พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นองค์ประธานงาน “ปูทาง...สู่การตื่นรู้ ธรรมนาวา “วัง” (ภาคประชาชน)”
วันนี้ (๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๘) เวลา ๑๘.๔๑ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นองค์ประธานงาน “ปูทาง…สู่การตื่นรู้ ธรรมนาวา “วัง” (ภาคประชาชน)” ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงท่าอากาศยานทหาร กองบิน ๔๑ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายเย็นดี มณฑีรรัตน์ อธิบดีผู้พิพากษาภาค ๕ พลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ ๓ พลตำรวจโท กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๕ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ทรงรับการถวายความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ จากนั้น ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ณ ที่นั้น นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายสุรเชษฐ์วริศ มหัทธนะกุล รองอธิบดีผู้พิพากษาภาค ๕ พลตรี ธีระ ผดุงสุนทร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๓๓ และพลตำรวจตรี พิเชษฐ จีระนันตสิน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๕ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
จากนั้น เสด็จเข้าห้องพิธี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กราบบังคมทูลรายงาน เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำรัสเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้ร่วมงาน ฯ ในโอกาสนี้ ทอดพระเนตรการขับร้องเพลงพระพุทธเจ้า จากนั้น ทอดพระเนตรวีดิทัศน์ (ธรรมนาวา “วัง” และกิจกรรมที่จัดขึ้นในวันนี้) และผลการปฏิบัติที่ผ่านมา เสร็จแล้ว พระราชญาณวัชรชิโนภาส (ทวีวัฒน์ จารุวณฺโณ) และคณะพระสงฆ์ผู้บรรยายธรรม กล่าวถึงวัตถุประสงค์และหลักการโครงการ “ปูทาง…สู่การตื่นรู้ ธรรมนาวา “วัง” (ภาคประชาชน)” จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นางสาวรสสุคนธ์ กองเกตุ ประธานมูลนิธิธรรมนาวาสิขาลัย นำ ประชาชนที่ปฏิบัติตามหลักธรรมพระราชทาน กราบบังคมทูลพระกรุณาประสบการณ์ในการปฏิบัติ และทอดพระเนตรการขับร้องเพลงดุจดั่งสายฟ้า และเพลงทางที่เดินคนเดียว เสร็จแล้ว พระราชญาณวัชรชิโนภาส (ทวีวัฒน์ จารุวณฺโณ) พร้อมด้วยคณะสงฆ์และประชาชน ประกาศพระปริตรถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี สมควรแก่เวลา จึงเสด็จออกจากศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน ๔๑ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร
ด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชอนุสรณ์คำนึงถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในพระราชฐานะพุทธมามกะ และองค์อัครศาสนูปถัมภก ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนเป็นผู้เจริญในธรรม อันจะเกื้อกูลให้สังคมและชาติบ้านเมืองมีความผาสุกมั่นคง “ธรรมนาวา วัง” คือแนวทางหนึ่ง ซึ่งได้น้อมนำหลักธรรมอันประเสริฐที่พระพุทธองค์ทรงประกาศไว้มาศึกษาและปฏิบัติ ด้วยตระหนักถึงคุณค่าของพระพุทธธรรม ว่าเป็นเครื่องชี้ทางสว่างแห่งปัญญา อันจะนำมาซึ่งความพ้นทุกข์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดงาน “ปูทาง…สู่การตื่นรู้ ธรรมนาวา “วัง” (ภาคประชาชน)” ขึ้น เพื่อเผยแพร่แนวปฏิบัตินี้ให้แก่ประชาชน สำหรับจะได้น้อมนำไปใช้ให้บังเกิดประโยชน์ทั้งในการดำเนินชีวิต และการฝึกฝนอบรมความคิดจิตใจเพื่อให้ตื่นรู้อย่างแท้จริง
ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นองค์ประธานงาน “ปูทาง…สู่การตื่นรู้ ธรรมนาวา “วัง” (ภาคประชาชน)” ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นี้ มีราษฎรจำนวนมากต่างพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลืองมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ เพื่อชื่นชมพระบารมี และระหว่างเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินผ่าน มีราษฎรตัวแทนจากอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดอื่น ๆ ได้แก่ จังหวัดลำปาง และจังหวัดพะเยา รวม ๕๐๐ คน สวมชุดช่างฟ้อนล้านนา พร้อมใจกันฟ้อนเล็บที่มีความอ่อนช้อยงดงาม เพื่อถวายพระเกียรติ และถวายการต้อนรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ตามแบบชาวล้านนา และจุดประทีปเพื่อรอส่งเสด็จทั้งสองพระองค์ด้วยความจงรักภักดี