พระลูกวัดเรียกร้องตรวจสอบเส้นทางการเงินวัดม่วง
ความคืบหน้าเหตุลักทรัพย์ภายในกุฏิของพระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร ความเสียหายเงิน 10 ล้านบาท ทองคำ 250 ล้านบาท
ล่าสุด วันนี้ (2 ก.ค.2568) เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลเพชรเกษม ลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบภายในกุฏิของ พระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง
ทันทีที่เดินทางมาถึงพบว่าพื้นที่ด้านล่างอาคารของโรงเรียนพระปริยัติธรรมเป็นกุฏิมีการล็อกกุญแจด้านหน้าทางเข้า เมื่อตำรวจพยายามโทรศัพท์ติดต่อไปหาเจ้าอาวาส เพื่อให้นำการตรวจค้นภายในก็ไม่สามารถติดต่อได้ เจ้าหน้าที่จึงใช้วิธีการเดินตรวจสอบโดยรอบบริเวณพร้อมขอข้อมูลจากบุคคลภายในวัด
พระนิทัศน์ อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง เปิดเผยว่า หลังปรากฏข่าวเจ้าอาวาสส่งตัวแทนเข้าแจ้งความว่า เงินและทองคำภายในกุฏิหายส่วนตัวหายไปนั้น ตั้งข้อสังเกตว่า กุฏิดังกล่าวไม่มีรอยงัดแงะ การจะเข้าไปภายในต้องผ่านประตูซึ่งล็อกถึง 5 ชั้น จึงแทบไม่มีความเป็นไปได้ที่บุคคลอื่นจะสามารถเข้าไปได้ ขณะเดียวกันยังมองว่าตู้เซฟที่มีการเก็บทรัพย์สินไว้นั้นมีขนาดใหญ่ การจะนำทรัพย์สินภายในออกไปก็ทำได้ยากเช่นกัน
นอกจากนี้ พระนิทัศน์ ยังอ้างว่า วัดแห่งนี้มีรายได้จากเงินบริจาคจำนวนมหาศาลแต่ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะหรือแม้แต่พระภิกษุในวัดเอง ส่วนการสร้างโบสถ์ และสร้างพระประธาน ต้องใช้เงินหลายล้านบาท แต่ก็ไม่มีใครรู้ข้อมูลรายรับ - รายจ่ายของวัด นอกจากเจ้าอาวาสเพียงคนเดียว จึงอยากเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินภายในวัดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะยอดเงินบริจาค
สำหรับการเข้าตรวจสอบในวันนี้ ทางชุดสืบสวน บก.ปปป.ได้เข้ามาประสานขอข้อมูลกับตำรวจ ซึ่งเป็นการตรวจสอบตามขั้นตอน โดยเบื้องต้น ชุดสืบสวน สน.เพชรเกษม พบข้อมูลว่า เจ้าอาวาสมีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า เงิน 10 ล้านบาทที่เบิกออกมาเป็นการเบิกจากบัญชีส่วนตัวจริง แต่เส้นทางการเงินก่อนจะเข้ามายังบัญชีส่วนตัวนั้นเป็นส่วนที่ บก.ปปป. ต้องรับไปตรวจสอบต่อ
หลังจากรับแจ้งความเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำพอสมควรแล้ว ประกอบกับพยานหลักฐานต่าง ๆ พบมีแนวโน้มว่า ทรัพย์สินดังกล่าวอาจจะหายไปจริง
นอกจากนี้เจ้าอาวาส ยังให้การว่าปกติแล้วจะเก็บเงินเอาไว้ในบัญชีแยกกับส่วนที่บริจาคเข้าวัด และการที่ไปเบิกเงินออกมาครั้งนี้ ก็เพราะมีคนสนิทแนะนำว่า หากเก็บเงินไว้เฉย ๆ จะไม่งอกเงยจึงให้ไปเบิกมาลงทุนซื้อทองคำเพื่อที่เงินจะงอกเงยและนำมาบูรณะวัดจึงได้มีการไปเบิกมาเก็บไว้เตรียมจะไปซื้อทองคำโดยเก็บรวมกับทองคำแท่งที่ซื้อมาก่อนหน้านี้
เบื้องต้น ตำรวจได้พุ่งเป้าไปที่คนในเพราะกุฏิเจ้าอาวาสนั้น หากไม่ใช่คนคุ้นเคยก็จะเข้าออกค่อนข้างยาก โดยพบว่ามีบุคคลต้องสงสัย 5 คน ที่รู้ว่าเจ้าอาวาสเก็บเงินและทองคำจำนวนนี้ไว้ในกุฏิแต่ก็ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อน เบื้องต้นยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพิ่มเติม กับ พนักงานสอบสวน สน. เพชรเกษม กรณีที่ปรากฏภาพกล้องวงจรปิดภายในกุฏิเจ้าอาวาสมีการนำกระดาษนำมาติดปิดบังกล้องวงจรปิด โดยระบุว่า ประเด็นนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบและสอบถามกับเจ้าอาวาส ตั้งแต่ในวันที่เข้าไปตรวจสอบ ถึงสาเหตุการนำกระดาษไปแปะกล้องวงจรปิด โดยเจ้าอาวาสให้การว่า การที่นำกระดาษไปปิดบังกล้องวงจร เพราะกังวลภาพที่ไม่เหมาะสมภายในกุฏิตอนที่อยู่ภายในกุฎิจะหลุดออกไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ปักใจเชื่อจึงมีการตรวจสอบต่อไป
อ่านข่าว : ตร.เร่งตามตัว 2 ลูกศิษย์ ขโมยเงินเจ้าอาวาสวัดม่วง 10 ล้าน ทองอีก 250 บาท