ย้อนรอย คดีน้องเมย 8 ปี ยังสะเทือนใจ ชีวิตที่แลกด้วยคำว่า วินัย
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีการเสียชีวิตของ น้องเมย นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ที่เสียชีวิตภายในโรงเรียนเตรียมทหาร จังหวัดนครนายก เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 โดยศาลมีคำสั่งให้จำคุกรุ่นพี่ที่เกี่ยวข้องเป็นเวลา 4 เดือน 16 วัน แต่ให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี โดยเห็นว่าการลงโทษจำคุกไม่มีประโยชน์ จึงให้จำเลยกลับไปปรับปรุงตนและปฏิบัติงานรับใช้ชาติ
ครอบครัวตั้งข้อสงสัย สาเหตุการเสียชีวิตน้องเมย
คดีของน้องเมยกลายเป็นประเด็นร้อนที่ได้รับความสนใจจากสาธารณชนในช่วงปลายปี 2560 เนื่องจากครอบครัวของผู้เสียชีวิตออกมาเปิดเผยว่า สาเหตุการเสียชีวิตที่ระบุในใบมรณบัตรคือ หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน แต่กลับพบความผิดปกติหลายประการในร่างกายของน้องเมย โดยเฉพาะรอยฟกช้ำที่ปรากฏในหลายจุด และการหายไปของอวัยวะบางส่วนจากการชันสูตรในครั้งแรก จึงได้นำร่างไปตรวจสอบซ้ำที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และพบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับร่องรอยบาดแผลภายใน
เส้นทางการเป็นนักเรียนเตรียมทหาร
พฤษภาคม 2560
นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ ได้เข้าศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหาร จังหวัดนครนายก ในฐานะนักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 หรือ นตท. ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของการฝึกวินัยอย่างเข้มงวด
สิงหาคม 2560
- วันที่ 23 ส.ค. น้องเมยถูกเรียกไป ธำรงวินัย กลางดึก โดยรุ่นพี่สั่งให้เอาศีรษะปักลงพื้นในห้องน้ำเป็นเวลานาน จนเป็นลมหมดสติ และต้องถูกหามส่งโรงพยาบาลภายในโรงเรียน
- วันที่ 30 ส.ค. แม้จะมีใบรับรองแพทย์ให้หยุดพักฟื้นจากการฝึก แต่น้องเมยกลับถูกเรียกไปทำโทษอีกครั้ง โดยต้องออกวิ่งอย่างหนักในช่วงที่ร่างกายยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ตามคำบอกเล่าของพี่สาวที่ออกมาเปิดเผยภายหลัง
ตุลาคม 2560
- วันที่ 16 ต.ค. น้องเมยถูกลงโทษซ้ำอีกครั้ง โดยต้องพุ่งหลัง (ลักษณะของการฝึกทางกายภาพ) เป็นเวลาประมาณ 1-2 นาที ก่อนจะมีอาการอ่อนแรงและหายใจถี่ เจ้าหน้าที่จึงต้องตามนายทหารเวรมาช่วยเหลือ และโทรเรียกรถพยาบาล
- วันที่ 17 ต.ค. เวลาประมาณ 10.00 น. น้องเมยเป็นลมบริเวณทางขึ้นกองแพทย์ ก่อนจะถูกพาตัวไปรักษาและพักฟื้น กระทั่งช่วงบ่ายเวลาประมาณ 15.40 น. เจ้าหน้าที่พบว่าเขาหมดสติภายในห้องพัก จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
ความเคลื่อนไหวของครอบครัวและการต่อสู้มา 8 ปี
หลังจากรับศพกลับบ้าน ครอบครัวได้สังเกตเห็นร่องรอยผิดปกติบนร่างของน้องเมย เช่น รอยฟกช้ำบริเวณแขน ขา และลำตัว พร้อมตั้งข้อสงสัยต่อผลชันสูตรที่ระบุเพียงว่า หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน จึงตัดสินใจส่งร่างไปตรวจซ้ำที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และพบว่ามีอวัยวะภายในบางส่วนหายไปจากการชันสูตรครั้งแรก โดยไม่ได้รับคำอธิบายที่ชัดเจน
หลักฐานจากการตรวจสอบเพิ่มเติมนำไปสู่การดำเนินคดีในระบบศาลทหาร โดยครอบครัวมุ่งหวังจะให้มีการเปิดเผยข้อเท็จจริง และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับลูกชาย
คำพิพากษาศาลทหารชั้นฎีกา
วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ศาลทหารชั้นฎีกาตัดสินลงโทษจำคุกรุ่นพี่ที่เกี่ยวข้องเป็นเวลา 4 เดือน 16 วัน โดยให้รอลงอาญา 2 ปี พร้อมระบุเหตุผลว่าการลงโทษจำคุกจะไม่เกิดประโยชน์ต่อสาธารณชน และเปิดโอกาสให้จำเลยกลับตัวกลับใจเพื่อรับใช้ประเทศต่อไป
แม้คำพิพากษาจะออกมาแล้ว แต่คดี น้องเมย ยังคงเป็นหนึ่งในกรณีที่สะท้อนให้เห็นปัญหาเชิงโครงสร้างของระบบวินัยในสถานศึกษาทางทหาร และสร้างคำถามสำคัญถึงกระบวนการตรวจสอบความจริง ความยุติธรรม และการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในสังคมไทยจนถึงทุกวันนี้