"สมศักดิ์"รมว.สธ. ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกลุ่มเปราะบางอรัญประเทศ
(7ส.ค.68) เวลา 14.00 น.วันที่ 7 ส.ค.68 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะฯ เดินทางมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบความช่วยเหลือให้กับกลุ่มเปราะบาง ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมี นางพัชรี ศาลาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว , นายแพทย์ธราพงษ์ กัปโก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว , ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชนจำนวนมากให้การต้อนรับ
ซึ่งการมาตรวจเยี่ยมครั้งนี้เพื่อรับทราบการปฏิบัติงานปัญหาอุปสรรคในการทำงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตามแนวชายแดน พร้อมทั้งเยี่ยมให้กำลังใจและมอบความช่วยเหลือให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่และกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ให้มีกำลังใจต่อไป
จากนั้นเวลา 15.00 น.คณะ รมว.สธ.ได้เดินทางเข้าพื้นที่ตรวจเยี่ยมและประเมินสถานการณ์ชายแดน ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก เพื่อประเมินสถานการณ์ชายแดนในปัจจุบัน โดยมี พ.ต.อ.ภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จ.สระแก้ว , พ.อ.เมธี คำเต็ม ผบ.ชค.กรม.ทพ.12 และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.68 จนถึงปัจจุบันให้รับทราบอย่างละเอียด โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องย้ำว่าจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก มีแรงงานกัมพูชาเดินทางออกนอกประเทศเฉลี่ยวันละประมาณ 200 - 300 คน ส่วนคนไทยก็มีเดินทางเข้ามาในจำนวนใกล้เคียงกันจึงทำให้จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึกไม่น่ากังวลมากนัก
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้วในครั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขให้กับประชาชนในพื้นที่ชายแดน ที่สำคัญเป็นข่าวดีอย่างยิ่ง สำหรับการประชุม GBC ทราบจาก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ว่ามีข้อตกลงกันใน 13 ข้อ ประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องคาดว่าจะเป็นเรื่องการจัดการกับศพทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตอยู่บริเวณแนวชายแดน ซึ่งมีความคิดเห็นที่สอดคล้องกัน ที่ทั้งสองฝ่ายจะบูรณาการจัดการศพทหารบริเวณแนวชายแดน อย่างสมเกียรติและเพื่อสุขลักษณะที่ดีต่อทหารที่อยู่ในพื้นที่
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังให้ความมั่นใจกับจังหวัดสระแก้วและจังหวัดที่มีพื้นที่อยู่ติดกับแนวชายแดนไทยกัมพูชาโซนภาคตะวันออก คือ ตราด จันทบุรี และสระแก้ว แม้จะไม่ได้อยู่ในพื้นที่แนวปะทะแต่กระทรวงสาธารณสุขโดยรัฐบาล มีความพร้อมที่จะสนับสนุนในทุกด้าน ได้มีการตั้งงบประมาณเพื่อ ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
"โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ทำการเบิกจ่ายซึ่งจะแยกย่อยไปตามแต่ละกระทรวงลดหลั่นกันไปแต่สำหรับกระทรวงสาธารณสุขนั้นก็จะนำมาใช้เพื่อ ดูแลกลุ่มเปราะบางกรณีที่ต้องอยู่ศูนย์อพยพหรือการออกจากศูนย์อพยพแล้วต้องรักษาตัวต่อทางด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตต่อไป" นายสมศักดิ์ กล่าว
ข่าวเวิร์คพอยท์23