ผู้บริหาร ศอ.บต. ลงพื้นที่บ้านบลูกาลูวัส อ.ยะหา เดินหน้า “120 วัน วาระพืชกระท่อม”
นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ลงพื้นที่บ้านบลูกาลูวัส อำเภอยะหา จังหวัดยะลา เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย "120 วัน วาระพืชกระท่อม" ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. การลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ แต่ยังเป็นการรับฟังปัญหาและความต้องการจากผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่โดยตรง ทั้งผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเครือข่ายชุมชน รวมถึง กลุ่มผู้ป่วย เพื่อให้การแก้ปัญหามีประสิทธิภาพและตรงจุดอย่างแท้จริง
นายธีรวิทย์ กล่าวว่า การหารือในครั้งนี้เป็นมากกว่าการนำนโยบายไปปฏิบัติ แต่ยังเป็นการรับฟังปัญหาจากผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง เพื่อให้สามารถออกแบบแนวทางการบำบัดฟื้นฟูที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาแบบองค์รวม และขอชื่นชมผู้นำชุมชนที่แสดงความเป็นผู้นำด้วยการเป็นตัวอย่างที่ดี โดยการเลิกสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาด และยังทำหน้าที่ดูแลลูกบ้านประดุจครอบครัวของตนเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายกย่องอย่างยิ่ง
ด้านนายมะดารี อาแด ผู้ใหญ่บ้าน ได้กล่าวถึงสถานการณ์ในพื้นที่อย่างตรงไปตรงมาว่า แม้ในช่วงที่กระท่อมและกัญชาถูกกฎหมาย ทางชุมชนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะมีความเชื่อว่าพืชเหล่านี้คือสารตั้งต้นของยาเสพติด จึงมีการติดตามและพูดคุยกับเยาวชนมาโดยตลอด เมื่อพบว่ามีการใช้ยาเสพติด จะมีการพูดคุยและนำไปบำบัดที่ศูนย์บำบัด และเมื่อกลับมาสู่ชุมชน ก็จะหาอาชีพให้ทำ เช่น การเข้ามาทำงานในศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อไม่ให้กลับไปเสพซ้ำอีก
ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนในฐานะผู้นำหมู่บ้าน เป็นแบบอย่างด้วยการ เลิกสูบบุหรี่ เพื่อให้ลูกบ้านเห็นว่า ผู้นำต้องทำก่อน และยังดูแลผู้ป่วยจิตเวชในชุมชนอย่างใกล้ชิด
ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกาตอง ได้กล่าวเสริมถึงบทบาทของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขว่า ปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง แม้บางครั้งเจ้าหน้าที่อาจดูแลได้ไม่ทั่วถึง เนื่องจากมีผู้ป่วยจำนวนมาก แต่ก็ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากผู้ใหญ่บ้านและอาสาสมัคร ที่เข้ามาช่วยติดตามอาการและดูแลการรับประทานยาของผู้ป่วย
การรับฟังเสียงจากชุมชนในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า “หัวใจของการแก้ปัญหา” อยู่ที่การประสานพลังระหว่างนโยบายและความร่วมมือของคนในพื้นที่อย่างแท้จริง