บุกทลายเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์เกาหลี ใช้ไทยเป็นฐานตุ๋นเหยื่อชาติเดียวกัน
เมื่อวันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เชื้อพลากิจ ผกก.2 บก.ทท.1 สั่งการให้ พ.ต.ท.ต่อลาภ ตินะมาตร สวญ.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 พ.ต.ท.ศุภรัตน์ มีปรีชา สว.ส.ทท.4 กก.2 บก. ทท.1 พ.ต.ต.อภิชาติ จารุรักษ์ สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 พ.ต.ต.สมชนก ชัยประเสริฐสกุล สว.กก.2 บก.ทท.1 สนธิกำลัง พ.ต.อ.นภัสพงษ์ โฆษิตสุริยมณี ผกก.ตม.จว.ชลบุรี นายลี ยองกุน กงสุลตำรวจ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย เข้าช่วยเหลือ นายอัน อายุ 31 ปี ชาวเกาหลีใต้ หลังบิดาในประเทศเกาหลีแจ้งผ่านสถานทูต ว่าลูกชายถูกบังคับให้ทำงานและทำร้ายร่างกาย ก่อนติดตามช่วยเหลือได้ที่ซอยชุมชนชายทะเล ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
จากการสอบถามนายอัน ให้ข้อมูลว่า ถูกเพื่อนร่วมชาติบังคับให้ทำงานในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกคนเกาหลีให้ลงทุนเล่นหุ้น แต่ตนไม่อยากทำจึงถูกทำร้ายร่างกาย ก่อนนำตัวมาทิ้งไว้ที่ชุมชนดังกล่าว จากนั้นได้โทรศัพท์แจ้งบิดาเพื่อขอให้สถานทูตช่วยเหลือ
เมื่อได้ข้อมูลแล้ว ทาง พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เชื้อพลากิจ ผกก.2 บก.ทท.1 สั่งการให้ พ.ต.ท.ต่อลาภ ตินะมาตร สวญ.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 พ.ต.ท.ศุภรัตน์ มีปรีชา สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 สนธิกำลังเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบกลุ่มชาวต่างชาตินั่งรวมตัวอยู่ จึงแสดงตัวเข้าจับกุม พอเห็นตำรวจก็พากันวิ่งแตกฮือหนีออกจากบ้านไปคนละทิศคนละทาง ก่อนจับกุมชายเกาหลี 6 ราย หญิงเกาหลี 1 ราย ชายจีน 1 ราย จากนั้นได้นำตัวไปตรวจค้นอาคารพาณิชย์ในพื้นที่ห้วยใหญ่ ก็พบว่าชั้น 1 และ 2 ถูกดัดแปลงเป็นห้องทำงานของคอลเซ็นเตอร์ จึงตรวจยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อาทิ โน้ตบุ๊ก 14 เครื่อง คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 4 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 15 เครื่อง
สอบสวนให้การรับสารภาพว่า ได้ใช้ไทยเป็นฐานตั้งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงชาวเกาหลีจริง โดยเป็นกลุ่มเดียวกับที่ก่อนหน้านี้ตำรวจท่องเที่ยวได้จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวเกาหลีใต้ที่พัทยา เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา จึงควบคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมรายงาน ตม.ชลบุรี เพื่อดำเนินการเพิกถอนวีซ่าและนำของกลางส่ง พงส.สภ.ห้วยใหญ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป