โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

“ยิปโซ” เล่าชีวิตสุดโต่ง ลดน้ำหนักจนผมร่วง

INN News

อัพเดต 15 สิงหาคม 2568 เวลา 23.44 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • INN News

“ยิปโซ” เล่าชีวิตสุดโต่ง ลดน้ำหนักจนผมร่วง ประจำเดือนไม่มา สู่เส้นทางเยียวยาตัวเอง

ล้วงชีวิตสุดโต่ง! ยิปโซ อริย์กันตา ในรายการ Prime Cast เจาะลึกถึงเรื่องรูปร่างและความคาดหวังของสังคม แชร์ประสบการณ์การป่วย Eating Disorder ที่ไม่มีใครรู้ เคยคลั่งผอมจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด สู่การเรียนรู้ที่จะหาจุดสมดุลระหว่างความสุดขอบและความพอดี โดยเฉพาะในเรื่องการออกกำลังกาย เข้าใจและยอมรับในธรรมชาติของร่างกายและจิตใจ และเรื่องการจัดการกับฮอร์โมนด้วยความยากลำบาก

ตอนนี้พี่ยิบโซทำอะไรอยู่บ้าง ไม่ได้ถามอายุ ?

ยิปโซ : ฉันไม่เคยอายกับเรื่องอายุตัวเองเลยจริง ๆ ปีนี้ 36 ค่ะ มีความสุขนะคะจริงๆแล้ว

ชอบตัวเองในเวอร์ชั่นไหนมากที่สุด ?

ยิปโซ : มันจะไม่ใช่หลักปีสิ แต่โดยรวม อย่างช่วงอายุ 32 หรือ 35 มันจะมีช่วงที่เราชอบอะไรบางอย่างไม่เหมือนกัน แต่โดยรวมก็ยังยืนยันคำเดิมว่าตอนนั้นอายุเท่าไหร่ตอนนี้อายุเท่าไหร่เราก็จะชอบอันนั้นที่สุด จะเป็นคนที่ไม่กล้าเปลี่ยนอะไรเลย เพราะรู้สึกว่าถ้าเปลี่ยน เดี๋ยวตรงนี้จะไม่เป็นแบบนี้ เพราะรู้สึกว่ายังไง ๆ มันก็ต้องมาแบบนี้

ช่วงนี้ทำอะไรอยู่บ้าง ?

ยิปโซ : ทุกวันนี้ก็คือทำงานปกติในแง่ของโซเชียลก็จะมีงานอยู่ แต่ว่างานละคร งาน acting ตอนนี้ยังไม่ได้ทำโปรเจกต์อะไรค่ะ แล้วก็ทำงานศิลปะเยอะขึ้น เพราะว่าเหมือนกับตอนต้นปีที่ผ่านมา ปี 2025 ก็คือพี่เริ่มทำเหมือนกับ Exhibition join ไป ก็คือเหมือนกับว่าเอาสิ่งที่เคยวาดมาตลอดตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ ที่มันไม่เคยแบบทำจริงจังซักที เอามาทำ Exhibition แล้วหลังจากนั้นมา ทุกวันนี้ก็ยังพยายามสม่ำเสมอกับการทำมันมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็หลัง ๆ อินกับการออกกำลังกาย สนุกกับมันมาก ๆ สนุกเกินไปจนมีผลแห่งกรรมบางอย่าง

ได้ทำอะไรในสิ่งที่ตัวเองชอบ ?

ยิปโซ : เรียกว่าทำหลายอย่าง แต่ไม่เรียกว่าเจอ balance มีความแตกต่างนะ ไม่รู้ทำ balance หายไปตรงไหน

แต่ถือว่าศิลปะที่เอาเข้ามามากขึ้นก็ช่วยเยียวยาจิตใจเรามากขึ้นไหม ?

ยิปโซ : มากค่ะ คือเหมือนกับว่าเยียวยาจิตใจแต่ไม่ค่อยเยียวยาเรื่องทางการเงิน คือทำในสิ่งที่อยากทำ แต่ตอนนี้กำลังหา balance นั้นอยู่ว่าเราจะทำในสิ่งที่อยากทำ แล้วทำแบบฉลาดยังไงให้มันหาเลี้ยงชีพตัวเองได้ เราทำในสิ่งที่รัก แต่ว่าสิ่งที่เรารักนั้นควรจะเป็นสิ่งที่ support ชีวิตเราได้ด้วย รู้สึกว่ามันหมดยุคที่จะต้องแลกอันใดอันหนึ่งแล้ว รู้สึกว่า 2 อย่างมันควรจะรวมกันได้ถึงจะเป็นอะไรที่ยั่งยืน แล้วรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้มันทำอย่างงั้นได้ง่ายขึ้น รู้สึกว่าแต่ละคนไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ มี skill ในการหา balance ในชีวิตตัวเองไม่เท่ากัน การที่เราปรับเหมือนกับอายุเท่านี้ ไม่ได้แปลว่าพี่ผ่านอะไรมาแล้วจะหา balance ได้เก่งกว่าคนอื่นนะ เพราะว่ามันขึ้นอยู่กับพื้นนิสัยแต่ละคนด้วย บางคนเขาตั้งแต่เด็กจนโตเป็นคนที่ balance ชีวิตได้ดีก็มีเหมือนกัน แต่เราตั้งแต่เด็กจนโตเป็นคนที่สุดโต่งมากๆ ถ้าเกิดใครที่แบบรู้จักกันมาตลอด คือเป็นคนทำอะไรทำสุด แบบลองดูก่อน แล้วก็ส่วนใหญ่ก็จะสุดมาพร้อมกับผลของความสุด

สุดท้ายเราก็ได้เรียนรู้อะไรจากมันยังไง ?

ยิปโซ : ใช่ แต่ว่าแม้แต่ตอนนี้ ล่าสุดที่ไปออกกำลังกายมาก็สุดเหมือนกัน คือมันเหมือนหยุดสันดานไม่ได้ แล้วพอทำไปมันก็จะมีผลลัพธ์ของความสุดออกมา ถามว่าเราได้เรียนรู้ไหม เรียนรู้แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องเรียนรู้บ้างว่าไม่ว่าจะในหมวดไหนก็ตามอย่าสุดเกิน ควรจะขยับบ้าง

ตลอดเวลาที่อยู่ในวงการมานาน รู้สึกว่าสังคมหรือ standard ของความคาดหวังที่คนมีให้เรามีผลต่อจิตใจไหม ?

ยิปโซ : โหด พี่ถือว่าดื้อแล้วนะ คือเหมือนกับอารมณ์ว่าถ้าเกิดมันมี standard อะไรบางอย่างที่มันมีอยู่ ไม่ใช่ว่าจะโอเค ทุกอย่างอะไรอย่างงี้ แต่เราเองก็ไม่ได้ถึงขั้นว่าจะไปต่อต้านอะไร คือพี่เชื่อว่ายุคก่อนพวกเรา เรื่อง beauty standard เรื่องที่ว่า คุณเป็นคนในวงการ หรือคุณเป็นคนที่ทำการแสดง ยุคก่อนหน้า ต้องเป็น 1 2 3 4 มันเครียดกว่า พอมาสิ่งที่เราอยู่ รู้สึกว่ามันมีความ rebel อะไรบางอย่างขึ้นมาแล้ว อย่างน้อยก็ในใจเราที่รู้สึกว่าเราไม่ได้จำเป็นจะต้องเป็นแบบนั้นเป๊ะ ๆ มันไม่ต้องภาพพับไว้ มันไม่ต้องหน้าตา pattern นี้ หรืออะไร pattern นี้ เพราะว่าเอาจริง ๆ สมัยก่อนยุคเรา จะเป็นสวยคือแบบฝรั่งลูกครึ่ง แล้วเราโผล่เข้ามาในหน้าที่แป๊ะเลย แล้วโชคดีที่ผนวกกับการที่เกาหลีเพิ่งเข้า เลยทำให้หน้าอย่างเราสามารถเกิดในวงการได้ ณ ตอนนั้น Beauty Standard มันเปลี่ยน แล้วก็โชคดีที่จังหวะนั้น เรามีความที่ทั้งเล่นตามน้ำ รู้ว่าจะไม่เปลี่ยนตัวเองแบบไหน แต่ถามว่ามีผลกระทบไหม มีมาก ๆ ยิ่งโดยเฉพาะตอนที่สมัยก่อนถ้าเกิดเราทำงานเป็นตัวเราเองจริง ๆ ที่เป็นยิบโซ ที่ความเป็นเรา มันไม่ซีเรียสเท่าไหร่ แต่ถ้าเกิดเป็นเรื่องการแสดง เราจะกดดันเว่อร์ ๆ เพราะเป็นคนเครียดเวลาทำงานอยู่แล้ว พื้นนิสัยทำงานอะไรแล้วเครียด

เป็นคนกดดันตัวเองหรือเปล่า ?

ยิปโซ : มากเกินกว่าที่ดูน่ารัก ค่อนข้างเยอะ เหมือนทำอะไรแล้วซีเรียส ถ้าเกิดเราทำไม่ทำเต็มที่จะรู้สึกผิด เพราะพื้นฐานเป็นคนสุดโต่งด้วย อยากทำให้มันดีที่สุด พออันนี้มันมาผนวกรวมกับความกดดันในแง่ของสิ่งที่ไม่ถูกพูดถึงมาก ๆ แต่ว่าแน่นอนเวลาคุณทำงานในวงการ acting หรืออะไรก็ตาม โชคดีโอกาสของเราได้รับบทที่เป็นบทหลัก คุณเป็นนางเอกต่อให้ไม่มีใครมาบอกว่าคุณจะต้องน้ำหนักเท่านี้ หรือคุณจะต้องหน้าตาแบบนี้ หรืออะไรมัน automatic ไปเองว่าเราเองควรจะต้อง fulfill อะไรบางอย่างที่มันเป็น pattern ที่เขาต้องการ

ซึ่งตอนนั้นก็มีผลมากใช่ไหม ?

ยิปโซ : หนัก ถึงขั้นเคยเป็น Eating disorder คือเหมือนคนเรามันเหมือนกับว่ามันจะเป็นทั้ง anorexic มันจะเป็นทั้ง bulimia มันจะเป็นทั้งหลาย ๆ อย่างได้ บางทีมันส่งกัน ตอนนั้นที่เป็นตอนแรก มันเริ่มจาก anorexic ก่อน ตอนนั้นคือถ่ายละครแล้วตั้งใจจะลดน้ำหนัก อายุประมาณ 20 กว่า เล่นละครเรื่องแรก สมัยก่อนเล่นหนังมันจะไม่ได้ fix มากขนาดนั้น แต่ว่าพอเล่นละคร เราอยากจะทำบทนี้ให้มันจริงก็เลยถ้าเกิดวันหนึ่งเป็นคนแบบนี้ มันไม่น่าจะเป็นร่างนี้ ก็พยายามลดน้ำหนัก ในนั้นเขียนไว้ 45 กก. เราแบบสู้ มันเหมือนมันเป็น mission หนึ่งของเราตอนนั้น ก็เลยกลายเป็นว่าลดน้ำหนักไปเยอะมาก ตอนที่ถ่ายละครอยู่ คนที่กองก็เป็นห่วงอยู่นะ เพราะว่าแทบไม่กินอะไรเลย กินน้อยมาก กินแต่ผัก ตอนนั้นก็คือเละ ก็คือกรอบเลย แขนก็คือเล็กแบบเละไปหมด แล้วก็กระดูกขึ้น ลงเกือบ 10 กิโลนะ แต่ว่าเป็น 10 ที่ไม่เฮลตี้ ไม่ได้ทำในวิธีถูกต้อง

แล้วใครเป็นคน confirm ให้ว่าเป็น anorexia ตอนนั้น

ยิปโซ : ไม่มีใคร confirm ตอนนั้นเราไม่รู้ด้วยซ้ำ ผ่านไปแล้วหลายปีถึงจะมารู้ว่าเป็น คือหลาย ๆ คนที่เป็น Eating disorder บางทีไม่ได้รู้ตัว ณ ตอนนั้นทันทีนะคะ ตอนนั้น anorexic อยู่แป๊บนึงแล้วสุดท้ายร่างกายมันไม่ยอม มันเหมือนร่างกายเรามันฉลาด คือมันเหมือนกับเราอดอาหารมาตั้งนาน สุดท้ายเขาจะมีวิธีการตีกลับ พอตีกลับเสร็จปุ๊บ พอเราผ่านช่วงที่เราถ่ายทำไปเสร็จปุ๊บ ตอนนั้นผมเริ่มร่วงอะไรทุกอย่าง ร่างกายประจำเดือนไม่มา เพราะว่าร่างกายจะตายแล้วเพราะมันขาดอาหาร ร่างกายเริ่มโหยมาก ๆ แล้วคราวนี้พอเราติดอยู่กับ mentality ว่ามันเป็นโรคทางความคิดแล้ว ยิ่งผอมยิ่งดี เหมือนต่อให้คนที่กองเดินมาคุยกับเราว่าผอมไปแล้วนะ ผู้กำกับเดินมา ยิบหน้าตา concern มาก ใช้งานไม่ค่อยดี แต่เราจะรู้สึกได้ จากสายตาคนรอบข้างได้ว่าถ้าเกิดมันผอมลงกว่านี้ก็คงดี แต่ว่ามันไม่ถูกพูดออกมา ก็โอเค ฉันรู้ ฉันรับโจทย์นั้นโดยที่ไม่ต้องมีใครพูด แล้วพอทำจนกระทั่งผู้กำกับมาบอกว่า ผอมไปนะ ไม่ว่าใครจะมาพูดอีกก็ตาม ดีค่ะ มันเหมือนชนะ มันรู้สึกชนะ อาการนี้ไม่ใช่อาการเท่นะ อาการของคนป่วย การที่เราคิดว่ายิ่งผอมแล้วยิ่งดี มันสะใจ เหมือนมันถูกต้อง มันชนะ ไม่ใช่อาการของคนที่สภาพจิตปกตินะ แต่ตอนนั้นโรคนี้มันไม่ได้ถูกพูดถึง หรือถูกเข้าใจมาก เพราะว่านี่คืออาการที่ไม่ปกติ คือคนเราไม่ควรจะมาเอาชัยชนะอะไรกับความเล็กลงของร่างกาย ไม่ได้สนใจแล้วว่าตอนนั้นสวยหรือไม่ สนใจแค่ว่าจะเล็กลงอีก ไม่กินแล้วก็ต่อมาพอร่างกายตีกลับแล้วมันบังคับว่ายังไงมันโหย กินเข้าไปเสร็จปุ๊บ รู้สึกผิด เป็นต่อมาคือเป็น bulimia โรคนี้ไม่น่ารัก ดูไม่สะอาด แล้วก็เป็นโรคที่ทำให้เราเกลียดตัวเองมาก ๆ จริง ๆ คือ bulimia คือเวลากินแล้วเราเอาออก เรา force ตัวเอง

ผ่านไปได้ไงกับ bulimia

ยิปโซ : ใช้เวลามาก ๆ แล้วก็พยายามเอาตัวเองออกจากสถานการณ์ที่รู้สึกกดดันตัวเองมากไป เพราะรู้สึกว่าจิตใจตัวเองยังไม่เข้มแข็งพอที่จะแยกแยะได้ ตอนนั้นถึงต้องพักละคร ตอนนั้นคนรอบข้างหรือคนที่ทำงานด้วยก็จะไม่รู้ว่าเราป่วย แต่ถามว่าทุกวันนี้สิ่งที่มันเกิดขึ้นดีไหม มองย้อนกลับไปก็ยังกลับไปคำเดิมนะที่ว่าเราเลือกย้อนกลับไปจะไม่เปลี่ยน เพราะเราเป็นมาหมดแล้วมันทำให้เข้าใจว่าเป็นยังไง เพราะว่าตอนนั้นยังหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้เลยว่าทำยังไงถึงหาย รู้แค่ว่ามันค่อย ๆ คลายขึ้น ค่อย ๆ ดีขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าหายเองโดยที่เราไม่พยายามนะคะ เราก็ต้องพยายามแบบปรับสภาพใจตัวเองด้วย พยายามเลือกที่จะไม่ทำอะไรบางอย่างที่รู้ว่าทำร้ายตัวเอง

จบที่การยอมรับตัวเอง

ยิปโซ : คือการพาตัวเองมายอมรับความจริงอะไรบางอย่าง เพราะพี่มองว่าการที่เรารู้สึกว่าต้องเป็นแบบนี้เป๊ะ ๆ เท่านั้นถึงจะเป็นสิ่งที่ดี ถึงจะเป็นสิ่งที่ถูกยอมรับได้ ถึงจะเป็นสิ่งที่เรียกว่าสวย หรืออะไรก็ตาม อันนั้นไม่ใช่ความจริง มันเครียดนะ พื้นฐานจิตใจทุกคนก็แค่อยากที่จะเป็นในสิ่งที่ดี อยากที่จะเป็นในสิ่งที่ได้รับความรัก ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน

หลังจากเกิดเหตุการณ์กับร่างกายมาเยอะมาก รู้สึกว่าฉันอยากจะดูแลร่างกายตัวเอง เป็นแบบนี้หรือยัง ?

ยิปโซ : ฉันว่ายังไม่ขนาดนั้น (หัวเราะ) สุดท้ายแล้วสิ่งที่ต้องแก้จริงๆมันคือนิสัย เรายังคงต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวอยู่ คำว่าเต็มที่มันไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดเสมอไป

ทราบมาว่าเป็นคนปวดท้องประจำเดือนมากตั้งแต่เด็ก ?

ยิปโซ : แต่ว่าฮอร์โมนกับพี่ เรามีอะไรที่ได้คุยกันมาตั้งแต่เด็กจนโตอยู่แล้ว เหมือนมันมีช่วงที่ดีขึ้นตอนช่วงที่พี่เล่น Pilates zen ร่างกายดีมาก ชิลดีมาก แต่พอนึกสนุกอยาก Hyrox ขึ้นมาแล้วพอใช้ร่างกายหนักไป ทุกวันนี้หลังจากที่จบจาก Hyrox มาะ ร่างกายสรวนหมดทุกอย่าง สิวที่ปกติแล้วไม่มีก็ขึ้นหมด ตอนแรกก็คือเราเคยมีเรื่องซีสต์ในรังไข่ที่เอาออกไปแล้ว ก็หวังว่าจะไม่ได้ขึ้นใหม่ ตอนนั้นเป็นช็อกโกแลตซีสต์ แต่ว่าล่าสุดก็คือรู้สึกได้เลยว่าตัวเองมีซีสต์ ปวดซีสต์แล้วก็ไปตรวจมาใหม่อีกรอบหนึ่ง ขึ้นแล้ว เชื่อว่าเป็นเพราะว่าเอาตัวเองไปสู่ process ภาวะของความเครียดหนักมาก ทั้งทางร่างกายแล้วก็จิตใจ ออกกำลังกายหนักเกินไป กินไม่ดี นอนไม่ดี มันก็คือความเครียดที่ร่างกายรับรู้ในแบบ physical เหมือนกัน เพราะฉะนั้นหลาย ๆ คนที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่คนเครียด ไม่ได้แปลว่าร่างไม่เครียด

ปกติประจำเดือนมาตรงไหม ?

ยิปโซ : โชคดีทุกวันนี้ประจำเดือนยังมาตรงอยู่ ต่อให้เครียดแค่ไหนก็ยังมาตรง แต่ว่ามันออกอาการอื่นไงคะ จะเป็นเรื่องผิว เรื่องอารมณ์ เรื่อง weight มันจะไปทางนั้นมากกว่า สิวขึ้น กินทุกอย่าง กินเยอะ เหมือนร่างกายสั่งว่าเธอต้องกินเดี๋ยวนี้ ทุกวันนี้ก็เลยพยายามจูนกลับมาอยู่ พยายามที่จะใช้ชีวิตแบบฝืนใจตัวเองว่าทุกอย่างที่เราเคยฝึกมาต้องยอมเสียสละนะ ทำยังไงก็ได้ให้ร่างกายกลับเข้าสู่สภาวะที่ไม่ต้องเครียดมากที่สุด ทุกวันนี้ต้องอยู่กับความลุ้นตลอดเวลาว่าร่างกายเราจะโอเคไหม มีซีสต์ขึ้นอีกไหมโดยที่เราไม่ใช้ยาคุม รู้สึกว่าถ้าเราไม่ได้เป็นอะไรมากก็ไม่อยากเอาฮอร์โมนอะไรไปกระตุ้น

สามารถติดตาม "PrimeCast" ได้ที่ช่องทาง Facebook: Alive Dot , Youtube : Alive Dot วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น.

คลิกชมรายการย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=KmK6eVsEsdg

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก INN News

คลัสเตอร์ SIE เสริมแกร่งธุรกิจชุมชนไทย หนุนเศรษฐกิจฐานรากโตยั่งยืน

25 นาทีที่แล้ว

ภรรยา “เอ๋ ไพโรจน์” ร้อง อสส.ถูกกีดกันออกจากบ้าน หลังสามีเสียชีวิต

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ฝากขัง ทิดสฤษดิ์ – สีกาน้ำหวาน ตำรวจคัดค้านประกันตัว

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“จุ๋ย วรัทยา – พุฒ” แฮปปี้เลี้ยงลูกสองคน ลั่นปิดอู่แล้ว

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความบันเทิงอื่น ๆ

“ดีเจมะตูม” ดีใจ “ดิว” หาช่องทางใช้หนี้เพิ่ม ลั่นขายของต้องได้กำไร ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบและคุณภาพ

มาดามเม้าท์

อดีตนางเอกดัง "แหม่ม อลิษา" แจ้งข่าวร้าย! ป่วยมะเร็งปอด หลังแพทย์ตรวจพบก้อนเนื้อขนาด 7 ซม.

มาดามเม้าท์

สวยฉ่ำมากซุปตาร์นางงามอวดชุดว่ายน้ำทะเลสดใส

daradaily

สุดอบอุ่น เจนนี่ ยิว พาลูกๆ น้องยูจิน-น้องจาญ่า ถ่ายภาพครอบครัว ดีต่อใจแฟนคลับ

tvpoolonline.com

สวยดุจงานศิลป์! “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” เสิร์ฟแฟชั่นเซ็ตสุดจึ้ง

tvpoolonline.com

“น้องณดา” สูงยาวเข่าดียิ่งโตยิ่งสวย

daradaily

แฟนๆแห่ส่งกำลังใจ หลัง สาวแพรวฯ MUT กรุงเทพมหานคร 2025 ออกมาโพสต์ข้อความตัดพ้อลงในโซเชียลว่า แผลในใจที่รักษาไม่เคยหาย..?

tvpoolonline.com

🔥 ลุ้นรับบัตรคอนเสิร์ต 2HOUSES SLEEPOVER PARTY จำนวน 10 รางวัล ✨

LINE TODAY

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...