‘หมอบี’ ย่องเงียบให้ข้อมูลกองปราบ ปมเงินวัดพระบาทน้ำพุ
“หมอบี”ย่องเงียบให้ข้อมูลกองปราบ ด้าน"รอง ผบก.ป." ชี้ปมฉ้อโกงประชาชน-ฟอกเงิน วัดพระบาทน้ำพุ ลั่น “กอดเงินบุญไว้ อาจเดือดร้อนได้”
วันนี้ (11 ส.ค.) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม ได้เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้มีการประชุมคดีเพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินคดี ซึ่งเป็นการวางกรอบในการดำเนินคดีเคสหมอบี ที่เกี่ยวข้องกับทางวัดพระบาทน้ำพุ ก็จะมีการขยายข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน ส่วนในที่ประชุมมีมติตรงกันว่า เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้ทางวัดมาแจ้งความ ทางเจ้าที่ก็สามารถดำเนินการสืบสวนได้เลย
ซึ่งเรื่องนี้มีความสำคัญต่อพี่น้องประชาชนที่บริจาคเงินให้กับทางวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย ช่วยเหลือผู้ยากไร้ หรือทำกิจกรรมของวัด แต่เงินดังกล่าวของผู้บริจาค มันไม่ไปตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค
อาจเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน
จากการสอบสวนเบื้องต้น ลักษณะความผิดอาจเป็นความผิดในลักษณะอาญาแผ่นดิน ทางกองปราบสามารถที่จะตรวจสอบได้เลยถ้าพบว่า มีการทำผิดกฎหมาย มีโทษดำเนินคดีได้เลย ที่มองไว้ในเบื้องต้น อาจจะเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน
ส่วนพี่น้องประชาชนที่มีการบริจาค ผ่านบัญชีหมอบี หรือบริจาคผ่านทางวัด ทางกองปราบ ก็ได้มีการเรียกสอบปากคำบ้างแล้ว ในส่วนนี้ทางกองปราบจะสืบสวน ในส่วนของหมอบี กับทางวัดพระบาทน้ำพุเท่านั้น ก็ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้แจ้งเบาะแส เกี่ยวกับเรื่องวัดน้ำพุ มันก็จะมีเรื่อง ที่ดินที่มีบุคคลถือครองที่ดินแทนวัด ทางกองปราบ ก็จะตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย
ส่วนที่วัดเปิดรับบริจาคโครงการหนึ่ง แต่ออกใบอนุโมทนาบัตรอีกโครงการหนึ่ง ซึ่งมันไม่ตรงกับโครงการ หากจะสอบไปในทางทุจริตก็เป็นได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องมีการตรวจสอบกันต่อไป คนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ต้องมาชี้แจงกับทางเจ้าที่ ว่าเพราะเหตุใด จึงออกใบมาไม่ตรง ถ้าเข้าข่ายทุจริตก็จะมีความผิดได้ ส่วนทรัพย์สินอื่นที่เป็นของวัด แต่มีชื่อผู้อื่นในการถือครอง ตรงนี้ก็ต้องมีการตรวจสอบ แล้วก็อยากที่จะให้ ผู้ที่ถือครองมาให้ปากคำกับเจ้าที่กองปราบ
ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ตั้งแต่ปี 2562
ส่วนเรื่องของหมอบี ทางเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของหมอบี ตั้งแต่ปี 2562 แล้วก็ตรวจที่มาของทรัพย์สิน หรือมีทรัพย์สิน ที่ให้ผู้อื่นถือครองแทนหรือไม่ ก็ต้องหาที่มาในส่วนนี้ให้ได้ ซึ่งตลอด 6 ปี มูลเหตุหรือมูลคดี มีค่อนข้างมาก ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบให้มีความชัดเจน
ส่วนวันนี้ทางหมอบี ได้มีการนัดเจ้าที่สืบสวน เพื่อที่นำหลักฐาน และข้อมูลมาให้เพิ่มเติม แต่ถ้าตอนนี้ทางหมอบี มีการยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สิน ก็อาจจะเข้าข่ายคดีฟอกเงิน หรือจากการตรวจสอบ พบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีส่วนเกี่ยวข้อง ขออาจมีความผิดในทางละเลยการปฎิบัติหน้าที่ และร่วมกันฟอกเงิน และสมคบการฟอกเงินก็เป็นได้ ส่วนสิ่งที่ให้หมอบี เข้ามาให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ ทางกองปราบ มองว่า อยู่ในสถานะ รับฟังได้ ส่วนทางเจ้าที่จะเชื่อหรือไม่ อยู่ที่การพิสูจน์ทราบ
ส่วนข้ออ้าง ที่หมอบีบอกว่า ทรัพย์สินบางอย่าง ที่ซื้อให้กับทางวัด แต่เป็นชื่อของตัวเองนั้น เป็นข้ออ้างที่เลื่อนลอย เพราะถ้าซื้อให้ทางวัด ทรัพย์สินดังกล่าว ก็ต้องเป็นชื่อวัด มันส่อถึงเจตนาที่ไม่สุจริตได้ ถึงแม้ว่าจะมาเปลี่ยนชื่อตอนนี้ แต่ความผิดมันสำเร็จไปแล้ว
ตนอยากฝากพี่น้องประชาชน ที่ตอนนี้ถือทรัพย์สินแทนหลวงพ่อ หรือวัดพระบาทน้ำพุให้ออกให้ข้อมูลกับกองปราบ ถ้าม่านพิกเฉยหรือนิ่งเฉย ก็อาจจะมีความผิดในฐานฟอกเงิน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่สังคม ทรัพย์สินที่เกิดขึ้น เกิดจากเงินบุญของประชาชน เพราะฉะนั้นเงินที่เค้าบริจาคมา ต้องไปในทางที่ถูกต้อง เงินบุญ ถือว่าแรง ถ้า ใครยังกอดเงินบุญไว้อยู่ ก็อาจจะเดือดร้อนได้
หมอบี ย่องเงียบ เข้าให้ข้อมูลกองปราบ ฯ
ต่อมา เมื่อเวลา 16.00 น. นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือหมอบี ทูตสื่อวิญญาณ พร้อมด้วยแฟนสาว และทนายความ ได้เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งหมอบีไม่ได้ตอบคำถามสื่อใดๆทั้งสิ้น มีแต่เพียงทนายความ ตอบผู้สื่อข่าวสั้นๆ ก่อนขึ้นลิฟต์ว่า เดี๋ยววันนี้ได้เอาเอกสารบางอย่าง มาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติมเท่านั้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ ไขปริศนามนต์ดำ บูชายัญ มีจริง? เพชรจ้า เชื่อลูกเป็นกุมารมาเกิด
- เดี่ยว 13 งานเข้าอีก! หมอบี แจง โน้ส อุดม พูดไม่หมด ยันแนะนำทุกอย่าง แต่..?
- เปิดโปง 'กัมพูชา'โกงเงินนานาชาติ! รับเงินอ้างมาทำลายทุ่นระเบิด แต่แอบใช้กับไทย
ติดตามเราได้ที่