ดราม่าข้อสอบนิติฯ จุฬา “ดร.นิด” โต้ถูกกลั่นแกล้ง – ตร.ยศ พ.ต.อ. โผล่พาตัวออก สน.ลึกลับ
ดราม่าข้อสอบนิติฯ จุฬา “ดร.นิด” โต้ถูกกลั่นแกล้ง – ตร.ยศ พ.ต.อ. โผล่พาตัวออก สน.ลึกลับ ด้าน ผบ.ตร.สั่งสอบด่วน พร้อมจับตาโยกย้ายตำแหน่งมีเอี่ยวหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมานายไตรรงค์ ตันทสุข ในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนางขนิษฐา เลิศบรรเจิดวงศ์ หรือดร.นิด ผู้ต้องหาคดีลักลอบนำข้อสอบคณะนิติศาสตร์ หลักสูตรปริญญาตรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไปช่วยอดีตตำรวจ ยศ“พล.ต.อ.”นายหนึ่งในการทำข้อสอบเมื่อปี2566 ได้ยื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรม ทางเทคโนโลยี 1 บก.สอท. และพนักงานสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทุกนาย โดยขอให้สั่งยุติการสอบสวนที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไตรรงค์ระบุว่า ดร.นิดไม่ได้กระทำผิดมาตรา188 เเห่งประมวลกฎหมายอาญาตามที่ถูกกล่าวหาเเต่อย่างใด และขอให้เอาผิดว่าที่ ร.ต.หญิง ชญณิพัฒน์ วาดอุดม หรือ นางสาวคัท เจ้าหน้าที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยให้ส่งสำนวนให้สน.ปทุมวันดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเกิดขึ้นในวันที่23เม.ย.2568 มีการจับกุมเเละนำตัวดร.นิดมาสอบสวนในข้อกล่าวหาดังกล่าว จากนั้นเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2568 พ.ต.อ. สังกัดกองบัญชาการตำรวจสันติบาลนายหนึ่ง เเละเป็นนรต.รุ่น47 เดินทางไปที่ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อเจรจากับ ดร.นิด ซึ่งพบว่าพ.ต.อ.นายนั้น พาตัวดร.นิดออกจาก สน.ทุ่งสองห้องโดยไม่ได้แจ้งพนักงานสอบสวนหรือนำทนายความไปด้วย ทำให้สอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น และไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้ จากนั้นดร.นิดเเจ้งความเอาผิดพนักงานสอบสวนบางนายว่าไม่มีอำนาจหน้าที่ในการสอบสวนคดีนี้เเละล่าสุดคือมอบอำนาจให้นายไตรรงค์ยื่นหนังสือฉบับดังกล่าวถึงบก.สอท.ให้ยุติการสอบสวนดร.นิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนี้ พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบกรณีดังกล่าว และรายงานให้ทราบโดยด่วนโดยผบ.ตร.กำชับว่าต้องตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน หากพบว่ามีการกระทำผิดจริง ให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดทั้งทางวินัย ปกครอง และอาญา และหากมีความเกี่ยวข้องกับข้าราชการตำรวจรายใดก็ให้ตรวจสอบทุกคน
ซึ่งกองบัญชาการตำรวจสันติบาลได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ตำรวจนายนั้น คือ'พ.ต.อ.' ในฐานะรอง ผบก.ส.4 มีพฤติการณ์เข้าไปเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว เเละกำลังเร่งสรุปรายงานต่อผบ.ตร.ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีข้อมูลว่าทนายความของดร.นิดในกรณีนี้คือนายไตรรงค์นั้น นายไตรรงค์มีความใกล้ชิดนักการเมืองระดับผู้บริหารพรรคคนหนึ่งที่เคยเป็นอดีตผบ.ตร. เเละนักการเมืองคนนี้ใกล้ชิดเเละช่วยเหลืออดีตพล.ต.อ.คนดังกล่าวหลายวาระ ทำให้นายไตรรงค์ถูกวางตัวให้มาเป็นทนายความของดร.นิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ตรวจสอบข้อมูลในบัญชีเเต่งตั้งโยกย้ายตำรวจประจำปีนี้ โดยผบ.ตร.วางหลักเกณฑ์ไว้คือยึดอาวุโส+ความรู้ความสามารถที่จะมีผลในการประเมินนั้น พบข้อมูลหนึ่งที่น่าสนใจคือ ลำดับอาวุโส รองผบก.ประเภทตำเเหน่งทั่วไปที่อยู่ในเกณฑ์เเต่งตั้งโยกย้ายของปึนี้มี35นาย เเละพบว่าพ.ต.อ.นายนั้นที่ไปพาตัวดร.นิดออกจากสน.ทุ่งสองห้อง อยู่ในลำดับอาวุโสที่20 เเละทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่า หากผลการเเต่งตั้งโยกย้ายตำรวจปีนี้ พ.ต.อ.นายนั้นได้ขยับตำเเหน่งก็อาจส่งผลกระทบกับขวัญกำลังใจของตำรวจนายอื่นๆเเม้ว่าผลการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นเเละทำให้พ.ต.อ.นายนั้นมีสิทธิได้ปรับเลื่อนตำเเหน่งก็ตามเเต่หลักฐานที่ปรากฏว่าพ.ต.อ.นายนั้นพาดร.นิดออกจากสน.ทุ่งสองห้องโดยไม่มีอำนาจหน้าที่ใดๆ
ดังนั้นกรณีนี้หากผบ.ตร.เเละกองบัญชาการตำรวจสันติบาลยังไม่เร่งดำเนินการใดๆให้กระจ่างชัดอาจโดนสังคมเเละข้าราชการตำรวจทั่วประเทศวิจารณ์เชิงลบได้