“โรม” จวก! รัฐบาลช้า พาผู้แทนต่างชาติลงพื้นที่หลังกัมพูชา-ทำเสียโอกาสสื่อสาร
วันนี้ (31 ก.ค. 68) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม กมธ.เพื่อติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา โดยระบุว่าขณะนี้แม้สถานการณ์การสู้รบจะคลี่คลายลงและมีแนวโน้มจะหยุดยิงแล้ว แต่สิ่งที่น่ากังวลไม่แพ้กันคือ “การต่อสู้ในเวทีระหว่างประเทศ” ที่ไทยกำลังเสียเปรียบ
นายรังสิมันต์ ชี้ว่า กัมพูชามีความรวดเร็วในการดำเนินการด้านต่างประเทศ โดยเมื่อวันที่ 30 ก.ค. ได้นำผู้ช่วยทูตทหารและสื่อต่างชาติเยี่ยมพื้นที่ปะทะ ขณะที่ไทยเพิ่งจะมีแผนนำคณะทูตลงพื้นที่ในวันที่ 1 ส.ค. ซึ่งถือว่า “ล่าช้า” และอาจพลาดโอกาสสำคัญในการสื่อสารข้อเท็จจริงให้ประชาคมโลกเห็นภาพโดยตรง
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า “ถ้าไทยพาทูตและสื่อต่างชาติไปก่อนหน้านี้ เขาจะได้เห็นสภาพความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นการอพยพหรือสภาพความเดือดร้อนของประชาชน แต่เมื่อช้า ประชาชนก็เริ่มทยอยกลับบ้าน ภาพที่เห็นจึงไม่ใช่ภาพเต็มที่ กัมพูชาก็ชิงเล่าเรื่องก่อน และนั่นทำให้ไทยดูเหมือนแค่ตอบโต้หรือแก้ตัว”
นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ ยังตั้งข้อสังเกตว่า กัมพูชาใช้ทุกช่องทางระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ แม้แต่ประธานรัฐสภาของกัมพูชายังกล่าวถึงประเด็นนี้บนเวทีสำคัญ ในขณะที่ไทยไม่มีการเตรียมการด้านการทูตอย่างเพียงพอ ซึ่งถือเป็นจุดอ่อน
สำหรับข้อกล่าวหาว่ากัมพูชาสื่อสารบิดเบือนนั้น นายรังสิมันต์ย้ำว่า จุดสำคัญไม่ใช่แค่การโต้กลับ แต่คือการทำให้โลก “เห็นความจริง” ด้วยตาของตัวเอง เพราะความเข้าใจของนานาชาติไม่ได้เกิดขึ้นเอง หากไม่มีข้อมูลจากภาคสนามหรือคำอธิบายที่ชัดเจนจากฝ่ายไทย
“ความเสียหายนี้ต้องยอมรับว่าเกิดจากความล่าช้าของรัฐบาล ในขณะที่ไทยมีศักยภาพมากกว่า มีสถานทูตจากทั่วโลกอยู่ในประเทศ และมีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่แน่นแฟ้น แต่กลับกลายเป็นว่า เราเสียเปรียบประเทศที่เล็กกว่าอย่างกัมพูชาในด้านการต่างประเทศ”