OpenAI เปิดตัว GPT-5 ฉลาดเทียบเท่าป.เอก ใช้งานฟรี!
โอเพ่นเอไอ (OpenAI) อัปเกรดครั้งสำคัญ ChatGPT จาก GPT-4o สู่ GPT-5 ยกเป็นก้าวสำคัญบนเส้นทางสู่ AGI หรือปัญญาประดิษฐ์ทั่วไปที่เก่งทุกด้านเทียบเท่ามนุษย์ "แซม อัลต์แมน" ยกเป็นครั้งแรกที่คิดว่าโมเดลหลักของ ChatGPT ให้ความรู้สึกเหมือนการถามผู้เชี่ยวชาญตัวจริงระดับปริญญาเอกได้ทุกเรื่อง มั่นใจยุคนี้ทุกคนสามารถทำอะไรได้มากกว่าใครๆ ในประวัติศาสตร์ ใจดีเปิดฟรีให้ชาวเน็ตใช้งาน พร้อมดันมนุษย์ทำงานที่ไม่เคยจินตนาการมาก่อน ให้เกิดขึ้นจริงได้ด้วย GPT-5
แซม อัลต์แมน (Sam Altman) กล่าวถึงคุณสมบัติหลักของ GPT-5 เรื่องความฉลาดขึ้นอย่างมาก โดยเปรียบเทียบ GPT-5 ว่าเหมือนกับผู้เชี่ยวชาญระดับปริญญาเอก ในขณะที่ GPT-4 ให้ความรู้สึกเหมือนนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ฉลาด และ GPT-3 เหมือนนักเรียนมัธยมปลาย ซึ่ง GPT-5 ทำผลงานได้ดีเยี่ยมในเกณฑ์มาตรฐานทางวิชาการหลักหลายด้านที่ใช้วัดความสามารถด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการเขียนโค้ด
"GPT-5 ถือเป็นก้าวสำคัญที่นำเราเข้าใกล้ความเป็น AGI มากขึ้น ด้วยความสามารถในการให้เหตุผลและการประมวลผลที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน จนสามารถทำงานหลากหลายประเภทได้ในระดับที่ใกล้เคียงมนุษย์ อย่างไรก็ตาม คำว่า AGI ยังเป็นแนวคิดที่ยังไม่ชัดเจน และมีความหมายแตกต่างกันไปในแต่ละมุมมอง แม้ว่า GPT-5 จะสามารถตอบโจทย์บางเกณฑ์เบื้องต้นของ AGI ได้ แต่ก็ยังไม่ถึงระดับที่สามารถเรียกว่าเป็น AGI ที่มีศักยภาพเทียบเท่ามนุษย์ได้อย่างเต็มตัว"
AGI (Artificial General Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป หมายถึงระบบ AI ที่มีความสามารถในการเรียนรู้ วิเคราะห์ และแก้ปัญหาได้ในระดับที่เทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับมนุษย์ในทุกด้าน โดยไม่จำกัดเฉพาะงานหรือความเชี่ยวชาญใด ๆ ต่างจาก AI แบบเฉพาะ เช่น การรู้จำภาพหรือแปลภาษา เพราะ AGI สามารถเข้าใจบริบท คิดอย่างยืดหยุ่น ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ และทำงานที่หลากหลายได้อย่างอิสระ
งานเหล่านั้นจะผสมรวมการวางแผน การใช้เหตุผล หรือการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ดังนั้น AGI จึงเป็นเป้าหมายสูงสุดของการพัฒนา AI ในหลายแบรนด์ ที่คาดว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเทคโนโลยีและสังคม แม้ว่าปัจจุบันเรายังอยู่ในขั้นเริ่มต้นของการพัฒนา AGI และยังไม่มีระบบที่สมบูรณ์แบบในระดับนี้เกิดขึ้น
แม้ GPT-5 จะยังไม่ใช่ AGI แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ในการทำให้โมเดลระดับแนวหน้าเข้าถึงได้ในวงกว้างทั่วโลก
***หลอนน้อยลง ประหยัดได้มากขึ้น
GPT-5 นั้นถูกปรับใหม่จนมีอัตราการสร้างข้อมูลหลอน (hallucination) ต่ำกว่า 0.3% ซึ่งดีกว่ารุ่นเรือธงก่อนหน้ามาก ขณะเดียวกันก็มีความแม่นยำทางข้อเท็จจริงสูงขึ้นและเชื่อถือได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ลืมแนบไฟล์ตามที่ร้องขอ โมเดลจะมีแนวโน้มที่จะขอไฟล์แทนที่จะสร้างคำตอบขึ้นมาเอง
GPT-5 ยังปรับปรุงความเข้าใจในหลากหลายภาษา โดยเฉพาะภาษาอินเดียมากกว่า 12 ภาษารวมถึงภาษาท้องถิ่น เป็นตัวตึงในเกณฑ์มาตรฐานมัลติโมดอล (MMU) ซึ่งครอบคลุมการใช้เหตุผลเชิงภาพ วิดีโอ เชิงพื้นที่ และทางวิทยาศาสตร์ สามารถทำงานได้เร็วขึ้น "คิด" ได้เร็วขึ้นมาก จึงรู้สึกว่าตอบสนองได้ทันที
GPT-5 ได้รับการันตีว่ามีประโยชน์มากขึ้น โดยเฉพาะการเขียนโค้ดเพราะ GPT-5 เป็นโมเดลการเขียนโค้ดที่ดีที่สุดของ OpenAI จนถึงปัจจุบัน GPT-5 สามารถเขียนซอฟต์แวร์ได้ทันที และแนวคิดซอฟต์แวร์ตามสั่ง (software on demand)" จะเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่กำหนดยุคของ GPT-5
GPT-5 สามารถสร้างโค้ดคุณภาพสูง ทั้งส่วนใช้งานหลังบ้านและส่วนหน้าบ้านของระบบ รวมถึงการออกแบบ UI ที่ดี โดยนักพัฒนาสามารถเลือกได้ว่าจะให้โมเดลใช้เวลา "คิด" มากน้อยเพียงใด เพื่อให้มีความยืดหยุ่นในเรื่องของต้นทุนและความหน่วง
จากการสาธิต พบว่า GPT-5 สามารถสร้างเว็บแอปเพื่อสอนภาษาฝรั่งเศสได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงสร้างเกม "งู" ที่ดัดแปลงพร้อมเสียงสอนภาษาในแอปพลิเคชันเดียวกัน ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า GPT-5 มีความสามารถในการเป็นเอเจนต์ผู้ช่วยที่ดีขึ้นสำหรับการทำงานที่ใช้เวลานานขึ้นและต้องใช้เครื่องมือหลายอย่าง
***ฟรีและดี
ทีมพัฒนาย้ำว่า GPT-5 สามารถพัฒนาการเขียนให้มีรสนิยมในการเขียนที่ดีกว่าโมเดลก่อนหน้ามาก ขณะเดียวกัน การสอบถามด้านสุขภาพก็ยังให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง และทำคะแนนได้ดีขึ้นบน Healthbench ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับการประเมินโมเดลในสถานการณ์ด้านสุขภาพที่สมจริง
ทั้งหมดนี้ GPT-5 จะเปิดให้ทุกคนเข้าถึงได้ เรียกว่าพร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ ChatGPT ฟรี ซึ่งการตัดสินใจนี้มาจากภารกิจของ OpenAI ในการทำให้ AI และ AGI เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติทุกคน
สำหรับการใช้งานที่ไม่ฟรี บริษัทแม่ ChatGPT มั่นใจว่า GPT-5 จะรองรับการคิดค่าบริการแพคเกจใช้งานที่ง่ายขึ้น สำหรับผู้ใช้แบบชำระเงิน จะไม่ต้องเลือกโมเดลที่ซับซ้อน (4o, 3, 4.5, 4.1) แต่สามารถรวมไว้ที่ GPT-5 ซึ่งโมเดลจะตัดสินใจเองว่าจะ "คิดต่อ" หรือตอบกลับทันที โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องเลือกโมเดลที่แตกต่างกัน
OpenAI ย้ำว่าผู้ใช้ Pro จะยังคงสามารถเข้าถึงโมเดลเดิมทั้งหมด และมี GPT-5 Pro เวอร์ชันที่ทรงพลังเป็นพิเศษ เครื่องมือที่มีอยู่ เช่น การสร้างภาพ การค้นหา การอัปโหลดไฟล์ การวิเคราะห์ข้อมูล Canvas และ Custom Instructions จะทำงานได้ดีขึ้นด้วย GPT-5
ในด้านความปลอดภัย OpenAI ชี้ว่า GPT-5 ลดการหลอกลวงลง เพราะมีอัตราการหลอกลวงผู้ใช้ที่ต่ำกว่ามาก (เช่น การอ้างว่าทำงานเสร็จแล้วทั้งที่ยังไม่เสร็จ ขณะเดียวกันก็มีการป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด แนวทางที่เรียกว่า Safe Completions ซึ่งโมเดลจะให้คำตอบบางส่วนในกรณีที่มีความคลุมเครือ (dual-use) โดยให้รายละเอียดในระดับสูงที่ไม่สามารถนำไปใช้ก่ออันตรายได้
ที่ผ่านมา GPT-5 มีการทดสอบอย่างละเอียด มีการทดสอบอย่างกว้างขวาง รวมถึงการทดสอบสำหรับกรอบการเตรียมพร้อม (preparedness framework) โดยเฉพาะในด้านชีววิทยา และมีการร่วมงานมากกว่า 5,000 ชั่วโมงกับองค์กรภายนอก
***ไม่ตกงาน แต่เพิ่มความต้องการซอฟต์แวร์
Sam Altman เชื่อว่า GPT-5 จะเป็นตัวเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจและโอกาสอย่างมหาศาล และจะไม่มีผลให้พนักงานเขียนโค้ดตกงาน แต่จะเพิ่มความต้องการซอฟต์แวร์มากขึ้น
ในด้านต้นทุนและโครงสร้างพื้นฐานของการพัฒนา GPT-5 แซมระบุว่าประสบความสำเร็จในการลดต้นทุนและเพิ่มความเร็วของโมเดล ซึ่งช่วยให้สามารถเข้าถึงได้ในวงกว้าง
ที่สุดแล้ว OpenAI ชี้ว่าบริษัทมุ่งมั่นที่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมทั่วโลกเพื่อให้ AI พร้อมใช้งานในทุกตลาด ซึ่งแม้ว่าแต่ละประเทศอาจมีแนวทางที่แตกต่างกัน แต่ผู้นำส่วนใหญ่ต้องการให้ AI เติบโตและเป็นประโยชน์ในประเทศอย่างเต็มที่ ดังนั้น GPT-5 ที่เก่งเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญระดับปริญญาเอก จึงเปิดกว้างให้ทุกคนใช้งานฟรี ท่ามกลางผู้ใช้ ChatGPT ทั่วโลกที่ใช้งานอยู่เกือบ 700 ล้านรายต่อสัปดาห์ โดยผู้ใช้ทางธุรกิจที่ชำระเงินมีจำนวนกว่า 5 ล้านราย และนักพัฒนาอีก 4 ล้านคนที่สร้างผลงานบนแพลตฟอร์ม API ของ ChatGPT (สถิติ ก.ค. 68).
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO