ปตท.สผ.ชี้ครึ่งปีแรกกำไรวูบเหลือ 3หมื่นล้าน ไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาล 4.10 บาทต่อหุ้น
ปตท.สผ. เผยผลดำเนินงานครึ่งแรกปี 2568 มีรายได้รวม 148,531 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 30,067 ล้านบาทลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 42,660 ล้านบาท และมีปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยอยู่ที่ 494,552 บาร์เรลต่อวัน พร้อมขยายการลงทุนเพิ่มเติมในพื้นที่ยุทธศาสตร์ ทั้งในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) โอมาน และแอลจีเรีย สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง บอร์ดฯไฟเขียวจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 4.10 บาทต่อหุ้น
นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP)หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยผลการดำเนินงานในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2568 ว่าปตท.สผ. มีรายได้รวม 148,531 ล้านบาท (เทียบเท่า 4,431 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สรอ.)) มีปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยอยู่ที่ 494,552 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากโครงการ G1/61 ที่เพิ่มอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติในเดือนมีนาคม 2567 และโครงการมาเลเซีย แปลงเค ที่มีการขายน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในโครงการสินภูฮ่อมเมื่อเดือนเมษายน 2568
ในขณะที่ราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก มาอยู่ที่ 44.85 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ และมีต้นทุนต่อหน่วย (Unit Cost) ที่ 30.9 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทมีกำไรสุทธิ 30,067 ล้านบาท (เทียบเท่า 895 ล้านดอลลาร์ สรอ.) ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 42,660 ล้านบาท
นายมนตรี กล่าวว่า สำหรับครึ่งปีแรกนี้บริษัทมีความก้าวหน้า ในการขยายธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม โดยชนะการประมูลแปลงสัมปทานเร็กเกนเน่ ทู (Reggane II) ในประเทศแอลจีเรีย ร่วมกับบริษัท Eni Algeria Exploration B.V. และได้ลงนามในสัญญาแบ่งปันผลผลิตเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งสัญญาจะมีผลเสร็จสมบูรณ์เมื่อมีประกาศอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลแอลจีเรีย ปตท.สผ. ถือสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 34 โดยมีการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติแล้ว และยังมีพื้นที่ที่มีศักยภาพในการสำรวจเพิ่มเติม อีกทั้ง แปลงเร็กเกนเน่ ทู ยังตั้งอยู่ใกล้โครงการแอลจีเรีย ทูอัท (Algeria Touat Project) ซึ่งเป็นโครงการผลิตก๊าซธรรมชาติที่ ปตท.สผ. ได้ประกาศเข้าลงทุนไปก่อนหน้านี้ จึงสามารถสร้างความต่อเนื่องเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนา และการบริหารจัดการแหล่งก๊าซธรรมชาติร่วมกันได้
สำหรับในภูมิภาคตะวันออกกลาง ปตท.สผ. ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงขยายอายุสัญญาแบ่งปันผลผลิตในโครงการโอมาน แปลง 53 ไปจนถึงปี 2593 นอกจากนี้ ยังได้รับอนุมัติแผนพัฒนาโครงการและสัญญาสัมปทานผลิตปิโตรเลียมของโครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 2 จากหน่วยงานของรัฐอาบูดาบีในยูเออี หลังจากที่ประสบความสําเร็จในการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติ ซึ่งจะนำไปสู่การตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID)
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติเสนอจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก ปี 2568 ที่ 4.10 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันให้สิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อรับสิทธิในการรับเงินปันผลวันที่ 13 สิงหาคม 2568 และจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 สิงหาคม 2568
โดยในรอบครึ่งปีแรกของปี 2568 ปตท.สผ. ได้นำส่งรายได้ให้กับรัฐในรูปของภาษีเงินได้ ค่าภาคหลวง และส่วนแบ่งผลประโยชน์อื่น ๆ จำนวนกว่า 30,200 ล้านบาท เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ เช่น การพัฒนาชุมชน การศึกษา และการวิจัยและพัฒนา เป็นต้น นอกจากนี้ รัฐยังได้รับส่วนแบ่งของผลผลิตปิโตรเลียมจากโครงการ G1/61 และ G2/61 ซึ่งอยู่ภายใต้สัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) เป็นรายได้ทางตรงจากการผลิตปิโตรเลียมที่รัฐนำมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศอีกส่วนหนึ่งด้วย
ปัจจุบัน ปตท.สผ. ได้ขยายการดำเนินงานไปกว่า 50 โครงการ ใน 13 ประเทศทั่วโลก และยังคงเดินหน้าแสวงหาแหล่งพลังงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายหลักในการดำเนินงาน เพื่อรองรับความต้องการใช้พลังงานของคนไทยและประเทศไทย ภารกิจของ ปตท.สผ. จึงเปรียบเสมือน “พลังของพลัง” ที่ไม่เพียงมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ แต่ยังเป็นพลังให้ทุกคนก้าวไปสู่เป้าหมายของตนได้สำเร็จ
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO