ๊กต่าย”-เจ้ากรมปทุมวัน ให้ “ผบช.” ทุกหน่วยชี้แจงบัญชีรายชื่อผู้เหมาะสมที่เสนอขึ้นมา รวมทั้งโยกสลับในระนาบเดียวกัน วาระแต่งตั้งนายพลปีนี้ ระดับ “รอง ผบ.ตร.” ตำแหน่งที่ว่าง 2 ตำแหน่ง “ผู้ช่วย ผบ.ตร.” 7 ตำแหน่ง “ผบช.” 16 ตำแหน่ง “รอง ผบช.” 40 ตำแหน่ง และ “ผบก.” 71 ตำแหน่ง
“รอง ผบ.ตร.” ว่าง 2 ตำแหน่ง ที่ “บิ๊กจวบ”-พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร.เกษียณอายุราชการสิ้นเดือนกันยายนนี้ ตามกฎ ก.ตร.และ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 กำหนดเรียงลำดับอาวุโส 100% อาวุโสอันดับ 1 “บิ๊กราญ”-พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. เลื่อนขึ้นอัตโนมัติ อาวุโสอันดับ 2 พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร. อดีตแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ อาวุโสอันดับ 3 “บิ๊กแมน”-พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง จตช.
แต่มีปัญหาต้องถกกันในที่ประชุม พล.ต.ท.โสภณรัชต์ ถูก แพทยสภา ชี้มีความบกพร่องทางจริยธรรม เอื้อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นอนรักษาตัวห้องวีวีไอพี ชั้น 14 ชี้ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงทางการแพทย์ โดยลงโทษพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 3 เดือน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ และอยู่ระหว่างการถูกตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงของ ตร. ถูกกล่าวหาหรือเป็นที่สงสัยว่ากระทำผิดวินัย
อดีตแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ จากที่จะได้เลื่อนขึ้น “รอง ผบ.ตร.” ติดยศ “พล.ต.อ.” แบบสบายๆ เป็นอันต้องสะดุด ถูก “แขวน” ไว้ก่อน ส้มหล่นใส่ “บิ๊กแมน” พล.ต.ท.อิทธิพล รอง จตช.อาวุโสอันดับ 3 ขยับขึ้นเป็น “จตช.” แทน ส่วนระดับ “ผู้ช่วย ผบ.ตร.” ว่าง 7 ตำแหน่ง แต่งตั้งเรียงอาวุโส 100% 1.พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8, 2.พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., 3.พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7, 4.พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ ผบช.สง.ก.ตร., 5.พล.ต.ท.อุดร ยอมเจริญ ผบช.ส., 6.พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2 และ 7.พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ
ลำดับที่ 7 พล.ต.ท.ทวีศิลป์ แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ มีปัญหาต้องถกกันในที่ประชุมอีกตำแหน่งถึงความเหมาะสม เมื่อกฎ ก.ตร.และ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 การพิจารณาแต่งตั้งตำรวจดำรงตำแหน่งสูงขึ้น จะต้องพิจารณาความประพฤติ วินัยและจริยธรรมตำรวจเป็นองค์ประกอบ แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจเป็นอีกคนที่ถูกแพทยสภาชี้มีความบกพร่องทางจริยธรรม การรักษาตัวนายทักษิณ ชั้น 14 รพ.ตำรวจ
กรณีให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง สั่งลงโทษพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมเป็นเวลา 6 เดือน พล.ต.ท.ทวีศิลป์จึงถูกเบรกเลื่อนขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. โยกอาวุโสอันดับ 8 “บิ๊กอรรถ” พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท.ขึ้นแทน
ปมชั้น 14 รพ.ตำรวจ เป็นที่สนใจของประชาชน สื่อในประเทศ ต่างประเทศเฝ้าติดตามรายงานความเคลื่อนไหว คดีนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเปิดไต่สวนการบังคับโทษจำคุกนายทักษิณ เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาลหรือไม่ ศาลไต่สวนรวม 7 นัด เรียกพยานบุคคล 31 ปากขึ้นเบิกความ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ หมอผู้ออกใบส่งตัว พยาบาลเวร ผู้คุม ทีมแพทย์ รพ.ตำรวจ ขณะนอนรักษาตัวชั้น 14 ขณะเดียวกันยังเรียกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคของนายทักษิณ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีขึ้นเบิกความส่วน ดร.วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ ขึ้นเบิกความเป็นปากสุดท้ายในฐานะพยานของฝ่ายจำเลย
ก่อนที่ศาลฎีกาฯ นัดฟังคำสั่งบังคับโทษนายทักษิณ "คดีชั้น 14" วันที่ 9 ก.ย.นี้ พร้อมมีคำสั่งให้ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และนายทักษิณ จำเลยเข้าฟังคำสั่งศาลด้วย เสียวสันหลังทั้งองคาพยพ พยานที่ขึ้นเบิกความในคดีนี้ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคของนายทักษิณ 3 ท่าน ระบุตรงกันว่า อาการป่วยของอดีตนายกฯ "ไม่วิกฤต" และไม่จำเป็นต้องนอนรักษาตัวใน รพ.
ผลไม้พิษ “ระบบทักษิณ” ภาคประชาชนอย่างกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล ได้ออกมาเรียกร้องพร้อมยื่นหนังสือถึง “ผบ.ตร.” ลงโทษทั้งวินัย-อาญา กับ 2 แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ที่เข้าข่ายความผิดมาตรา 83, 84 และ 86 รวมทั้งเข้าข่ายความผิดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 157 เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่าง
ส่วน นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ร้องให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และร้องคัดค้านหลังมีรายชื่อที่จะได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้น เพราะคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ระหว่างสอบสวนในคดีตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 หากได้รับการเลื่อนชั้นจะเป็นการทำลายระบบคุณธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ส่งผลให้คณะกรรมการข้าราชการตำรวจและสำนักงานตำรวจแห่งชาติถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้
ตำรวจกับการเมืองแยกกันไม่ออก เช่นเดียวกันกับการแต่งตั้งโยกย้าย "นายพล" ในคราวนี้ ตั๋วนักการเมืองจากพรรครัฐบาลถูกยัดเข้าบอร์ดกลั่นกรองหลายตำแหน่ง แต่ละฝ่ายวิ่งวัดกำลังภายในกันฝุ่นตลบ โดยเฉพาะเก้าอี้ “ผบช.” ซึ่งเป็นกำลังหลักดูแลพื้นที่ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นปี 70 ถึงแม้โผจะเริ่มเห็นแล้วว่าใครนั่งเก้าอี้ไหน แต่ยังไม่ถึงวัน ก.ตร.เคาะโผอย่างเป็นทางการ เป็นอันว่ายังไม่นิ่ง มีสิทธิ์เปลี่ยนได้ทุกเมื่อ แต่ พ.ร.บ.ตำรวจฉบับใหม่ พ.ศ.2565 ยังพอให้ความเป็นธรรมกับข้าราชการตำรวจที่ตัวบทกฎหมายกำกับอยู่ นักการเมืองไม่สามารถเข้ามาล้วงลูกได้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
ยิ่งเสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลถดถอย ความมั่นคงตามแนวชายแดนถูกรุกราน ประชาชนขาดความเชื่อมั่น สวนทางกับดัชนีของทหาร มนต์ขลัง ระบอบทักษิณ ขาลง ถึงแม้ตำรวจกับการเมืองจะเป็นคอหอยลูกกระเดือก แต่การแต่งตั้งครั้งนี้ ตำรวจที่เคยฝากตัวรับใช้นาย ต้องมองทิศทางลมให้ดี พรรคเพื่อไทยคงยากที่จะมาเป็นพรรคนำรัฐบาลอีกครั้ง
อย่าเสี่ยงเอาอนาคตราชการไว้กับนักการเมือง ผลเป็นที่ประจักษ์ แม้แต่รัฐมนตรีหลายคนยังถูกจำคุกมาแล้ว!.