PTT ชูเงินสดแสนล. ดีลพันธมิตรต่อยอด
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 21 สิงหาคม 2568 เวลา 1.05 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - PTT ย้ำจุดยืน "เติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกับสังคมไทย และแข่งขันในระดับโลก" เดินหน้ากลยุทธ์สำคัญใน 5 แกนหลัก ทั้งการเพิ่ม EBITDA ผ่าน Project Synergy และ MissionX พร้อมดันตั้งเป้าเพิ่มกระแสเงินสดกว่า 100,000 ล้านบาท ภายในปีหน้า เสริมฐานะการเงินแข็งแกร่ง ส่วนการหาพันธมิตรปิโตรเคมี-โรงกลั่น คัดเลือกพันธมิตรอยู่ในขั้นตอน short list แล้ว ปีนี้จะชัดเจน ย้ำได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ส่วนเงินปันผลเตรียมชงเข้าบอร์ดภายในไตรมาส3/68นี้
ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า บริษัทยังเดินหน้ากลยุทธ์ “ปตท. แข็งแรงร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน” โดยมีพันธกิจในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ สร้างการเติบโตควบคู่กับการลดก๊าซเรือนกระจก พร้อมดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยมีการดำเนินงานตามกลยุทธ์ที่สำคัญในไตรมาสที่ผ่านมา ดังนี้
สำหรับธุรกิจ Hydrocarbon ที่เป็นธุรกิจหลักที่ ปตท. มีความเชี่ยวชาญ โดยเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ มุ่งเน้นเสริมสร้างความสามารถการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง อาทิ การขยายธุรกิจด้านสำรวจและผลิต โดย บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) ได้ขยายการสำรวจและผลิตในแหล่งใหม่ๆ โดยมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจากทั้งแหล่งอาทิตย์ แหล่งสินภูฮ่อม และแหล่ง MTJDA รวมไปถึงชนะการประมูลในโครงการ Reggane II ขณะเดียวกัน ปตท. ได้ตั้งเป้าหมายมุ่งสู่การเป็น Global LNG Player สร้างการเติบโต ขยาย LNG Portfolio สู่เป้าหมาย 10 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2573 และ 15 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2578 พร้อมลงนามข้อตกลงร่วมศึกษาการจัดหา LNG ระยะยาวกับบริษัท 8 Star Alaska, LLC ประเทศสหรัฐอเมริกา
ด้านธุรกิจNon-Hydrocarbon มีความก้าวหน้าที่ดี เดินตามแผนกลยุทธ์ปรับพอร์ตการลงทุน โดยธุรกิจ Life Science ร่วมกับพันธมิตรที่เชี่ยวชาญ สร้างการเติบโตแบบพึ่งพาตนเอง (Self-funding) ปรับการถือหุ้น Lotus ผ่านธุรกรรมการขายหุ้น เพื่อเพิ่มความคล่องตัว นับเป็นการขายหุ้นไม่เกิน2% ซึ่งจะช่วยให้ Lotus สามารถเติบโตต่อได้ เพราะ Lotus เป็นบริษัทจดทะเบียนที่ใต้หวันด้วย ดังนั้นคงเปลี่ยนจากสถานะบริษัทย่อยมาเป็นบริษัทร่วม รวมทั้งปรับโครงสร้างธุรกิจ EV จำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด โดยเป็นไปตามกลยุทธ์ที่วางไว้
การดำเนินงานด้านความยั่งยืน กลุ่ม ปตท. ยึดหลักการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างสมดุลใน 3 มิติ ได้แก่ 1. เสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน มีการกระจายความเสี่ยง สามารถรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Security) 2. จัดหาแหล่งพลังงานที่สามารถเข้าถึงได้ในราคาที่เหมาะสม ด้วยต้นทุนที่แข่งขันได้ (Affordability / Competitiveness) และ 3. ขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่การลดก๊าซเรือนกระจก (Sustainability) ดำเนินการศึกษา Eastern Thailand CCS Hub แล้วเสร็จ โดยมีการ FID โครงการ CCS ในแหล่งอาทิตย์ พร้อมแสวงหาโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ ด้านธุรกิจไฮโดรเจน ศึกษาโอกาสในการจัดหาแอมโมเนียคาร์บอนต่ำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงร่วมในโรงไฟฟ้า พร้อมลงนามข้อตกลงความร่วมมือศึกษาความเป็นไปได้ทางเทคนิคและเชิงพาณิชย์ในการจัดหาไฮโดรเจนสีเขียวและแอมโมเนียสีเขียวที่ผลิตในประเทศอินเดียสู่ประเทศไทยร่วมกับ Avaada Ventures Private Limited
นับเป็นการ สร้างความแข็งแรงจากภายใน ผ่านโครงการสำคัญที่จะช่วยยกระดับผลการดำเนินงาน เพิ่ม EBITDA Uplift และสร้างความสามารถในการแข่งขันของกลุ่ม ปตท. ในทุกมิติ ประกอบด้วย
- การบริหารความร่วมมือด้าน Supply Chain และ Marketing ของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ผ่านโครงการ D1 และ Project One (P1) เพื่อยกระดับ Synergy ภายในกลุ่ม ปตท. และเตรียมความพร้อมขยายตลาดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยโครงการนี้ มีเป้าหมายที่จะเพิ่ม EBITDA ที่ 5,800 ล้านบาท ภายในปี 2030 ส่วนปีนี้มีเป้าหมายที่ 4,325 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกได้แล้วกว่า 2,383 ล้านบาท
- ทำเรื่อง Operational Excellence (MissionX) ปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ (Lean Process) ควบคู่กับการทำ Change Management และ Best Practice Sharing เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน โครงการดังกล่าว ตั้งเป้าเพิ่ม EBITDA 30,000 ล้านบาท ภายในปี 2027 ส่วนปีนี้ตั้งเป้า 10,000 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกทำได้แล้วกว่า 4,700 ล้านบาท
- ขับเคลื่อน Digital Transformation (Axis) โดยผลักดันให้เกิดการพัฒนา Use Cases สนับสนุนธุรกิจกลุ่ม ปตท. พร้อมทั้งพัฒนา Infrastructure และศักยภาพพนักงาน โดยโครงการนี้ตั้งเป้าเพิ่ม EBITDA ปีนี้ 200 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 60 ล้านบาท 4. Asset Monetization (A1) การบริหารสินทรัพย์เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดของกลุ่ม ปตท. เพิ่ม Asset Optimization & Synergy และปรับโครงสร้างสินทรัพย์ให้เหมาะสม บริษัทฯ เดินหน้าหาโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการบริหารจัดการสินทรัพย์ พร้อมตั้งเป้าเพิ่มกระแสเงินสดให้แตะระดับ 38,000 ล้านบาทภายในปีนี้ และ ขยับสู่เป้าหมาย 77,000 ล้านบาทในปีหน้า รวมเป็นกระแสเงินสดสะสมกว่า 100,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสร้างฐานะทางการเงินให้แข็งแกร่งและเพิ่มสภาพคล่อง
กระแสเงินสดที่เพิ่มขึ้นนี้จะช่วย เพิ่มอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (ROIC) จากระดับเดิมอีก 5–10% ทั้งยังช่วยเสริม ความน่าเชื่อถือในระดับ Investment Grade ให้มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น 5. Financial Excellence (F1) เสริมสร้างความแข็งแกร่งและวินัยทางการเงินเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน และการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีให้แก่นักลงทุน สอดคล้องพันธกิจสร้างความมั่นคงทางพลังงานและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งยังมีการเดินหน้าลดต้นทุนเพิ่มอีกในปีนี้กว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจโดยครึ่งปีแรกทำได้แล้วกว่า3,814 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการครึ่งปีหลัง ภาวะเศรษฐกิจและมาร์จิ้นในธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีคาดว่ายังคงทรงตัว อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษาการเติบโตของ EBITDA ได้จากโครงการต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยภายนอกที่ยังมีความผันผวนอยู่ สำหรับแผนการลงทุนในสหรัฐอเมริกา ของกลุ่มปตท. ก็มีการลงทุนในกลุ่ม LNG ทั้งนี้ ได้มีการทำสัญญาซื้อ LNG ล่วงหน้าไว้แล้ว โดยจะเริ่มมีการนำเข้าภายในปีหน้า ซึ่งนอกจากจะเป็นการกระจายแหล่งพลังงานของไทยแล้ว ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองกับภาครัฐได้อีกทางเพื่อเป็นผลบวกต่อประเทศ
ส่วนผลกระทบภูมิรัฐศาสตร์ – “ไทย–กัมพูชา” ยังไม่น่ากังวลบริษัทระบุว่า ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างไทยและกัมพูชา ยังไม่ใช่ประเด็นที่สร้างความกังวลในระดับสูง แต่ถือเป็นอีกหนึ่งความไม่แน่นอนที่ต้องมีการบริหารจัดการเนช่นเดียวกับความเสี่ยงด้านอื่นๆ
สำหรับความคืบหน้าในด้านธุรกิจดิจิทัล บริษัทเปิดเผยว่า การดำเนินโครงการ Virtual Bank อยู่ในแนวทางที่สอดคล้องกับคาดการณ์ ที่ OR มีการเข้าไปดำเนินการร่วมกับพันธมิตรที่มีความพร้อม ทั้งด้านฐานลูกค้าและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยในอนาคตมีโอกาสที่จะขยายเข้าสู่ระบบนิเวศของ PTT มากยิ่งขึ้น ด้านนโยบายการจ่ายเงินปันผลครึ่งปีแรก บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณา และคาดว่าจะเสนอให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาภายในไตรมาส 3 นี้ โดยยึดหลักการรักษาเสถียรภาพในการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนให้ความสำคัญ ควบคู่กับการสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมภายใต้ความเสี่ยงที่อยู่ในระดับต่ำ
แนวทางการเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมดังกล่าวยังคงเผชิญภาวะกำลังการผลิตล้นตลาด (Overcapacity) จึงจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างความยั่งยืนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว
บริษัทอยู่ระหว่าง การสรรหาพันธมิตรระดับโลก เพื่อเข้ามาร่วมลงทุนในธุรกิจดาวน์สตรีม โดยเฉพาะในกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี ซึ่งขณะนี้มี การคัดเลือกพันธมิตรอยู่ในขั้นตอน short list แล้ว คาดว่าจะชัดเจนปีนี้ และคาดว่าการร่วมทุนจะเริ่มเป็นรูปธรรมได้ในปีหน้า การคัดเลือกพาร์ตเนอร์จะต้องคำนึงถึงการ สร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Creation) ให้กับทั้ง2 ฝ่าย โดย ปตท.จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นหลัก แม้ว่าสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการร่วมทุนจะยังไม่ได้ข้อสรุปแน่ชัด เนื่องจากต้องขึ้นอยู่กับการเจรจาที่ต้องให้ผลประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่ายอย่างสมดุล
นอกจากนี้ กลุ่ม ปตท. ดำเนินการสร้างความแข็งแรงร่วมกับสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนผ่านกิจกรรมและโครงการสำคัญที่ได้ดำเนินการช่วงครึ่งปี 2568 ได้แก่ 1) การผนึกพันธมิตรทางการเงินต่างๆ ลงทุนในตราสารหนี้ที่เชื่อมโยงกับแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล และเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ Young Saver Bond เป็นครั้งแรก เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ 2) กลุ่ม ปตท. ร่วมบรรเทาความเดือดร้อนในทุกวิกฤตของประชาชนและประเทศ อาทิ การเร่งส่งมอบถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็นไปยังศูนย์พักพิงผู้อพยพในสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา และการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยใน จ.แพร่ และ จ.น่าน 3) กลุ่ม ปตท. ให้การสนับสนุนเกษตรกรไทยในสภาวะผลผลิตล้นตลาด ผ่านโครงการชวนคุณสร้างรอยยิ้มให้เกษตรกร และโครงการชุมชนยิ้มได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ปตท. ยังคงสานต่อการเผยแพร่โครงการตามพระบรมราโชบายด้านการพัฒนาแหล่งน้ำทั่วประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านภาพยนตร์สั้นเฉลิมพระเกียรติชุด “สายน้ำแห่งชีวิต” และจัดกิจกรรม “สายธารพระเมตตา เปรมประชาวนารักษ์” เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่เยาวชน ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นชัดถึงการที่กลุ่มปตท. ให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจควบคู่ความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างสมดุลและยั่งยืน
รายงานโดย :ณัฏฐ์ชญา ปุริมปรัชญ์ภัทร บรรณาธิการข่าว Hoonvision