บุกจับผับเถื่อนรังสิต ผับเถื่อนกลางดึก นักเที่ยว 380 คน ฉี่ม่วง 173 ราย
เมื่อเวลา 01.00น.วันที่ 8 ส.ค.นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครองนายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผอ.สำนักการสอบสวนและนิติการ ว่าที่ร้อยตรี ธีระพล โชคนำชัย นายอำเภอธัญบุรี พ.ต.อ.ปริญญา ทองมา ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเข้าทำการปิดล้อมตรวจค้น SKIN PUB RANGSIT ซอยรังสิต-นครนายก 21 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงพบด้านในมีการเปิดเพลงโดยมีนักท่องเที่ยวชายหญิงประมาณ380คน ระหว่างเต้นกินรำกินกันอย่างเมามัน เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้นักดนตรีหยุดเล่นและเปิดไฟ เพื่อทำการตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมาย รวมทั้งตรวจหายาเสพติด ทำการตรวจปัสสาวะนักท่องเที่ยว พนักงานร้านและการ์ดของทางร้านทั้งหมด โดยเบื้องต้นพบยาเสพติดหลายชนิดร่วงอยู่ที่พื้นเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและมีการใช้ชุดตรวจตรวจสอบเบื้องต้น จากการตรวจปัสสาวะเบื้องต้นพบผู้ที่มาเที่ยวมีปัสสาวะม่วงชายหญิงรวม173คนทั้งหมดจะถูกส่งตัวไปดำเนินคดี/บำบัดรักษาตามกระบวนการของกฎหมายต่อ
นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ ร่วมกับทางฝ่ายปกครองจังหวัดปทุมธานี ฝ่ายปกครองอำเภอและตำรวจสภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบค้น Skin Pub ตามที่ได้รับร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมของกระทรวงมหาดไทยว่าที่ร้านแห่งนี้มีการเสพยาเสพติดกันภายในร้าน และเป็นผับที่ไม่ได้รับอนุญาติตามกฏหมายหรือผับเถื่อน พนักงานฝ่ายปกครองจึงได้จับกุมผู้จัดการร้าน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาใน 4 ฐานความผิด ได้แก่ 1.ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.จำหน่ายสุราเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด 3. จำหน่ายสุราให้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี 4.ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่เหมาะสม นอกจากนี้การปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในร้านเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. จึงเสนอให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจตามคำสั่ง สั่งปิดสถานบริการแห่งนี้เป็นเวลา 5 ปี
สำหรับการดำเนินการในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีนายภูมิธรรม เวชยชัย. รองนายกรัฐมนตรีไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ได้มอบไว้ให้กับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง ได้สั่งการให้ออกดำเนินการโดยด่วนเพื่อสนองนโยบายของนายภูมิธรรม เวชยชัย.