‘นารายา’ พ้นวิกฤตหนักสู่โอกาสใหญ่มีจริง l 16 ส.ค. 68 FULL l BTimes Weekend
BTimes
อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • อัพเดตข่าวหุ้น ธุรกิจ การเงิน การลงทุน การตลาด การค้า สุขภาพ กับ บัญชา ชุมชัยเวทย์ - BTimes.Biz‘NaRaYa’ กระเป๋าผ้าสัญชาติไทยขวัญใจต่างชาติ แบรนด์ไทยดีเอ็นเอนักสู้ที่ฝ่าทุกมหาวิกฤตให้เป็นโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืน
เชื่อว่าถ้าไปถามนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะจีนว่ามาเมืองไทยจะนึกถึงของฝากแบรนด์ไหน ส่วนใหญ่ต้องยกให้ ‘NaRaYa’ กระเป๋าผ้าสัญชาติไทยอายุกว่า 3 ทศวรรษ ที่ฝ่าฟันทุกวิกฤตด้วยดีเอ็นเอนักสู้ของผู้ไม่เคยยอมแพ้ ปรับตัวทันทุกเทรนด์จนสามารถก้าวข้ามเส้นชัยแห่งความสำเร็จ
ก่อนจะมาเป็นแบรนด์กระเป๋าผ้า รู้ไหมว่า ‘บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด เจ้าของแบรนด์ NaRaYa’ เคยจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ส่งออกมาก่อน คุณวาสนา รุ่งแสนทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด เล่าให้ฟังว่าเดิมทีบริษัทเริ่มต้นจากการจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ส่งออก จนเจอกับภาวะเรดโอเชียนจากการมีคู่แข่งที่กระโจนเข้ามาเล่นในตลาดเยอะชนิดที่ว่าซัพพลายล้นเกินดีมานต์ ส่งผลให้ต้องเริ่มมองหาทางรอด กระทั่งวันหนึ่งมีโอกาสไปเที่ยวงานแฟร์กับสามีและเพื่อนที่เยอรมัน แล้วพบว่าสินค้าที่ขายดีประจำแฟร์นั้นคือกระเป๋า กอปรกับเพื่อนสมทบว่าที่ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตกระเป๋าชั้นดี จึงขอให้คุณวาสนาและสามีเป็นตัวกลางพาไปเจรจากับโรงงานผลิตจากประเทศไทยในเยอรมนี ท้ายที่สุดก็ทำการค้าร่วมกันร่วม 2 ปี แต่ระหว่างทางก็เจอสารพัดปัญหา จนตัดสินใจบอกลา แล้วเดินหน้าผลิตเอง ซึ่งก็เหมือนกับฟ้าเป็นใจ เพราะในขณะนั้นพี่สาวและน้องสะใภ้ได้ไปร่ำเรียนวิชาการตัดเย็บเสื้อผ้า เลยชักชวนกันมาลงขันทำกิจการ เริ่มต้นเล็กๆ จากการมีเครื่องจักรสำหรับผลิตเพียง 15 ตัว ตัดเย็บกระเป๋าส่งให้กับเพื่อนสามี คู่ไปกับร้านของตนเองเป็นหลัก ปรากฏว่าขายดีจนเกิดการก็อบปี้แบบสะบั้นหั่นแหลก ส่งผลให้ต้องเดินหน้าจดทะเบียนการค้าและลิขสิทธิ์ลายผ้าอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดที่เกิดขึ้น
(ขอบคุณรูปภาพจาก NaRaYa)
ธุรกิจดำเนินมาด้วยดี จนต้องเพิ่มกำลังการผลิตออกเป็น 2 ส่วน คือ
1. สร้างงานอาชีพให้ชุมชนท้องถิ่น ผ่านการเปิดโอกาสให้ชาวบ้านร่วมผลิตไปกับ ‘NaRaYa’ ซึ่งก่อนเกิดโควิด–19 มีครอบครัวในชุมชนท้องถิ่นร่วมผลิตสินค้ามากถึงกว่า 3,000 ครอบครัว
และ 2. คือผลิตจากโรงงานของ ‘NaRaYa’
แต่ภายหลังจากที่เกิดโรคระบาดโควิด–19 ‘NaRaYa’ แก้เกมด้วยการจัดฝึกอบรมให้กับคนชุมชนเรียนรู้การเป็นผู้ประกอบการ เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการตัดเย็บ และการขนส่งสินค้ากลับมาให้แบรนด์นำไปจำหน่ายต่อไป
(ขอบคุณรูปภาพจาก NaRaYa)
หลังจากลูกเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารมาสักระยะ ความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ก็เกิดขึ้น ‘NaRaYa’ เริ่มเข้ามามีบทบาทในโลกออนไลน์ สร้างยอดขายควบคู่ไปกับหน้าร้าน 37 สาขา ก่อนจะเจอกับมรสุมโควิด–19 ที่ทำให้คุณวาสนาต้องพับแผนการเกษียณออกไปอย่างไม่มีกำหนด พร้อมกระโจนเข้ามาวางแผนหาทางรอดร่วมกัน จำใจปิดตัวถึง 22 สาขา เพื่อประคองให้บริษัทไปต่อได้บนสภาวะความไม่แน่นอน กระทั่งแสงสว่างก็เข้ามาจากการเห็นข่าวๆ นึงในโทรทัศน์ จนเกิดไอเดียนำหน้ากากอนามัยแบบผ้าที่ผลิตเพื่อแจกจ่ายให้พนักงานใช้ มาแบ่งขายในราคาเบาๆ ที่ 50 บาท ปรากฎว่าผลตอบรับในวันแรกที่จำหน่ายดีเกินคาด สินค้าหมดก่อนเวลาขายจริง จนต้องเปิดพรีออร์เดอร์เพิ่มเติมต่อทันที
ล่าสุด ‘NaRaYa’ สร้างความฮือฮาครั้งใหญ่ด้วยการเปิดตัว ‘NaRaYa x Butterbear’ คอลเลกชันพิเศษที่นำคาแรคเตอร์น้องหมีเนยมาออกแบบเป็นของใช้สุดคิวท์ กวาดฐานมัมหมีทุกวัยไปได้อย่างถล่มทลาย
“ให้กำลังใจค่ะ ทุกคนก็บอกว่าสิ่งที่เราควรจะมีทั้งธุรกิจนะ อันดับแรกเลยนะ ต้องให้กำลังใจตัวเองก่อน ให้กำลังใจตัวเองเพื่อที่จะมีแรงสู้ไง เวลามันเครียดเนอะ มันมองหน้ามองหลัง มองไม่ออกอ่ะ เราต้องให้กำลังใจเราเองก่อนให้แข็งแรง แล้วค่อยๆ ดูปัญหา ดูอย่างมีสตินะคะ แล้วก็ถ้าใครทำสินค้าอยู่แล้วก็ทำสินค้าตัวเองให้ดี ทำให้ดี ดีแล้วก็ยังไงอ่ะ มันก็ต้องมีขายได้อ่ะ คือยังไงลูกค้าก็ต้องกลับมาหาเราแค่นั้นเอง แต่ว่าอันดับแรกตอนนี้พี่ว่าสำหรับนักธุรกิจนะ กำลังใจนี่สำคัญมากๆ เลย ไม่ต้องไปหาจากคนอื่นนะ ตัวเองให้ตัวเองก่อน เพื่อที่จะมีสติไปสู้กับข้างนอก สู้กับสถานการณ์ปัจจุบัน”
กำลังใจและสติคือสิ่งสำคัญที่ทำให้มีแรงในการต่อสู้ในทุกสถานการณ์ พร้อมเดินหน้าลุยหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อเข้ามาเติมเต็มให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน