ผบช.น.สั่งตั้งแผนเฝ้าระวังชาวกัมพูชาทำงานในไทยป้องกันเหตุต่างๆเกิดขึ้น
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผย สั่งตั้งแผนมาตรการเฝ้าระวัง สถานทูตกัมพูชา พื้นที่เสี่ยง ประชาชนชาวกัมพูชาทำงานอยู่ในไทย ไม่อยากให้มีการทำร้ายเกิดขึ้น
25 ก.ค. 68 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พูดถึงประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา ในส่วนของ กองบัญชาการตำรวจนครบาล และ ประเด็นกลุ่มวัยรุ่น "ล่าแม่มด" ชาวกัมพูชา ที่ยังคงอาศัย และ ทำงานอยู่ในประเทศไทย ตามที่สถานการณ์ชายแดน ที่มีการปะทะกัน ระหว่าง ไทย กับ กัมพูชา ตอนนี้ในส่วนของ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีมาตรการเฝ้าระวังเหตุที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในเขตกรุงเทพฯ
โดยท่าน ผบตร. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ และ ท่านรอง ผบตร. พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง ได้กำชับสั่งการณ์ ให้เพิ่มความเข้มในการตรวจตรา เพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวังสถานที่ โดยเฉพาะสถานทูตของทางประเทศกัมพูชา หรือ สถานที่อื่นๆ ที่อาจจะเป็นพื้นที่เสี่ยง ซึ่งมีกลุ่มของแรงงานชาวกัมพูชานั้นรวมตัวกัน หรือ พักอาศัยอยู่ รวมทั้งสถานที่ที่เขาค่อนข้างที่จะชอบไป
โดยได้สั่งการณ์ให้ ทาง กองบัญชาการตำรวจนครบาล นั้นตั้งแผนมาตรการเฝ้าระวัง อีกส่วนหนึ่ง ก็คือ มาตรการในเรื่องของการเฝ้าระวังประชาชนชาวกัมพูชา ที่อาจจะมีพี่น้องประชาชนชาวไทย(บางส่วน) เกิดความไม่พอใจ และ มีการแสดงออก รวมถึงการรวมตัวกันไปกดดัน หรือ ตามหา และ เกิดการทะเลาะกันด้วยวาจา หรือ ทำร้ายร่างกายกัน และ ด้านอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็นทางด้าน แรงงานชาวกัมพูชา หรือ ประชาชนชาวกัมพูชา ที่อยู่ใน ประเทศไทย เองก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เพิ่มมาตรการในการตั้งจุดตรวจจุดสกัด และ ดูแลพี่น้องประชาชนในทุกกลุ่ม ไม่อยากให้มีเหตุการณ์ต่างๆ นี้เกิดขึ้น รวมถึงการแจ้งเตือน และ คอยสอดส่องดูแล เป็นต้น
ขอฝากเรียนขอพี่น้องประชาชนชาวไทย ว่าเรื่องนี้ ขอให้เป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ทหาร และ ฝ่ายบ้านเมือง ในการดูแลสถานการณ์ ในส่วนของความไม่พอใจของพี่น้องประชาชนนั้น ควรมีขอบเขต ไม่ควรที่จะไปทำร้ายร่างกายผู้อื่น หรือ ผู้ใด เนื่องจากการกระทำดังกล่าวนี้น เป็นสิ่งที่ไม่ดี
และ ส่วนของมาตรการเฝ้าระวัง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะเฝ้าระวังสถานที่ที่เป็นถิ่นที่พักอาศัยของชาวกัมพูชาที่ทำงานอยู่ในไทย เบื้องต้นได้มีการแจ้งเตือนไปยังเจ้าของ และ ผู้ควบคุมคนงานต่างๆ นั้นให้เฝ้าระวัง และคอยแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่นั้นๆ