รวบหนุุ่มโพสต์คลิปอนาจารส่งขายสมาชิกกลุ่มลับ โดยใช้แม่ไปเปิดบัญชีรับเงิน สร้างรายได้นับแสน
รวบหนุุ่มโพสต์คลิปอนาจารส่งขายสมาชิกกลุ่มลับ โดยใช้แม่ไปเปิดบัญชีรับเงิน สร้างรายได้นับแสน อ้างถูกลูกชายหลอกเป็นเงินธุรกิจออนไลน์
เจ้าหน้าที่ทำการจับกุมน.ส.จรินทร์ อายุ 51 ปี และ นายวัชรพงษ์ฯ อายุ 26 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 3809-3810/2568 และ 3810/2568 ลงวันที่ 27 มิ.ย. 2568 ข้อหา “ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกฯประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้, เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้าฯ, ร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา, ร่วมกันเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน ” โดยจับกุมผู้ต้องหาที่1 ได้ที่ร้านตัดผมภายในชุมชน ต.หนองโสน
อ.สามง่าม จ.พิจิตร
ส่วนผู้ต้องหาที่2 จับกุมได้คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งภายในใน อ.เมืองนครราชสีมา
ทั้งนี้ทราบว่า เมื่อปี2563 ขณะที่นายบี (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ได้เล่นสื่อสังคมออนไลน์ พบ บัญชีผู้ใช้งานทวิตเตอร์ (twitter) หรือว่า X ไม่ระบุตัวตน เปิดเป็นสาธารณะบุคคลทั่วไปเข้าถึงได้ เมื่อกดเข้าไปดูพบภาพอนาจารและคลิปอนาจารของตนเอง และของผู้เสียหายรายอื่นอีกหลายราย ถูกนำมาเสนอขาย พร้อมระบุหมายเลขบัญชีและชื่อบัญชีให้ชำระเงิน ก่อนจะเข้าไปดูฉบับเต็ม นายบีจึงเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดี
ต่อมาเจ้าหน้าได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของบัญชีผู้ของผู้ต้องสงสัย จนพบว่าเป็นบัญชีของน.ส.จรินทร์ ที่ถูกสั่งการโดยลูกชายคือนายวัชรพงษ์ฯที่ใช่ให้ไปเปิดบัญชีเพื่อรองรับรายได้จากการขายภาพอนาจารและคลิปอนาจารดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร้องขอต่อศาล เพื่อขอออกหมายและตามจับกุมตัวไว้ได้ดังกล่าว
สอบสวน นายวัชรพงษ์ฯให้การรับสารภาพ ว่าช่วงเวลาเกิดเหตุตนนั้นท่องเที่ยวอยู่ในต่างประเทศ จึงขอให้แม่ช่วยไปเปิดบัญชีธนาคาร พร้อมแอปพลิเคชันธนาคาร เพื่อคอยรอรับเงินจากสมาชิกกลุ่มลับ ที่ตนเปิดขายภาพและคลิปอนาจารซึ่งไปหาเอามาจากเวปใต้ดินต่าง ๆ เมื่อสมาชิกซื้อครบ 10 คลิป ก็จะแถมให้ 2 คลิป จนมีรายได้นับแสนบาท ซึ่งก็จะเอาเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และออกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ
ส่วน.ส.จรินทร์ ให้การว่า ตนไม่ทราบมาก่อนว่าบัญชีที่เปิดให้ลูกชายนั้นจะถูกนำไปใช้ในการกระทำผิดกฎหมาย เพียงแต่ลูกชายมาร้องขอให้ช่วยไปเปิดบัญชีธนาคารให้ โดยอ้างว่าจะใช้รับเงินจากการทำธุรกิจออนไลน์เท่านั้น จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่ง สน.บางซื่อ ดำเนินคดีต่อไป