กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว เปิดข้อมูล ไทยเจอศูนย์กลางสั่นไหวอีกครั้ง เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ควรเฝ้าระวัง
วันที่ 16 สิงหาคม 2568 กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหวประเทศไทย ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าจับตามองเกี่ยวกับสถานการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในและรอบพื้นที่ประเทศไทย โดยระบุว่า เกิดแรงสั่นสะเทือนใกล้ชายแดนไทยต่อเนื่องหลายจุดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และที่น่ากังวลคือเช้าวันนี้ ตรวจพบแผ่นดินไหวในพื้นที่ประเทศไทยอีกครั้ง ซึ่งเป็นบริเวณภาคเหนือที่ไม่ค่อยพบการสั่นไหวบ่อยนัก
โดย เมื่อ 06:03:01 น. ตรวจพบแรงสั่นสะเทือนขนาด 2.7 แมกนิจูด ลึกลงไปใต้พื้นดิน 10 กิโลเมตร ศูนย์กลางอยู่ที่ตำบลแสนตอ อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนภัยที่ควรเฝ้าระวัง แม้จะมีขนาดไม่รุนแรง แต่เป็นจุดที่ไม่เคยมีการบันทึกแผ่นดินไหวบ่อยครั้งในอดีต
นอกจากเหตุในประเทศไทยแล้ว ยังพบแรงสั่นสะเทือนเกิดขึ้นหลายครั้ง ในเขตประเทศเมียนมา ใกล้จังหวัดแม่ฮ่องสอน
15 สิงหาคม 2568 เวลา 13:46:44 น. ขนาด 2.1 แมกนิจูด ลึก 10 กิโลเมตร ศูนย์กลางอยู่ในประเทศเมียนมา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 134 กม.
15 สิงหาคม 2568 เวลา 00:22:22 น. ขนาด 1.6 แมกนิจูด ลึก 10 กิโลเมตร ศูนย์กลางเมียนมา ใกล้อ.ปางมะผ้า ประมาณ 53 กม.
14 สิงหาคม 2568 เวลา 05:27:13 น. ขนาด 2.4 แมกนิจูด ลึก 10 กิโลเมตร ศูนย์กลางเมียนมา ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 46 กม.
14 สิงหาคม 2568 เวลา 05:26:53 น. ขนาด 2.1 แมกนิจูด ลึก 10 กิโลเมตร ใกล้ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 51 กม.
14 สิงหาคม 2568 เวลา 04:06:16 น. ขนาด 2.7 แมกนิจูด ลึก 10 กิโลเมตร ใกล้อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 144 กม.
14 สิงหาคม 2568 เวลา 03:11:34 น. ขนาด 1.8 แมกนิจูด ลึก 10 กิโลเมตร ศูนย์กลางอยู่ที่ ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 00.00 - 08.00 น. ของวันที่ 14 สิงหาคม 2568 มีเหตุแผ่นดินไหวขนาดรุนแรงระดับ 5.7 แมกนิจูด เกิดขึ้นในต่างประเทศ ซึ่ง เข้าสู่ระดับรหัสแดง ตามระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวระดับสากล ถือเป็นช่วงเวลาที่ควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
แม้ว่าแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นในพื้นที่ประเทศไทยจะยังอยู่ในระดับเบา แต่การเกิดถี่ในหลายจุด และกระจุกตัวในภาคเหนือ พื้นที่ใกล้แนวรอยเลื่อนหลัก ถือเป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม ทั้งนี้ กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหวยังเน้นย้ำให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง และหากมีเหตุฉุกเฉิน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด