กพท. ออกประกาศห้ามบินโดรนทุกประเภท ทั่วประเทศ เพื่อความมั่นคงจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ตั้งแต่วันนี้ 30 ก.ค. - 15 สิงหาคม 2568

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ออกประกาศด่วน ห้ามทำการบินหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (โดรน) ทุกประเภทในพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2568 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
การประกาศครั้งนี้มีขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศ จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ต่าง ๆ
พลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การห้ามบินโดรนในครั้งนี้สอดคล้องกับกฎหมายและประกาศที่เกี่ยวข้อง ซึ่งให้อำนาจ กพท. ในการระงับการใช้งานอากาศยานไร้คนขับในช่วงเวลาที่อาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ พร้อมย้ำว่า ผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งอาจมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเจ้าหน้าที่ทหารมีอำนาจทำลายอากาศยานได้ หากมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง
หากผู้ใดพบเห็นหรือทราบว่ามีการบังคับหรือปล่อยโดรนที่ฝ่าฝืนประกาศนี้ ให้แจ้งข้อมูล ได้แก่ วัน เวลา สถานที่ที่พบเห็น ลักษณะของโดรน และภาพถ่ายหรือคลิปวิติโอ (ถ้ามี) ไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยเร็วผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ดังนี้
@1. กองพัฒนามาตรฐานและเทคโนโลยีระบบอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ฝ่ายมาตรฐานอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย โทรศัพท์ 02-568-8851 หรืออีเมล uas_uscaat.or.th
@2. ศูนย์ต่อต้านอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (โดรน) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (สตอ.น.) โทรศัพท์ 02-126-7846 หรืออีเมล antidrone.policegmail.com
3. ศูนย์แจ้งเหตุใกล้พื้นที่ เช่น สถานีตำรวจท้องที่ หน่วยทหาร หรือหน่วยความมั่นคงที่รับผิดชอบในพื้นที่นั้น ๆ
กพท. ขอความร่วมมือประชาชน งดใช้โดรนทุกประเภทในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อร่วมกันรักษาความปลอดภัยของประเทศ และสนับสนุนภารกิจของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนอย่างเต็มที่

CAAT Issues Nationwide Ban on Drone Operations to Safeguard National Security Amid Thai–Cambodian Border Tensions
.
The Civil Aviation Authority of Thailand (CAAT) has issued an urgent notification prohibiting the operation or release of all types of unmanned aircraft systems (drones) across the entire country. This restriction is effective from 30 July 2025 until 15 August 2025, or until further notice.
The measure has been implemented as a preventive response to potential national security and safety risks stemming from the ongoing unrest along the Thai–Cambodian border. The ban aims to support security operations and ensure public safety in sensitive areas.
Air Chief Marshal Manat Chavanaprayoon, Director General of the Civil Aviation Authority of Thailand, stated that the prohibition is in accordance with relevant laws and regulations, which authorize CAAT to suspend drone operations during periods that may threaten national peace and security. He emphasized that violators will be subject to legal penalties under the Air Navigation Act B.E. 2497 and its amendments, which include imprisonment of up to one year, a fine of up to 40,000 Baht, or both. Furthermore, military personnel are authorized to destroy any unmanned aircraft deemed a threat to national security.
Any person who witnesses or has knowledge of drone operations in violation of this notification is requested to report the incident immediately. The report should include the date, time, location, description of the drone, and, if available, photographic or video evidence. Reports can be submitted through one of the following channels:
1. Unmanned Aircraft Standards and Technology Development Division, Unmanned Aircraft Standards Department, CAAT
Tel: 02-568-8851
Email: uas_us@caat.or.th
2. Anti-Drone Center for Remotely Piloted Aircraft, Metropolitan Police Bureau
Tel: 02-126-7846
Email: antidrone.police@gmail.com
3. Local emergency reporting units, such as the nearest police station, military unit, or responsible security agency in the area.
CAAT kindly requests the cooperation of the public to refrain from using drones during the specified period to safeguard national security and to fully support the missions of security personnel in border areas.