โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิงเอเชียน

SeoulStation : ‘NCT 127’ จากรุกกี้สู่บอยแบนด์ระดับโลก 9 ปีแห่งการเติบโตที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

เดลินิวส์

อัพเดต 22 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
SeoulStation Exclusive : “NCT 127” จากรุกกี้สู่บอยแบนด์ระดับโลก 9 ปีแห่งการเติบโตที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ผู้สร้างแรงบันดาลใจ-เชื่อมโยงหัวใจ “NCTzen” ทั่วโลกด้วยดนตรีที่ล้ำสมัยไร้ที่ติ

มาแล้วค่า..แฟนๆ“บันเทิงเดลินิวส์” ที่น่ารักของ“นูน่าเมี้ยน” ทุกคน กลับมาพบกันเป็นประจำทุกวันศุกร์ที่เดิมที่ “SeoulStation” พื้นที่ที่รวบรวมเรื่องราวข่าวสารของวงการบันเทิง K-Pop นักแสดง ไอดอลเกาหลีในรอบสัปดาห์มาอัปเดตแบบจัดเต็มพิเศษเพื่อให้แฟนๆ ทุกคนได้เขามาอ่านกันอย่างจุใจ โดยสัปดาห์วงการบันเทิงหลีก็มีเรื่องราวความพิเศษมากมาย และก็มีเรื่องราวที่ทำให้ใจเต้นตึกตักกันเยอะแยะไปหมดเลย แต่ที่สำคัญที่สุดที่นูน่าอยากจะพูดถึงในช่วงสัปดาห์นี้เลยก็คือ “วันครบรอบเดบิวต์ ” ของบอยแบนด์ผู้บุกเบิกอย่าง “ NCT 127” ของเหล่า “NCTzen” (ชื่อเรียกแฟนคลับเป็นทางการ NCT)ทั่วโลก ซึ่งจะตรงกับวันที่ 7 กรกฎาคมของทุกๆ ปี และในปีนี้ก็ถือว่าเป็นการ “ครบรอบเดบิวต์ 9 ปี” ที่หนุ่มน้อยในวันนั้นได้ก้าวเท้าเข้ามาสร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการ K-Pop ด้วยคอนเซ็ปต์สุดล้ำที่ไม่เคยมีมาก่อน!

สำหรับ NCT 127” เป็นวงยูนิตหลักภายใต้โปรเจกต์ Neo Culture Technology” (NCT) หรือ “เทคโนโลยีวัฒนธรรมใหม่” ของค่ายบันเทิงยักษ์ใหญ่ SM Entertainment โดยหมายถึงคอนเซ็ปต์ของวงที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติแนวคิดของวงการ K-Pop ในขณะนั้นด้วยการนำเสนอคอนเซ็ปต์ “ความเปิดกว้างและขยายตัว” ที่ไม่เคยมีมาก่อนในวงการเพลงเกาหลี ย้อนกลับไปเมื่อ 9 ปีก่อน กลุ่มเด็กหนุ่ม 7 คน ได้แก่ “แทยง” (Taeyong), “แทอิล” (Taeil)(อดีตสมาชิก), “แจฮยอน” (Jaehyun), “มาร์ค” (Mark), “วินวิน” (Winwin) , “ยูตะ” (Yuta) และ “แฮชาน” (Haechan) ได้เริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ปี 2016 ในฐานะยูนิตวง NCT 127” พร้อมกับจุดประกายความหวังด้วยมินิอัลบั้มแรก NCT #127” และเพลงไตเติ้ลสุดโดดเด่นอย่าง “Fire Truck” ที่มาพร้อมกับดนตรีแนวฟิวเจอร์เบสและฮิปฮอปอันแปลกใหม่ ดุดัน และการแสดงที่เต็มไปด้วยพลังงานอันล้นเหลือ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอสิ่งที่ไม่เหมือนใครและท้าทายขนบเดิมๆ ให้กับวงการเพลง

ในช่วงที่ NCT 127 ถูกก่อตั้งขึ้น SM Entertainment มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการสร้างกลุ่มศิลปินที่ไม่จำกัดจำนวนสมาชิก และสามารถขยายตัวไปทั่วโลกได้ โดยมี NCT 127” เป็นยูนิตแรกที่เน้นกิจกรรมในกรุงโซล (127 คือเส้นแวงของกรุงโซล) การเดบิวต์ด้วยสมาชิก 7 คนในครั้งแรกนั้นสร้างความฮือฮาอย่างมาก เพราะเป็นคอนเซ็ปต์ที่แปลกใหม่และเข้าใจยากในสายตาของสาธารณชน แต่นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ NCT 127 มีเอกลักษณ์และโดดเด่นไม่เหมือนใคร เพลงFire Truck” ไม่ได้เป็นแค่เพลงเปิดตัว แต่มันคือการประกาศศักดาถึงแนวทางดนตรีที่ล้ำสมัยและสไตล์การแสดงที่เต็มไปด้วยพลังที่วงจะยึดถือในอนาคต พวกเขาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเป็นศิลปินที่พร้อมจะก้าวข้ามขีดจำกัดและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการ K-Pop

เส้นทางการเติบโตของ NCT 127 ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น หลังจากการเดบิวต์ได้ไม่นาน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและเพิ่มมิติให้กับวง ในเดือนมกราคม 2017 สมาชิกใหม่อย่าง “จอห์นนี่” (Johnny) และ “โดยอง” (Doyoung) ได้เข้าร่วมวง การเพิ่มเข้ามาของทั้งสองคนนำมาซึ่งความหลากหลายและความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในด้านเสียงร้อง การแสดงบนเวที และเสน่ห์ส่วนตัว “โดยอง” ที่คุ้นเคยกับโปรเจกต์ NCT U มาก่อนก็เข้ามารับหน้าที่เป็นเสียงหลักที่ช่วยเติมเต็มซาวด์ของวงให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ส่วน “จอห์นนี่” ก็เข้ามาเพิ่มความสามารถในการเต้นและเสน่ห์แบบอินเตอร์ให้กับวง ก่อนที่ “จองอู” (Jungwoo) จะเข้ามาเสริมทัพในเดือนตุลาคม 2018 ทำให้ NCT 127 มีสมาชิกหลัก 8 คนอย่างที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน (แม้ว่าวินวินจะไปเน้นกิจกรรมกับยูนิต WayV แต่เขาก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของ NCT โดยรวมและแฟนๆ ก็ยังคงรักและคิดถึงเขาเสมอ) การรวมตัวของสมาชิกที่มีพื้นเพ ความสามารถ และเสน่ห์ที่แตกต่างกันอย่างน่าทึ่งนี้ ทำให้ NCT 127 มีมิติที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งในด้านดนตรี บุคลิกภาพ และความสามารถเฉพาะตัวของแต่ละคน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ฐานแฟนคลับของพวกเขากว้างขวางขึ้นอย่างรวดเร็ว และสร้าง Synergy” ที่ลงตัวบนเวที

ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา NCT 127 ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถอันไร้ขีดจำกัด การทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง และความกล้าที่จะทดลองสิ่งใหม่ๆ พวกเขาได้ปล่อยผลงานเพลงออกมาอย่างสม่ำเสมอ โดยแต่ละเพลงล้วนสะท้อนถึงการเติบโตทางดนตรีและวิวัฒนาการของวงอย่างแท้จริง

Cherry Bomb” (2017): เพลงที่ยกระดับความสามารถของวงไปอีกขั้นด้วยดนตรีที่ซับซ้อน ท่าเต้นที่ทรงพลังและแปลกใหม่ เป็นจุดเริ่มต้นของ "Neo Culture" ในแบบฉบับ 127 ที่ชัดเจนขึ้น

Limitless” (2017): เพลงที่โชว์ความสามารถด้านเสียงร้องและแร็ปของสมาชิกแต่ละคนได้อย่างโดดเด่น สร้างบรรยากาศที่ลึกลับและมีเสน่ห์

Regular” (2018): เพลงที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในระดับสากล โดยมีเวอร์ชันภาษาอังกฤษที่เปิดประตูสู่ตลาดอเมริกาเหนือและยุโรปได้อย่างงดงาม ทำให้ชื่อของ NCT 127 เป็นที่รู้จักในวงกว้าง

Kick It” (2020): เพลงที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ศิลปะการต่อสู้และดนตรีฮิปฮอปอันดุดัน สร้างยอดวิวและยอดขายที่ถล่มทลาย ตอกย้ำความเป็น "Performance Kings"

Sticker” (2021): เพลงที่นำเสนอซาวด์และสไตล์ที่ล้ำสมัย แปลกหูแต่ติดหู สร้างสถิติใหม่ๆ ให้กับวงในชาร์ตเพลงและยอดขายอัลบั้ม

2 Baddies” (2022): เพลงที่แสดงถึงความมั่นใจและสไตล์ที่ชัดเจนของวง ตอกย้ำภาพลักษณ์ของบอยแบนด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

Fact Check (2023): เพลงที่ยังคงสไตล์ดนตรีและซาวด์ที่เป็นเอกลักษณ์ของวงไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ผสมผสานความทันสมัยเข้ากับความแข็งแกร่ง ตอกย้ำความสามารถในการแสดงและคอนเซ็ปต์ที่แข็งแกร่งของวง

WALK (2024): เพลงที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตและทิศทางใหม่ ๆ ของวง ที่ยังคงเต็มไปด้วยเสน่ห์และพลังที่ทำให้แฟน ๆ ตื่นเต้นเสมอ เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงอนาคตที่ยังคงสดใสและการไม่หยุดนิ่งในการนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ ของวง

เพลงเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคลังผลงานมากมายที่ NCT 127 ได้สร้างสรรค์ขึ้น ซึ่งแต่ละอัลบั้มและมินิอัลบั้มก็มักจะติดอันดับต้นๆ ของชาร์ตเพลงทั่วโลก และทำยอดขายได้อย่างน่าประทับใจ รวมถึงการเป็นหนึ่งในวง K-Pop ที่มีอัลบั้มล้านแตกหลายชุด นอกจากนี้ NCT 127 ยังได้รับการยอมรับจากนักวิจารณ์และสื่อต่างชาติมากมายถึงการนำเสนอแนวคิดใหม่ๆ และการทดลองทางดนตรีที่ไม่หยุดนิ่ง ทำให้พวกเขากลายเป็นผู้สร้างเทรนด์และเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินรุ่นใหม่

ความสำเร็จของ NCT 127 ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในเกาหลีใต้เท่านั้น แต่พวกเขายังสามารถก้าวไปสู่ “ระดับสากล” ได้อย่างสง่างามและเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิก “คลื่น Hallyu” ในยุคใหม่ ด้วยการจัดคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาเหนือ ยุโรป หรือเอเชีย ซึ่งบัตรคอนเสิร์ตก็มักจะถูกจำหน่ายหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว พวกเขาได้ปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ชื่อดังของสหรัฐอเมริกาอย่าง Jimmy Kimmel Live! และ The Late Late Show with James Corden รวมถึงได้ร่วมงานกับศิลปินระดับโลกอย่าง Jason Derulo ในเพลง Let's Shut Up & Dance” ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเครื่องยืนยันถึงความนิยมและการยอมรับในระดับสากล

การแสดงบนเวทีของ NCT 127 เป็นที่ยอมรับในเรื่องของความเป๊ะ พลังงานที่ล้นเหลือ การเต้นที่ซิงโครไนซ์ และการปฏิสัมพันธ์กับแฟนๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จักในฐานะPerformance Kings” ของวงการ K-Pop ที่ไม่ว่าจะแสดงที่ไหนก็สามารถสะกดสายตาผู้ชมได้อยู่หมัด

นอกเหนือจากความสามารถทางดนตรีและการแสดงแล้ว เสน่ห์ของสมาชิกแต่ละคนก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ NCT 127 เป็นที่รักของแฟนๆ ทั่วโลก หรือที่รู้จักกันในนาม NCTzen” ด้วยบุคลิกที่หลากหลายและความเป็นกันเองของพวกเขาล้วนเป็นสิ่งที่ดึงดูดแฟนๆ ให้เข้ามาสัมผัสและตกหลุมรัก

แทยง” ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ แร็ปเปอร์ผู้ทรงพลัง และนักเต้นที่น่าทึ่ง, จอห์นนี่”: พี่ใหญ่สายแฟชั่น ผู้มีเสน่ห์แบบอินเตอร์และอารมณ์ขัน, ยูตะ” เจ้าชายแห่งโอซาก้า ผู้เต็มไปด้วยคาริสม่าและความมุ่งมั่น, โดยอง” นักร้องผู้เปี่ยมไปด้วยอารมณ์และนักแสดงที่มีพรสวรรค์, แจฮยอน” เสียงร้องที่นุ่มนวลและภาพลักษณ์ที่ชวนหลงใหล, จองอู” เสน่ห์ที่บริสุทธิ์และรอยยิ้มที่สดใส ผู้สร้างรอยยิ้มให้แฟนๆ เสมอ, มาร์ค” แร็ปเปอร์และนักแต่งเพลงอัจฉริยะ ผู้เต็มไปด้วยพลังและความสร้างสรรค์, แฮชาน” มักเน่ผู้เปี่ยมด้วยพรสวรรค์รอบด้าน ทั้งร้อง เต้น และเอนเตอร์เทน

ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา NCT 127 และ NCTzen ได้สร้างความทรงจำอันล้ำค่าร่วมกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการฉลองวันเกิด, วันครบรอบ, การคว้ารางวัลต่างๆ, การไลฟ์สดพูดคุยกับแฟนๆ หรือแม้กระทั่งการสื่อสารผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย การมีปฏิสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและความผูกพันที่แน่นแฟ้นนี้ได้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ NCT 127 สามารถก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ และพัฒนาไปข้างหน้าได้อย่างไม่หยุดยั้ง แรงสนับสนุนจาก NCTzen ทั่วโลกคือ “หัวใจสำคัญ” ที่ทำให้ NCT 127 ยังคงยืนหยัดและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ในโอกาสครบรอบ 9 ปีนี้ ถือเป็นเครื่องยืนยันถึงความพยายาม ความทุ่มเท พรสวรรค์ และความมุ่งมั่นของ NCT 127 ที่ได้สร้างสรรค์ผลงานคุณภาพและเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมายทั่วโลก พวกเขาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “Neo Culture Technology” ไม่ใช่แค่เพียงคอนเซ็ปต์ที่แปลกใหม่ แต่มันคือวิสัยทัศน์ที่นำพาพวกเขาไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และยังคงเป็นแรงผลักดันให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง

นูน่าเมี้ยน” เชื่อได้สุดหัวใจเลยว่าเส้นทางของ NCT 127 ยังคงดำเนินต่อไป และ NCTzen ทั่วโลกต่างตั้งตารอคอยที่จะได้เห็นผลงานใหม่ๆ การแสดงที่น่าตื่นเต้น และการเติบโตที่ไม่สิ้นสุดของ 8 หนุ่มผู้บุกเบิกเหล่านี้ พวกเขาได้ทิ้งรอยเท้าอันยิ่งใหญ่ไว้ในวงการ K-Pop และยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินรุ่นใหม่เสมอมา ขอแสดงความยินดีกับ NCT 127 ในโอกาสครบรอบ 9 ปีของการเดบิวต์ และขอให้พวกเขาก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไปในอนาคต สร้างสรรค์ดนตรีและแรงบันดาลใจให้กับแฟนๆ ไปอีกนานแสนนาน!.

คอลัมน์ “SeoulStation”
โดย “นูน่าเมี้ยน”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

สหพันธ์ข้าวเมียนมามีแผนใช้ “พลังงานแสงอาทิตย์” ในโรงสีข้าว

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ข่าวปลอม! “เตือนจังหวัดฝั่งอันดามัน เฝ้าระวังสึนามิ-แผ่นดินไหวรุนแรง จากภูเขาไฟใต้น้ำ” อย่าแชร์เด็ดขาด

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘เอม สรรเพชญ์’เจอวิจารณ์หนักหลัง ‘ซูเปอร์แมน’เข้าฉาย ทำแฟนหนังผิดหวังซ้ำสอง!

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘เต้ มงคลกิตติ์’เสนอพระที่บังคับตัวเองไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ได้ ควรย้ายเป็นนักบวชศาสนาชินโต

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความบันเทิงเอเชียนอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

‘อดีตพระครูสิริวิริยธาดา’ ย่องให้ข้อมูลตร. อุบเงียบ! ปมคลิปสัมพันธ์ฉาว ‘สีกากอล์ฟ’

เดลินิวส์

‘เจได’ สามี ‘นิ้ง โศภิดา’ เดือดโต้ดราม่าแทนภรรยา ลั่น ‘ไม่แปลกใจที่ประเทศไม่เจริญ’

เดลินิวส์

‘ดิว อริสรา’ คัมแบ๊ก อวดยอดไลฟ์ขายทะลุล้าน ยันเอาเงินนี้ไปใช้หนี้ชัวร์!

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม
Loading...