โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ย้อนความเห็นเลขากฤษฎีกา ทำไมรักษาการนายกฯไม่มีอำนาจยุบสภา

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิกฤตการเมืองไทยขณะนี้ได้เข้าสู่จุดหักเหที่สำคัญ เมื่อคณะรัฐมนตรีรักษาการต้องเผชิญกับปัญหาความชอบธรรมในการบริหารประเทศ หลังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา

ท่ามกลางการต่อสู้ทางการเมืองระหว่างพรรคต่างๆ ในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และการที่พรรคประชาชนยังไม่ชัดเจนในการเข้าร่วมรัฐบาล ทำให้เกิดข้อถกเถียงเรื่องทางออกทางการเมือง โดยเฉพาะการหาทางเลือกผ่าน "การยุบสภา" ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นทางเลือกหนึ่ง

แต่คำถามสำคัญที่เกิดขึ้นคือ นายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี มีอำนาจในการยุบสภาหรือไม่?

ย้อนไปเมื่อช่วงกลางปี 2568 นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เคยชี้แจงประเด็นนี้ไว้อย่างชัดเจนผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยืนยันว่ารักษาการนายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจในการยุบสภา ด้วยหลักเหตุผลทางรัฐธรรมนูญที่น่าสนใจ ผ่านเฟซบุ๊ก “Alex Pakorn” โดยมีเนื้อหาที่มีการโพสต์นั้นเป็นการยืนยันว่า อำนาจของ รักษาการนายกรัฐมนตรี ยุบสภาไม่ได้ และปรับคณะรัฐมนตรี ไม่ได้

นายปกรณ์ ระบุว่า ตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยของบ้านเรา การเสนอแต่งตั้งรัฐมนตรีและการยุบสภา เป็นอำนาจเฉพาะตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเท่านั้น เช่นเดียวกับกลุ่มประเทศที่ปกครองในระบอบรัฐสภาแบบ Westminster เป็นไปตาม “หลักความไว้วางใจ”

ประเทศไทยจะเห็นได้ชัดในประกาศแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีความสรุปว่า ประธานสภา …. กราบบังคมทูลว่าสภาลงมติไว้วางใจให้ นาย/นางสาว … เป็นนายกรัฐมนตรี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี

ส่วนกรณีประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี ก็ชัดเจนว่า บัดนี้นาย/นางสาว … นายกรัฐมนตรี ได้กราบบังคมทูลเสนอชื่อบุคคลผู้สมควรไว้วางใจให้เป็นรัฐมนตรี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งบุคคลดังต่อไปนี้เป็นรัฐมนตรี จะเห็นได้ชัดว่าเป็นความไว้วางใจมาเป็นทอดๆ และพระมหากษัตริย์ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ตามที่สภาเสนอและประธานสภานำความกราบบังคมทูล หรือทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ตามที่นายกรัฐมนตรีกราบบังคมทูลว่าสมควรไว้วางใจ

โดยนัยนี้เอง รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกฯ จึงไม่มีอำนาจเสนอแต่งตั้งรัฐมนตรี หรือเสนอให้รัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง เพราะรองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นเพียงรัฐมนตรีคนหนึ่งซึ่งได้รับความไว้วางใจจากนายกรัฐมนตรี เฉกเช่นเดียวกับรัฐมนตรีคนอื่น ไม่ได้รับความไว้วางใจจากสภาให้เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร จึงจะแต่งตั้งหรือปลดรัฐมนตรีคนอื่นๆ มิได้

หรือยิ่งไปกว่านั้นคือ รองนายกฯรักษาราชการแทนนายกฯจะเสนอให้ยุบสภา ถ้ายังมีผู้ดำรงตำแหน่งนายกฯอยู่ ยิ่งไม่ได้ เพราะไม่ใช่ผู้ได้รับความไว้วางใจจากสภาให้เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร หากเป็นเพียงผู้ซึ่ง นรม. ถวายความเห็นต่อพระมหากษัตริย์ว่าเป็นผู้สมควรไว้วางใจให้แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีเท่านั้น การยุบสภาจึงเป็นอำนาจเฉพาะของนายกฯเท่านั้น

กล่าวได้ว่าการกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรีก็ดี หรือถวายคำแนะนำให้ยุบสภาก็ดี เป็นเรื่องของนายกฯ ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากสภาให้เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารโดยแท้

ถ้านายกฯพ้นจากตำแหน่ง รองนายกฯรักษาราชการแทนนายกฯจะมีอำนาจเช่นนั้นหรือไม่ ต้องทราบว่าถ้านายกฯพ้นจากตำแหน่งไปไม่ว่าด้วยเหตุใด ผลคือคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และรัฐธรรมนูญบัญญัติรองรับไว้ว่า เมื่อ ครม. พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ให้ดำเนินการเพื่อให้มี ครม .ขึ้นใหม่ implication จึงชัดเจนว่าสภาต้องดำเนินการเพื่อให้มีการเลือก ครม. ใหม่ขึ้น

ดังนั้น จึงต้องมีสภาอยู่เพื่อดำเนินการดังกล่าว เป็นบทบังคับที่ต้องดำเนินการ สภาจึงไม่อาจถูกยุบได้ในห้วงเวลานี้ และถึงอยากจะทำก็ทำไม่ได้ เพราะไม่มีความชอบธรรมที่จะทำดังกล่าวมาข้างต้น

ถ้านายกฯเกิดป่วยจนปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้โดยสิ้นเชิง รองนายกฯรักษาราชการแทนนายกฯจะกราบบังคมทูลเพื่อยุบสภาได้ไหม ต้องบอกว่าในระบบความไว้วางใจนั้น ถ้าผู้ซึ่งสภาให้ความไว้วางใจปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้โดยสิ้นเชิง สภาก็ต้องเรียกประชุมกันเพื่อถอดถอนความไว้วางใจสำหรับท่านเดิม แล้วพิจารณาลงมติกันว่าสมควรไว้วางใจผู้ใดขึ้นแทน เป็นกระบวนการของสภาที่จะต้องปรึกษาหารือตกลงกัน ไม่ใช่กิจของผู้รักษาราชการแทน

นายปกรณ์ย้ำว่า คำว่า “ไว้วางใจ” ในรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ “แบบ” แต่มันคือ “ระบบ”

"ที่เขียนมานี้เพียงเพื่ออธิบายหลักการของรัฐธรรมนูญตามความรู้ที่ร่ำเรียนมาเท่านั้น ถ้าอยากรู้ลึกๆ ให้ไปอ่านตำราประวัติศาสตร์ของระบบรัฐสภาแบบ Westminster ดู เอา ตั้งแต่สมัยพระเจ้า George I ที่เริ่มมี Prime Minister คนแรกคือ Sir Robert Whapole (later : 1st Earl of Oxford) ก็พอ"นายปกรณ์ระบุ

ล่าสุดวันนี้ (2 กันยายน 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์ถึงอำนาจการยุบสภาของรักษาการนายกรัฐมนตรีอีกครั้งว่า ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นไปแล้ว ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน

“ตนได้ให้ความเห็นไปแล้ว ยังยืนยันความเห็นเดิม” นายปกรณ์ ระบุ

เมื่อถามว่า จะเป็นอย่างไรถ้ารักษาการนายกฯ ตัดสินใจยุบสภาจริง นายปกรณ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เมื่อถามย้ำว่า จะมีความผิดในทางกฎหมายหรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า เรื่องยังไม่เกิด เราอย่าเพิ่งไปคาดเดาอะไรเลย ยังไม่มีอะไร ใจเย็นๆ

ส่วนหน่วยงานไหนจะเป็นผู้ตัดสินได้ชัดเจน นายปกรณ์ กล่าวว่า จริงๆ แล้วเรื่องการตีความรัฐธรรมนูญเป็นหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ เราเพียงให้ความเห็นกันไปคนละนิดละหน่อย แต่เดี๋ยวพูดกันไปมันจะยุ่ง

เมื่อถามอีกว่า เรื่องต้องเกิดขึ้นก่อน ถึงจะยื่นได้ใช่หรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า ใช่ ส่วนผู้ที่มีสิทธิ์ยื่นนั้น เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้มีอะไรพิสดาร

ส่วนกรณีถ้ารัฐบาลยุบสภาแล้วมีคนไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญการเมืองในช่วงนั้นจะเป็นอย่างไร นายปกรณ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เรื่องยังไม่เกิดและขอไม่ตอบ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

ครม.ทิ้งทวนตั้ง ‘พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์’ ข้ามห้วยนั่ง ‘ปลัดแรงงาน’

17 นาทีที่แล้ว

ปชน.ชี้ถ้าเพื่อไทยยุบสภาหลังโหวตนายกฯแค่รักษาประโยชน์ส่วนตัว

21 นาทีที่แล้ว

โบรกชี้ตลาดหุ้นไทยเดือนก.ย. เสี่ยงผันผวน 1,200-1,280 จุด การเมือง-ศก.โลกกดดัน

37 นาทีที่แล้ว

สธ. ยันงบ 3.3 พันล้านก่อสร้างสถาบันมะเร็งแห่งชาติแห่งใหม่คุ้มค่า

59 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

แพทองธารเดินทางถึงพรรค ยิ้มให้สื่อก่อนประชุม ส.ส.บ่ายนี้

มุมข่าว

‘ทักษิณ’ เข้าพรรคเพื่อไทย เลี่ยงเจอสื่อเข้าทางหลังตึก แต่ยังส่งยิ้มโบกมือทักทาย

The Bangkok Insight

‘หมอมิ้ง’ขอถามศาลรัฐธรรมนูญ ปมตุลาการครบวาระนั่งบัลลังก์วินิจฉัยคดี‘อิ๊งค์’

เดลินิวส์

ฉลุย! มติวุฒิฯ 151 เสียงเห็นชอบร่างพรบ.งบฯ69 "พิชัย" ขอบคุณน้อมรับข้อเสนอแนะ

สยามรัฐ

“ลุงตู่” หรือใคร? พริษฐ์ จี้เพื่อไทยตอบปม “อัศวินขี่ม้าขาว”

WeR NEWS

ป.ป.ช. จับมือแบงก์ สร้างระบบข้อมูลกลาง หวังใช้ตรวจสอบทรัพย์สินนักการเมือง-จนท.รัฐ

Thai PBS

ข่าวและบทความยอดนิยม