รู้หรือไม่? ร่างกายคุณยังเก็บ “ร่องรอยนิวเคลียร์” จาก 80 ปีก่อน
รู้หรือไม่? การทดลองอาวุธนิวเคลียร์ครั้งแรกเมื่อ 80 ปีก่อน ไม่ได้เพียงสร้างประวัติศาสตร์ด้านการทหาร แต่ยังสร้าง “ร่องรอยใหม่” ที่ฝังลึกอยู่ในร่างกายของเรา ตั้งแต่ฟัน ดวงตา ไปจนถึงสมอง ซึ่งปัจจุบันถูกนำมาใช้ประโยชน์ในวงการวิทยาศาสตร์อย่างกว้างขวาง
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 นักวิทยาศาสตร์ในโครงการแมนฮัตตันได้ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งแรก ภายใต้ชื่อ “Trinity Test” ที่รัฐนิวเม็กซิโก การระเบิดพลังมหาศาลสว่างวาบเหนือทะเลทราย ส่งคลื่นความร้อนรุนแรงไปทั่วบริเวณ และในวันต่อมา เกล็ดสีขาวและฝุ่นละอองกัมมันตรังสีได้แพร่กระจายออกไปไกลกว่า 2,700 ตารางไมล์
ต่อมาในช่วงทศวรรษ 1950 การทดสอบระเบิดนิวเคลียร์เหนือพื้นดินมีจำนวนเพิ่มขึ้น จนถึงขั้นเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเคมีของชั้นบรรยากาศ ทำให้ปริมาณ คาร์บอน-14 สูงขึ้นเกือบสองเท่า จากนั้นจึงซึมเข้าสู่วงจรธรรมชาติ ทั้งในน้ำ ดิน พืชพรรณ และส่งต่อไปถึงมนุษย์ รวมถึงสิ่งมีชีวิตในร่องลึกมหาสมุทร
นักวิทยาศาสตร์เรียกร่องรอยนี้ว่า “Bomb Spike” ซึ่งแตกต่างจากกัมมันตรังสีที่ตกค้างจากการระเบิดโดยตรง เพราะมันไม่ได้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่กลับกลายเป็น “เครื่องมือทรงคุณค่า” ให้แก่วงการวิทยาศาสตร์ในหลายด้าน เช่น
- ใช้ระบุช่วงเวลาที่บุคคลเกิดหรือเสียชีวิต
- ศึกษาอายุของเซลล์ประสาทในสมอง
- ตรวจหาที่มาของสัตว์ป่าที่ถูกลักลอบล่า
- ระบุปีวินเทจของไวน์แดง
- และค้นหาอายุที่แท้จริงของฉลาม
“Bomb Spike” จึงไม่ใช่แค่ร่องรอยจากสงครามเย็น แต่ยังเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของโลกและชีวิตมนุษย์ได้อย่างน่าทึ่ง
อ่านบทความเพิ่มเติม: