แบม ไพลิน แจงเหตุเลิกสามี รับไม่ได้เรื่องนอกใจ-โกหก ไม่อยากถูกเรียกลูกเมียน้อย
ฟางเส้นสุดท้าย ‘แบม ไพลิน’ เปิดใจสาเหตุเลิกอดีตสามี ไม่อยากให้ลูกถูกเรียกว่าลูกเมียน้อย ลั่นขอปกป้องตนเอง ร่ายยาวสาเหตุขอแยกทาง นอกใจ-เรื่องผู้หญิง ขอชดใช้กรรมทุกอย่าง
กลายเป็นประเด็นที่หลายคนจับตาอีกครั้ง กรณีของ‘แบม ไพลิน วงษา’ อดีตสามี CEO ‘แม็กซ์’ นางงามสาวที่เคยถอนตัวหลังคว้ามงจากเวทีมิสแกรนด์ระนอง 2024 เนื่องจากตั้งท้องลูก ออกมาโพสต์ข้อความเดือดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ไพลิน วงษา ระบุว่า“ต้องขอโทษจริง ๆ นะคะเรื่องกระเป๋าพึ่งทราบเรื่องอีกแล้ว พ่อต้องให้แม่ออกโรงตลอดเลย อยู่ ๆ ก็ผิดประเด็นเรื่องนี้มา งั้นก็ยกมาเลยแล้วกัน
เรื่องกระเป๋าพึ่งจะทราบวันนี้ว่าเป็นของลูกชาย คิดว่าเป็นของเขามาโดยตลอด เพราะก็ใช้ด้วยกันมาตลอด แต่คืนแน่นอนนะคะ ไม่ต้องห่วง แต่ไม่ต้องยกมาหรอกว่ากี่หมื่น เป็นแสนก็ซื้อเองได้เพราะไม่ได้อยากได้ของใคร แต่ว่าของในส่วนลูกรักเอลินที่ทวงไป รอมา 3-4 เดือนยังไม่ส่งมาคืนเลย ตั้งใจนะคะว่าส่งของลูกมาก่อนของถึงจะส่งให้ เพราะเรื่องปลาของลูกในบ่อ ฉันก็ต้องทวงค่ะ ทวงผ่านทนายไปแล้วด้วยแต่ก็ยังเงียบ ปลาซื้อมารับขวัญลูกค่ะ ไม่ได้ให้คนอื่น ไม่ใช่บาทสองบาท”
พร้อมอธิบายใต้คอมเมนต์เพิ่มเติมว่า “ทำไมตอนแรกเรื่องกระเป๋าไม่เห็นเดือดร้อนขนาดนั้น นี้โดนหลอกยันเรื่องกระเป๋าเลยหรอเนี้ย ตอนแรกที่ทำข้าวของเราหาย ก็ยังเห็นพูดอยู่นะว่างั้นให้มันเจ้า ๆ กับกระเป๋า แต่วันนี้กระเป๋าโดนโผล่มาแบบพีคมาก แล้วทำไมแม่ไม่เป็นคนทวงตั้งแต่แรกเรื่องกระเป๋าด้วย เพราะก็เห็นว่าเรา 2 คนใช้อยู่ตลอดนิด ถ้าเป็นของลูกนี้จะขอทวงเลยนะ แต่เรื่องชื่อลูก หาจนเจ็บหน่วยตาแล้วนะ เห็นแต่คำว่าริโมว่าเด้”
ก่อนหน้านี้ เธอได้โพสต์ข้อความถึงคนขี้ขลาดคนหนึ่ง เผยว่า “คนขี้ขลาดเค้ามักจะมุดใต้กระโปรงผู้หญิงเสมอ กำลังใจ”
สาวแบมออกมาไขข้อสงสัยว่าทำไมเธอเพิ่มออกมาพูดอะไรตอนนี้ “หลายคนบอกว่ามาพูดอะไรตอนนี้ เพราะหลายคนไม่จบ ยังคงตามด่า ในหลาย ๆ ช่องทาง เคยบอกกับหลาย ๆ คนว่า
เมื่อถึงเวลาจะขอพูดทั้งหมด ไม่มีใครอยากโดนตราหน้า ไม่มีใครอยากให้ลูกถูกเรียกว่าลูกเมียน้อย เพราะขอเลือกที่จะปกป้องตัวเองปกป้องลูกบ้าง แต่ก็อย่างที่บอกได้ยกภูเขาออกจากอกแล้ว หลังจากนี้ก็ใช้กรรมกันต่อแตกต่างออกไป
เราไม่ได้บอกว่าเขาเลือกเรา แต่แค่เราดันเชื่อสนิทใจไปเลย ไม่โทษผู้ใหญ่ แต่มันตั้งคำถามเยอะมากกับวันเวลาที่ผ่านมาตอนนั้นมันคืออะไร แบบแค่คิดเฉยๆว่าจะต้องสร้างเรื่องแบบนี้โกหกทำไม ?”
ก่อนหน้านี้ เธอร่ายยาวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เปิดใจว่า “ต่างคนก็ต่างชดใช้กรรมที่ตัวเองก่อในหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันออกไป ทุกๆอย่างทุกๆเรื่องที่เกิดขึ้นเราต่างรู้ดีกว่าคนอื่นอยู่แล้ว แต่รู้มั้ยฉันปกป้องตัวเองปกป้องลูกตลอดมาเลยนะ ยอมเดินออกมาเพื่อสร้างชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิมแล้วนะ “กับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นรู้มั้ยทำไมเชื่อจนสนิทใจ” ตัวเราเองก็ต่างคิดว่า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเริ่มต้นใหม่ อ่านหนังสือเล่มนี้ให้ดีนะคะทุกคน หรือจะยังอยากด่าต่อก็ได้
“หลายคนอาจตั้งคำถามและต่างพูดว่า เราปล่อยท้องเพื่อจับผู้ชายรวย บลา ๆ จุดเริ่มต้นทั้งหมด เราต่างก็คือแฟนที่คบหากันปกติ รับรู้นะคะว่ามีเบบี๋แล้ว เพราะเขาเป็นคนบอกตั้งแต่แรก ก่อนจะมาคุยกันจริงจังหรือคบหากัน ตอนแรกก็ไม่ได้เปิดใจ ก่อนคบระหว่างคุย เราก็ถามนะไม่มีแฟนจริง ๆ หรอ หรือฟิวคุณพ่อลูกติดหรอ เค้าบอกเค้าจบความสัมพันธ์ตั้งแต่มีเบบี๋แล้วแค่รับผิดชอบลูกเพราะลูกอยู่กับเรา เอาจริง ๆ ไม่ได้เชื่ออะไรขนาดนั้นจนลองคุยไปเรื่อย ๆ ได้มีโอกาสไปเจอที่บ้านเค้า พ่อแม่ พี่น้อง ทุกต่างบอกว่า เค้าเลิกกันแล้วจริง ๆ และเขาก็ทำหน้าที่พ่อแม่ดูแลลูก อ่ะก็เลยลองเปิดใจดูก็ได้
ระหว่างนั้นก็คุยกันมาเรื่อย ๆ จนเดือนกว่าเกือบ 2 เดือน มีเจอ ดูหนังทานข้าว เจอที่บ้านบ้าง และไปทานข้าวพูดคุยกับทางพ่อแม่เค้าแบบจริงจัง จนถึงวันเกิดในวันที่ 25 ตุลา ใช่ค่ะ เค้าขอเราเป็นแฟนเราเองก็เลยตกลงและคบกันมาเรื่อย ๆ ก็ไม่ได้เห็นมีปัญหาอะไรเลยระหว่างที่คบกัน ไม่เคยเห็นใครมาวุ่นวายมันก็ทำให้เราเชื่อสนิทใจไปอีก เพราะเราไม่ได้เชื่อเค้าเราเชื่อคนในครอบครัวเค้าหลาย ๆ คน ความสัมพันธ์ก็เดินต่อเรื่อย ๆ มีไปงานแต่งน้องชาย ออกงานที่บริษัทพบป่ะกลุ่มก้อนเค้ามากขึ้น หรือทำกิจกรรมกับทางครอบครัวเค้าอยู่บ่อย ๆ
สิ่งนึงที่ชัดเจนเลยก็คือ เค้าต้องกลับไปดูแลลูกทุกอาทิตย์ที่บ้าน ไปแล้วก็กลับไม่ได้มีค้างที่บ้านตลอดระยะเวลาที่คบกัน ดูแลลูกเอาลูกเข้านอนแล้วก็กลับ เค้าต่างก็บอกที่บ้านมีพี่เลี้ยง จริง ๆ เราไม่ก้าวก่ายตรงนี้ตั้งแต่แรก เพราะนั้นก็คือหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบในฐานะของคำว่าพ่อ เราก็มองว่าดีนะชัดเจนดี
จนถึงในช่วงที่ประกวด ทางพ่อแม่ก็ได้มีการไปเชียร์ที่ระนอง มันก็ทำให้เราเริ่มจริงจังกันมากขึ้น เราก็รู้สึกว่าเค้าดีนะ พ่อแม่เอยครอบครัวเอย ก็ดูรักเราดี
เวลาก็ผ่านไปค่ะ จนมารู้ว่ามีเอลิน เราก็แก้กับปัญหาที่มันเกิดขึ้นระหว่างประกวด พูดคุยหลังบ้าน ปิดจบทั้งหมดได้ด้วยดี กับทางกองประกวดและทางผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่าน หนูขอบคุณทุกคนมากจริง ๆ ที่ไม่ยินร้ายกับหนูในเรื่องนี้ ค่ำคืนนั้นผ่านไป ก็ได้มีการแฉว่าแบมเข้ามาเป็นมือที่ 3 ซึ่งเราช็อคไปเลย คำถามมากมายอยู่ในหัวเยอะมาก ว่าห่ะ มันตอนไหน แล้วที่บ้านคือโกหกฉันเพื่ออะไร ก็ต่างคิด
มีการนัดคุยกับครอบครัวพอทุกอย่างเกิดขึ้น ก็อย่างที่ทุกคนเห็นจากการออกมาไลฟ์สด ละเป็นคำพูดติดหนูทุกคนไปเลยว่า แบมไม่ได้…. เค้าก็ต่างยืนยันว่าเลิกกันแล้วแค่ ก. เขาไม่ยอมนี้คือคำพูดที่ออกมาจากปากครอบครัว เพราะเขาบอกว่า ก. จะเป็นแบบนี้ถ้ารู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ไปจริงจังกับใคร จะรู้สึกว่ากลับไปหาเขายากแล้ว ต้องขอโทษนะที่ต้องพูดทุกอย่างในวันนี้ มันเหนื่อยจริง ๆ ที่บางคนไม่ได้มีความรับผิดชอบมากพอขนาดนั้น เค้าก็ต่างพูดถึงนิสัยหลาย ๆ อย่างว่าครอบครัวเขาไม่รับไม่เอาตั้งแต่แรก รับแค่ลูก ไม่รู้หรอกว่าที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่
ผ่านไป จากที่ออกมาไลฟ์สดเพื่อชี้แจง มันก็เป็นเหมือนบทเรียนนะ จริง ๆ ไม่ได้มีใครอยากจะรับฟังเราขนาดนั้น เราเข้าใจ เรียนรู้ ยอมรับ และได้ยอมรับอีกว่ามันได้เกิดขึ้น เราก็ต่างให้เขาเป็นคนแก้ปัญหาของตัวเอง และเราเลือกที่จะหายจากโซเชียลไปเลยพักใหญ่นึง แล้วค่อยกลับมาทำงานตัวเองอีกครั้ง
เราก็โดนกระแสโจมตีอยู่เรื่อยๆและก็ยังเลือกที่จะนิ่งทั้งจริงและไม่จริง ก็ค่อย ๆ ปล่อยให้ทุกอย่างมันดีขึ้น และดูแลลูกในท้องให้ดี มีช่วงนึงหลุด ๆ บ้างนะในบางครั้ง ที่หลายคนบอกเราเฟียส เพราะเราไม่ไหวจริง ๆ ในบางครั้งที่ยังโดนเพจมาปั่นคิดนะว่า ถ้าเราไม่อยู่บนโลกนี้ หรือเราแท้ง ทุกคนน่าจะรู้สึกดีขึ้น ยังดีที่ครรภ์ยังแข็งแรงปกติ เพราะหลัง ๆ มาปล่อย และเลือกที่จะโฟกัสตัวเอง
จนเวลาผ่านไปก็คลอดพอดี คิดว่าหลังจากนี้ขอให้มีแค่เรื่องดี ๆ เข้ามานะ เขาก็ยังคงแก้ปัญหาที่ก่อไปเรื่อย ๆ ไม่ขอก้าวก่าย แต่ยังโดนอยู่เรื่อย ๆ บางครั้งก็มีทักมาด่าเรา เล่าเรื่องเราให้ผู้ชายฟังต่าง ๆ นา ๆ ว่าอดีตเราเป็นอย่างนั้นอย่างงี้นะ จริง ๆ เรื่องทักมาด่าหรือมาก้าวก่ายเรา เรามองเป็นเรื่องชิลไปเลย
บางครั้งทักมาว่าไม่อยากปล่อยให้ลูกมาหาเพราะว่ากลัวเราจะวางยาหรือเอาอะไรไม่ดีให้ลูกตัวเองกินบอกว่า จริง ๆ แล้วเราไม่ได้รักเด็กนะ กลัวลูกจะเป็นอะไร ไม่ไว้ใจผู้หญิงคนนี้ที่สุด แต่เราดันมองว่า โอเค แค่เราเลี้ยงลูกก็ไม่มีเวลาจะไปสนใจหรือโฟกัสอะไรแล้ว ตั้งใจเลี้ยงแต่เลี้ยงลูก ผ่านไป เรื่องนี้ก็คงจำเป็นต้องพูด และมันมีหลายเรื่องมากกว่านั้นซึ่งก็ยกมาไม่หมด
เป็นครั้งแรกที่คิดกับตัวเองว่าเหนื่อยมากแล้ว อยากกลับไปเลี้ยงลูกที่บ้าน จนเหตุการณ์นี้ไปเกิดขึ้น ทำให้ถึงจุดจบ แบบจบจริง ๆ ต้องบอกว่าการนอกกายนอกใจสำหรับเราครั้งเดียวคือมันจบ
เราเลิกกับเขาตอนลูกได้ 4 เดือนกว่า ๆ ก็มีหลายเหตุการณ์เวลาทะเลาะกันและเริ่มรุนแรงขึ้น เวลาไปดื่มเมามาก็จะเป็นอีกคนนึง ชอบมากคือชอบไปเที่ยวผู้หญิงครั้งที่ผ่านมาเราจับไม่ได้ เพราะไม่มีเวลาไปสนใจเลี้ยงแต่ลูก มีพังข้าวของลูกซึ่งมันกระทบจิตใจเราและจากการไปทำงาน ตจว. แล้วไปดื่มไม่ยอมกลับบ้านอ้างว่าพาพนักงานไปพักเหนื่อย แต่จะเดินทางกลับแน่นอน แต่ก็ไม่กลับ มีการโทรคุยตลอด และทักคุยตลอด
แต่มีช่วงที่หายและติดต่อไม่ได้เป็นช่วงเวลา ๆ นึง หลังจากนั้นก็โทรกลับหาเรากลับมาบอกว่ากำลังกลับนะที่รัก อ่ะโอเค กลับ เราก็ถามทำไมโทรไปไม่รับ ก็อ้างนู้นนี้ สรุปขับรถบอกกำกลับ แต่ไม่ถึงบ้าน ไปเที่ยวเลาจ์ต่อ เราไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องไปเที่ยวผู้หญิงต่อ อ่ะผ่านไป มีรอยดูดที่คอมาจากที่เที่ยว เลยไม่กล้ากลับบ้าน เราใจเย็นนั่งคุยมาก อยากให้ทุกอย่างมันจบ และอยากรู้ว่าเพราะอะไรถึงกล้าทำ เราถามว่าใคร บอกจำไม่ได้ เมามาก โอเคทุกอย่างจบจริงๆ นั้นคือฉันกำลังโดนโกหก เราก็ถามกลับว่า ได้มีอะไรกันไหม บอกไม่ เราก็คิดถ้าถึงรอยดูที่คอขนาดนั้น อ่ะไม่มีทางหรอก และดันไปเห็นคราบ…ที่กางเกง อ่ะ จบ
ฉันบอกลาทุกคนในบ้านว่า ขอจบทุกอย่างเท่านี้นะ รับไม่ได้จริ งๆ เขาและครอบครัวขอโอกาสอีกสักครั้งเพื่อให้ความรักมันเดินต่อ ได้มีการนั่งคุยกันจริง ๆ มีทั้งผู้ใหญ่ฝั่งเราและฝั่งเขา เราก็ต่างตอบไปว่าเราพอกันแค่นี้เถอะนะ และเราก็ไปจากบ้านไป 2-3วั น เพื่อให้เขาได้ทบทวนตัวเอง และการที่เขาขอโอกาสโอกาสนั้นก็เลยเกิดขึ้นอ่ะ งั้นลองให้ดู
แต่ตอนที่เกิดทุกอย่างขึ้นเราก็เช็คโทรศัพท์ขอย้อนตรงนี้นิดนึง วันที่เกิดทุกอย่าง งงมาก ๆ ว่า ทำไมลบแชทของ ก. ออกจากที่ต้องอัพเดทเรื่องเบบี๋กันตลอด เราไปค้นเห็นการโทรของไลน์ มีการโทรคุยกันระยะนึงในช่วงเวลาตี5 เราถามว่าคุยอะไรกัน บอกทะเลาะกันเรื่องลูก บอกโมโหมากก็เลยลบแชทออกเลยเพราะรำคาญ แต่ย้อนแย้งมาก ๆ
อ่ะเราก็ลองให้โอกาสนั้นแหละ ทุก ๆ วันซื้อดอกไม้ให้ แพลนแต่งงาน ชวนไปเที่ยว ตปท. แต่อยู่ในบ้านก็รู้สึกเต็มไปด้วยความขุนหม่องตลอด เอาจริง ๆ เรื่องมันคาใจเกิดไป ผ่านไป19 วัน เราเลยคิดว่าถอยดีกว่า อีกอย่างความรู้สึกดี ๆ มันไม่กลับเลย เลยตัดสินใจวางแผนกลับบ้าน หอบกระเป๋า 1 ใบออกมากับลูกบินกลับบ้านบอกว่ามีงานถ่ายเพลง
แต่ขอเอาลูกไปด้วยเพราะห่างลูกไม่ได้ ผ่านไป 2 วันเลยตัดสินใจบอกเลิกเลยดีกว่า ให้เด็ดขาดไปเลย ละกลับมาอยู่บ้านเวลาผ่านไปกับหลาย ๆ สถานการณ์ หลังเลิกกันก็ยังเมาและพูดเรื่องเดิมส่งรูปเก่า ๆ มาว่าเรื่องของเรามันเกิดอะไรขึ้น เราแค่คิดว่า เราปล่อยให้เขาไปเติบโตให้ทางที่เขาเลือกดีกว่า
งั้นก็คงเหลือแค่ลูก ที่จะต้องดูแลเขา แต่จะดูแลยังไงก็ต่อ ก็มีโอกาสนัดคุยและคิดว่าต้องจบ เราง่าย ๆ จะดูแลไม่ดูแลก็ได้ จะมาเจอไม่มาเจอก็ได้ เงินจะให้ไม่ให้ก็แล้ว แล้วแต่เลย ก็คุยและเคลียร์จบไปกับเรื่องลูก และสิ่งที่ต้องเด็ดขาดอีกครั้งคือ เมาและทักมาว่าที่เราทำคลิปลูกโพสต์ลง ทำเพื่อลูกหรือเพื่อตัวเอง ทำให้เรารู้สึกว่าอ้าวจะเมามาทักมาสั่งหรือพูดอะไรกับเราก็ได้หรอ
เหตุการณ์เยอะมากจริง ๆ เพราะขนาดตอนมาหาลูกที่บ้านเมาก็จะมาทำร้ายข้าวของลูกและของในบ้าน
หลังจากนั้นเราก็คิดว่างั้นเราต้องบล็อกและลบทุกช่องทาง เราจะได้ไม่ต้องมาสร้างปัญหาหรือสร้างความวุ่นวายต่อกันอีก เรื่องลูกเราก็เลี้ยงของเราตลอดมาซัพทุกอย่างที่เป็นของลูก เลือกที่จะออกมาสร้างชีวิตใหม่กับลูกดีกว่า และปัจจุปันนี้เรามีความสุขขึ้นมากจริงๆ ขอแค่ชัดเจนกับความรู้สึกตัวเอง
มีหลายคนถามนะ ว่าเราจะเล่าหรือบอกลูกยังไง ก็นี้แหละ เขาต้องรู้เรื่องราวทั้งหมด ว่าเป็นมายังไง อยู่ที่จะยอมรับและเข้าใจยังไง แต่ก็จะพยายามสอนและเลี้ยงเค้าให้ดีที่สุด ในเรื่องราวดี ๆ ที่มันจะเกิดขึ้นหลังจากนี้
สุดท้ายนี้ ลูกก็รอไปจบกันที่ศาล เพราะเขาเป็นคนส่งหมายมา ไม่เรียกร้องสิทธิ์แต่ก็จะทำทุกอย่างให้ลงตัวที่สุด นั้นแหละรักตัวเองไม่เจ็บเลยสักวัน ขอโทษนะที่ต้องพูดมันออกมา ทั้งหมดทั้งมวล ขอให้ความผิดทั้งหมดจบอยู่ที่ฉันนะ ฉันและลูกรับมันไว้เอง ให้ทุกการตราหน้าจบอยู่ที่ฉัน แต่ปัจจุบันมีความสุขมาก ๆ สมุดเล่มนี้จะปิดจบเร็ว ๆ นี้ สิ่งที่เราเก็บไว้ของแฟนเก่า คือลูกขอบคุณนะ และจะขอชดใช้กรรมทุกอย่างต่อ”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง