SharpLink Gaming เทหมดหน้าตัก! ซื้อ ETH อีก 49 ล้านดอลลาร์ ถือครองแซง Ethereum Foundation แล้ว
SharpLink Gaming เทหมดหน้าตัก! ซื้อ ETH อีก 49 ล้านดอลลาร์ ถือครองแซง Ethereum Foundation แล้ว
บริษัท SharpLink Gaming ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ได้เข้าซื้อ Ether (ETH) เพิ่มอีกประมาณ 49 ล้านดอลลาร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสราคา ETH ที่พุ่งทะลุ 3,000 ดอลลาร์
การทำธุรกรรมนี้ส่งผลให้ SharpLink มีเหรียญ Ether สะสมในคลังรวมเกือบ 198,300 ETH หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 608 ล้านดอลลาร์ ตามราคาตลาด ณ เวลาที่เขียนบทความ โดยบริษัทเริ่มสะสม Ether อย่างจริงจังตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และล่าสุดได้กลายเป็นบริษัทที่มี Ether ในคลังมากที่สุดในโลก แซงหน้า Ethereum Foundation ไปแล้ว
การเคลื่อนไหวของเงินครั้งใหญ่
ตามข้อมูลจาก Arkham Intelligence และ Etherscan กระเป๋าเงินของ SharpLink Gaming ได้รับ ETH จำนวน 16,370 เหรียญ มูลค่า 48.7 ล้านดอลลาร์ จากกระเป๋าที่คาดว่าอยู่ภายใต้การควบคุมขององค์กรพัฒนา Ethereum อย่าง Consensys ซึ่งตามหลังการเข้าซื้อ ETH จำนวน 10,000 เหรียญจาก Ethereum Foundation เพียงไม่กี่วัน
ในเวลานี้ SharpLink ถือ Liquid Staked ETH (LSETH) จำนวน 181,860 เหรียญ และ ETH ปกติอีก 16,419 เหรียญ รวมเป็น 198,300 ETH มากกว่าที่ Ethereum Foundation ถืออยู่ (197,400 ETH)
ETH กลายเป็นทรัพย์สินสำรองขององค์กร
SharpLink Gaming เริ่มเปลี่ยนกลยุทธ์สู่การถือครอง Ether เป็นสินทรัพย์สำรองของบริษัทตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม พร้อมกับแต่งตั้ง Joseph Lubin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ขึ้นเป็นประธานบอร์ดบริหาร
ขณะเดียวกัน SharpLink ก็ทำข้อตกลงระดมทุนผ่านการขายหลักทรัพย์มูลค่า 425 ล้านดอลลาร์ โดยมี Consensys เป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนหลัก ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างองค์กรในระบบนิเวศ Ethereum
Lubin ให้สัมภาษณ์ว่า การที่องค์กรต่าง ๆ เริ่มถือครอง Ether เป็นทรัพย์สินสำรองนั้น “เป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนา ecosystem ของ Ethereum” และเสริมว่าการควบคุมปริมาณ ETH ที่ไหลเวียนในตลาดจะเป็นกลไกสำคัญของอุปสงค์-อุปทานในอนาคต
ETH พุ่งแตะ 3,000 ดอลลาร์อีกครั้ง
ราคาของ ETH กลับมายืนเหนือระดับ 3,000 ดอลลาร์ได้อีกครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นกว่า 3.5% ภายใน 24 ชั่วโมงตามข้อมูลจาก Nansen ซึ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นที่กลับมาในตลาด Ethereum ทั้งในฝั่งนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน
ความเคลื่อนไหวของ SharpLink Gaming ครั้งนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงแนวโน้มการถือครอง ETH เป็นทรัพย์สินสำรองของบริษัทจดทะเบียน ที่กำลังกลายเป็นกระแสใหม่ในตลาดคริปโต
อ้างอิง : cointelegraph.com
ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/sharplink-gaming-biggest-ether-holder-2025
Grayscale เตรียม IPO! ยื่นแบบลับกับ SEC เตรียมเปิดตัวบริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
Grayscale Investments บริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหญ่ของโลก ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลลับต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่กระบวนการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะ (IPO) ตามประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
แม้ยังไม่มีการเปิดเผยจำนวนหุ้นที่จะเสนอขายหรือมูลค่าการระดมทุนในครั้งนี้ แต่การยื่นแบบลับช่วยให้ Grayscale สามารถเก็บรายละเอียดทางการเงินและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไว้เป็นความลับได้ จนกว่าจะตัดสินใจเดินหน้ากระบวนการ IPO อย่างเป็นทางการ ซึ่งตามกฎของ SEC บริษัทจะต้องเปิดเผยหนังสือชี้ชวนอย่างน้อย 15 วันก่อนเริ่ม Roadshow กับนักลงทุน
IPO ครั้งนี้เกิดขึ้นหลัง 18 เดือนอันคึกคักของ Grayscale
การยื่น IPO ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ Grayscale ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Digital Currency Group (DCG) โดยในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา Grayscale ได้แปลงกองทุน Bitcoin Trust (GBTC) ให้เป็น Spot Bitcoin ETF ได้สำเร็จ หลังจากชนะคดีประวัติศาสตร์กับ SEC เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และในเดือนพฤษภาคม กองทุน Ethereum Trust ก็ได้รับการอนุมัติให้แปลงเป็น Spot Ethereum ETF เช่นกัน
ความสำเร็จของทั้งสองผลิตภัณฑ์ทำให้ Grayscale มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) รวมกันมากกว่า 30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามข้อมูลจาก The Block
กระแส IPO คริปโตเริ่มกลับมาในยุคของทรัมป์
การเคลื่อนไหวของ Grayscale เกิดขึ้นในช่วงที่วอลล์สตรีทเริ่มเปิดรับบริษัทคริปโตมากขึ้นภายใต้ยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่มีท่าทีสนับสนุนคริปโตอย่างชัดเจน โดยในเดือนที่ผ่านมาCircle Internet Group (CRCL) ผู้ออกเหรียญ Stablecoin รายใหญ่ได้เปิดตัวในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กอย่างยิ่งใหญ่ และบริษัทอย่าง Gemini กับ Bullish ก็เริ่มเดินหน้าสู่ IPO เช่นกัน
รายชื่อบริษัทคริปโตที่อาจเข้าตลาดหุ้นเร็ว ๆ นี้
แหล่งข่าวจาก The Block ยังระบุว่า บริษัทคริปโตอีกหลายรายกำลังจับตาเข้าสู่ตลาดทุนในอนาคตอันใกล้ ไม่ว่าจะเป็น Kraken, BitGo, Anchorage, OKX, Uphold, Ledger และแม้กระทั่ง DCG เอง นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึง Ripple ว่าอาจเป็น “ตัวเต็งลุ้นไกล” สำหรับการ IPO ด้วย
อ้างอิง : theblock.co
ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/grayscale-ipo-sec-spot-etf-crypto-wall-street-2025
กลุ่มทุน Metaplanet ผนึกกำลังซื้อ SGA เกาหลีใต้ หวังปั้นบริษัทถือ Bitcoin รายใหม่ในเอเชีย
Simon Gerovich ซีอีโอของ Metaplanet บริษัท Web3 สัญชาติญี่ปุ่น กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับกลุ่มพันธมิตรเพื่อเข้าซื้อกิจการบริษัท SGA ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาด KOSDAQ ของเกาหลีใต้ โดยมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยน SGA ให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่ถือ Bitcoin (BTC) ในฐานะสินทรัพย์คลัง
แม้ Gerovich จะถูกระบุว่าเข้าซื้อในฐานะนักลงทุนอิสระ ไม่ได้ดำเนินการในนาม Metaplanet โดยตรง แต่แผนการนี้ก็สอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะยาวของ Metaplanet ที่ต้องการขยายอิทธิพลของ Bitcoin ในตลาดเอเชีย
ตามประกาศของTop Win International (ชื่อย่อ SORA ในตลาด Nasdaq) บริษัทระบุว่ารายได้จากการออกหุ้นใหม่จำนวน 58 ล้านหุ้นในครั้งนี้จะถูกนำไปใช้ในการซื้อกิจการและลงทุนในสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ โดยแผนนี้ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ SGA และหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของเกาหลีใต้แล้ว แต่ยังไม่มีข้อตกลงสุดท้ายในขณะนี้ หากสำเร็จ Top Win (หรือชื่อใหม่ Asia Strategy LLC) จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ SGA
SGA ยืนยันว่าจะยังคงดำเนินธุรกิจหลักตามปกติ ขณะเดียวกันก็จะใช้ความเชี่ยวชาญของกลุ่มพันธมิตรในการขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
กลยุทธ์M&A + Bitcoin Treasury กำลังกลายเป็นกระแสใหม่ในเอเชีย
หลังจับมือกับSora Ventures เมื่อเดือนพฤษภาคม 2025 Top Win ได้เปลี่ยนทิศทางสู่การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล โดยแต่งตั้งJason Fang ผู้ก่อตั้ง Sora Ventures เป็น Co-CEO และสมาชิกบอร์ด เพื่อเร่งการปรับตัวเข้าสู่ยุทธศาสตร์ Bitcoin-first
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา กลุ่มทุนที่นำโดย Metaplanet ซึ่งประกอบด้วย Sora Ventures, UTXO Management, Moon Inc. และ Kliff Capital ได้ยื่นข้อเสนอเข้าซื้อกิจการของ DV8 บริษัทอิเล็กทรอนิกส์จดทะเบียนในไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการเปลี่ยนบริษัทดั้งเดิมให้กลายเป็น “บริษัทสายถือ BTC” ในตลาดทุนเอเชีย
Metaplanet ซื้อเพิ่มอีก 797 BTC ดันถือรวม 16,352 BTC มูลค่ากว่า 1.64 พันล้านดอลลาร์
ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา Metaplanet ประกาศซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 797 เหรียญ ในราคาเฉลี่ยเหรียญละ 117,451 ดอลลาร์ ทำให้บริษัทมี Bitcoin ในคลังรวมทั้งสิ้น 16,352 BTC หรือราว 1.64 พันล้านดอลลาร์
Metaplanet เริ่มถือ Bitcoin ครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 2024 ด้วยจำนวนเพียง 97.85 BTC ก่อนจะเร่งสะสมอย่างต่อเนื่องตามแนวทางของMichael Saylor แห่ง Strategy ที่เป็นบริษัทแรกที่นำกลยุทธ์ Bitcoin Treasury มาใช้
ข้อมูลจาก Bloomberg เผยว่าหลังจาก Metaplanet เริ่มซื้อ BTC ราคาหุ้นของบริษัทก็พุ่งขึ้นกว่า 4,800% ภายในเวลา 12 เดือน ทำให้กลายเป็นบริษัทมหาชนที่ถือ BTC มากเป็นอันดับ 5 ของโลกในปัจจุบัน
สำหรับ Strategy ของ Saylor ปัจจุบันถือครอง Bitcoin มากถึง 601,550 BTC ซึ่งมากที่สุดในโลก
อ้างอิง : cointelegraph.com
ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/metaplanet-bitcoin-sga-asia-strategy
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้