KTX เตือน Q3/68 พายุเศรษฐกิจแรง ลดเป้า SET ที่1,116 จุด
นายณัฐวุฒิ จันทนะจุลพงศ์ นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด หรือ KTX กล่าวว่า ท่ามกลางความเสี่ยงที่สูงขึ้นจากพายุเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ การลงทุนในไตรมาส 3 ปี 2568 ต้องระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เผชิญความท้าทายจากปัญหาหนี้สาธารณะและแรงกดดันจากภาระดอกเบี้ยสูง แต่ไม่สามารถลดดอกเบี้ยลงได้เร็วตามต้องการ เนื่องจากกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตแบบชะลอลง
ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนลงมากถึง 10% นับจากต้นปี 2025 กระทบต่อผลตอบแทนของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นสหรัฐฯ จึงมีแนวโน้มโยกการลงทุนไปยังสินทรัพย์ปลอดภัย อาทิ ทองคำ และสกุลเงินปลอดภัย เช่น เยน, ฟรังก์สวิส รวมถึงสกุลเงินบาท ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยของภูมิภาค
ส่วนตลาดหุ้นไทย นายณัฐวุฒิ ระบุว่า ยังคงมีความผันผวนและเปราะบาง จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและความเสี่ยงทางการเมือง โดยเฉพาะผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ที่อาจกดดันกำไรบริษัทในช่วงครึ่งหลังของปี2568 เป็นต้นไป รวมถึงความเสี่ยงเฉพาะตัวที่อาจเพิ่มขึ้นของหุ้นขนาดใหญ่ KTX จึงปรับลดเป้าหมาย SET มาอยู่ที่ 1,116 จุด ซึ่งทางเทคนิคดัชนีมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในนัยของการปรับขึ้นมากกว่า มีแนวต้านเป้าหมายบริเวณ 1,140-1,150 จุด หากผ่านจุดนี้ได้จะเปิดทางขยับขึ้นไปยัง 1,200 จุดอีกครั้ง โดยมีประเด็นภาษีตอบโต้สหรัฐฯ เป็นปัจจัยชี้นำทิศทางของดัชนี
แนะนำลงทุนแบบ Selective ในหุ้นราคาไม่แพง หนี้สินต่ำ และจ่ายปันผลสูง ที่รองรับความผันผวนได้ดี อาทิ TFG, SYNEX, KBANK, ADVANC, GULF โดยกลุ่มธนาคารมีแนวโน้มโดดเด่นจากความหวังเรื่องจ่ายเงินปันผล เราเลือก KBANK, SCB, BBL และ KTB ตามด้วยหุ้นพลังงานอย่าง GULF ซึ่งเป็นโอกาสเข้ารับหลังราคาปรับตัวลงมาแล้ว นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มที่สามารถคาดหวังแนวโน้มผลประกอบการเติบโต เช่น TFG ในกลุ่มอาหาร และกลุ่ม ICT ได้แก่ ADVANC, TRUE, SYNEX
นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิ ได้ให้ข้อเสนอแนะว่า ให้นักลงทุนสะสมทองคำ (Gold Online Futures – GOU25) ในพอร์ตด้วย โดยประเมินเป้าหมายราคาทองคำระยะ 12 เดือนข้างหน้าที่ 3,936 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยโอกาสอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และสงครามการค้าที่ยืดเยื้อระหว่างสหรัฐฯ ยุโรป และกลุ่ม BRICS รวมถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของความต้องการทองคำ เห็นได้จากการเร่งเพิ่มถือครองทองคำของธนาคารกลางทั่วโลก สอดรับกับมุมมองทางเทคนิคที่ราคาทองคำมีโอกาสลุ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่เหนือ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะมีหลากหลายปัจจัยกดดัน นายณัฐวุฒิ ประเมินว่า ยังมีมุมมองบวก จากการที่นักวิเคราะห์ยังคงปรับประมาณกำไรของบริษัทจดทะเบียน S&P500 ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ นำโดยกลุ่มบริการสื่อสาร และเทคโนโลยี ซึ่งได้รับประโยชน์โดยตรงจากการลงทุนและประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในธุรกิจต่าง ๆ เช่นเดียวกับกลุ่มการเงินและธนาคารของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มแข็งแกร่งต่อเนื่อง อีกทั้งมีจิตวิทยาเชิงบวกจากแนวโน้มการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ทางการเงินในครึ่งปีหลัง
การลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ KTX แนะนำให้มุ่งเน้นกลยุทธ์ Selective ในหุ้นที่เติบโตสอดคล้องกับธีม AI และมีกำไรสม่ำเสมอ โดยหุ้นที่โดดเด่น อาทิ Nvidia, Meta Platform, Reddit, CrowdStrike และ ในกลุ่มธนาคารอย่าง JPMorgan ส่วนการเก็งกำไรแนะนำกลุ่มพลังงานนิวเคลียร์อย่าง US Electrification ETF (ZAP) ตามความต้องการไฟฟ้าที่เร่งตัวขึ้นและได้รับการสนับสนุนจากนโยบายของรัฐ ซึ่งการลงทุนในภาวะที่พายุพัดแรง ต้องรู้ว่าจะหยุดรอจังหวะไหน และไปต่ออย่างไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
DBS คาด GDP ปีนี้ 1.8% กรณีไทยโดนเก็บภาษีจากสหรัฐ 18-20%
Jitta Wealth แนะ กระจายพอร์ตรับความเสี่ยง ชู หุ้นจีน-ฮ่องกง ผลตอบแทนเด่น
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : KTX เตือน Q3/68 พายุเศรษฐกิจแรง ลดเป้า SET ที่1,116 จุด
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com