นมล้นตลาดไม่ใช่ปัญหา! สพฐ.ช่วยเหลือเกษตรกร เสิร์ฟนมจาก 200 วัน สู่ 365 วัน อิ่มสุขเด็กไทย
เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ที่ประชุมได้เน้นย้ำไปยังสถานศึกษาตามข้อห่วงใยของศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ ถึงสถานการณ์พายุ ‘คาจิกิ’ ที่มีจังหวัดแถบภาคเหนือและอีสานจะได้รับผลกระทบ ซึ่งขณะนี้ สพฐ.ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับเขตพื้นที่และโรงเรียนในพื้นที่ดังกล่าวให้เตรียมความพร้อมรับมือพายุลูกนี้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นการขนย้ายสิ่งของจำเป็นขึ้นที่สูง ตรวจระบบไฟฟ้าภายในอาคารเรียน อีกทั้งให้ประสานหน่วยงานป้องกันภัยในพื้นที่ด้วย ทั้งนี้หากผลจากเหตุพายุคาจิกิทำให้ถนนขาดและโรงเรียนถูกน้ำท่วมจนได้รับความเสียหายให้โรงเรียนแจ้งประกาศหยุดการเรียนการสอนได้ทันที เนื่องจากจะต้องยึดความปลอดภัยของนักเรียนเป็นสำคัญ
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้หารือถึงการแก้ไขปัญหาเรื่องทุพโภชนาการของเด็กในวัยเรียน เนื่องจากพบว่าปัญหาเรื่องดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น สพฐ.จึงทำหนังสือขอขยายไปถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ว่าจะมีการอุดหนุนนมของกลุ่มสหกรณ์โคนม เพราะเกิดภาวะนมล้นตลาด โดยจะมีการขยายการดื่มนมโรงเรียนจาก 200 วัน เป็น 365 วัน โดยจากนี้ไปเด็กนักเรียนจะต้องดื่มนมทุกวัน ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมสุขภาพและโภชนาการที่ดีให้แก่เด็กนักเรียนทั่วประเทศ และในนมยังมีแคลเซียมสูง ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันของเด็กให้เจริญเติบโตอย่างสมวัย และลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุนในอนาคต ทั้งนี้งบประมาณที่ใช้ในการขยายจำนวนวันการดื่มโรงเรียนนั้น ประมาณ 12,000 ล้านบาท ซึ่งหากกระทรวงเกษตรฯ อนุมัติตามที่ สพฐ.ขอไป ก็จะเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอใช้งบประมาณกลางดำเนินการต่อไป