ทรัมป์เดินเกมหนัก โจมตีพลังงานลม-แสงอาทิตย์ กระทบโครงการทั่วสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่มระดับการโจมตีพลังงานลมและแสงอาทิตย์จากเพียงวาทกรรมไปสู่การดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม โดยดำเนินการรวดเร็วและรุนแรงกว่าที่อุตสาหกรรมคาดไว้มาก สะท้อนจากช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
รัฐบาลทรัมป์เริ่มทบทวนกระบวนการอนุญาตที่อาจคุกคามการพัฒนาโครงการพลังงานลมและแสงอาทิตย์ในสหรัฐฯ ได้ออกข้อกำหนดที่แทบเป็นการสกัดไม่ให้เกิดโครงการใหม่บนที่ดินของรัฐบาลกลาง รวมทั้งเพิกถอนคำสั่งในยุคไบเดนที่จัดสรรน่านน้ำชายฝั่งสำหรับติดตั้งกังหันลมในอนาคต และล่าสุดได้ยกเลิกการอนุมัติโครงการฟาร์มกังหันลมขนาดใหญ่ในรัฐไอดาโฮ
การโจมตีที่รวดเร็วและหลากหลายต่อพลังงานสะอาด ควบคู่กับนโยบายที่เอื้อต่อเชื้อเพลิงฟอสซิลและพลังงานนิวเคลียร์ ทำให้นักพัฒนาโครงการพลังงานลมและแสงอาทิตย์ที่เคยคุ้นกับแรงสนับสนุนจากรัฐบาลต้องตั้งตัวไม่ทัน
ตามการวิเคราะห์ของกลุ่มสนับสนุนสิ่งแวดล้อม E2 พบว่า นโยบายเหล่านี้มีส่วนทำให้โครงการพลังงานสะอาดมูลค่ารวมกว่า 22,000 ล้านดอลลาร์ถูกยกเลิกหรือล่าช้าตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา และทำให้ตำแหน่งงานหลายพันตำแหน่งหายไป โดยส่วนใหญ่อยู่ในรัฐที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก
ผลกระทบของนโยบายลึกเกินกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญและผู้เล่นในอุตสาหกรรมหลายรายคาดไว้ โดยสะท้อนแนวทางที่แข็งกร้าวของทรัมป์ในหลายด้านระหว่างการดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง จากรายงานของ Bloomberg เผยให้เห็นจากประเด็นที่ ทิโมธี ฟอกซ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ClearView Energy Partners กล่าวซึ่งเขาเคยเชื่อว่า รัฐบาลชุดใหม่อาจเพียงปรับทิศทางนโยบายเพื่อให้ความสำคัญกับถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ แต่ไม่ถึงขั้นโจมตีพลังงานสะอาดแต่แนวทางปรับทิศได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว
ตอนนี้เรากำลังอยู่ในสถานการณ์ตอบโต้
ทรัมป์เคยกล่าวซ้ำ ๆ ว่าพลังงานสีเขียวคือ “เรื่องหลอกลวง” พร้อมย้ำจุดยืนการครองความเป็นใหญ่ด้านพลังงาน ผ่านการพึ่งพาแหล่งพลังงานในประเทศอย่างน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน นอกเหนือจากคำพูด
การกวาดล้างพลังงานลมและแสงอาทิตย์ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เปราะบางของสหรัฐฯ เมื่อความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากศูนย์ข้อมูลและการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ ส่งผลให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นสำหรับชาวอเมริกันที่ยังได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อ
ในขณะที่เทอร์ไบน์ก๊าซธรรมชาติ (Gas Turbine) ขาดตลาด และโครงการพลังงานนิวเคลียร์ใหม่ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะแล้วเสร็จ บางการศึกษาคาดว่า การโจมตีพลังงานสะอาดจะทำให้ศักยภาพการผลิตไฟฟ้าลดลง และทำให้ต้นทุนพลังงานสูงขึ้น
เจ้าหน้าที่รัฐบาลทรัมป์กล่าวว่า นโยบายเหล่านี้มีเหตุผลพอ เพื่อให้สหรัฐฯ มีแหล่งพลังงานที่พร้อมใช้งานตลอดเวลา ดั๊ก เบอร์กัม รัฐมนตรีมหาดไทยของสหรัฐฯ กล่าวในการประกาศเปลี่ยนนโยบายว่า รัฐบาลชุดก่อนให้สิทธิพิเศษแก่โครงการพลังงานลมและแสงอาทิตย์มากเกินไป การสร้างความเท่าเทียมในกระบวนการอนุญาต ช่วยสนับสนุนการพัฒนาพลังงานที่เชื่อถือได้ ราคาย่อมเยา และยั่งยืน
การโจมตีพลังงานสะอาดเริ่มตั้งแต่วันแรกที่ทรัมป์กลับเข้าสู่ทำเนียบขาว
ด้วยการแช่แข็งการอนุญาตโครงการลมนอกชายฝั่ง จากนั้นจึงเร่งย้อนนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศในยุคไบเดน ขณะเดียวกัน รัฐสภาที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากก็สร้างความประหลาดใจให้กับหลายฝ่ายในพรรคเดียวกัน ด้วยการทยอยยกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับโครงการพลังงานลมและแสงอาทิตย์
ตามรายงานของ BloombergNEF การติดตั้งพลังงานสะอาดในสหรัฐฯ ถูกคาดการณ์ว่าจะลดลง 41% ในปี 2028 หากสิทธิประโยชน์ทางภาษีถูกยกเลิก
เดือนกรกฎาคม กระทรวงคมนาคมของสหรัฐฯ แนะนำให้กำหนดระยะห่างขั้นต่ำของกังหันลมจากทางหลวงและทางรถไฟอย่างน้อย 1.2 ไมล์ (ราว 1.93 กิโลเมตร) พร้อมระบุว่า สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ (FAA) จะประเมินอย่างละเอียด
สำหรับกังหันลมที่เสนอให้ติดตั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่เป็นอันตรายต่อการบิน โดยความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อเที่ยวบินทหารเคยเกิดขึ้นมาแล้วในการพิจารณาของรัฐบาลก่อนหน้านี้ต่อโครงการลมนอกชายฝั่ง
ขณะเดียวกัน สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ (EPA) ได้เสนอให้เพิกถอนข้อกำหนดที่ระบุว่า ก๊าซเรือนกระจกเป็นอันตรายต่อสุขภาพและสวัสดิภาพของประชาชน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามที่จะสนับสนุนพลังงานฟอสซิลในขณะที่ลดบทบาทของแสงอาทิตย์และลม
โครงการโรงงานและพลังงานสะอาดใหม่ ๆ มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ถูกยกเลิก ล่าช้า หรือถูกลดขนาดลงนับตั้งแต่ต้นปี โดยในเดือนมิถุนายน การลงทุนมูลค่า 11.7 พันล้านดอลลาร์อยู่ในเขตรัฐของพรรครีพับลิกัน ตามรายงานของ E2 พบว่ามีตำแหน่งงานสูญหายกว่า 16,500 ตำแหน่ง โดยเกือบ 12,000 ตำแหน่งอยู่ในเขตของพรรครีพับลิกัน
บริษัท Engie จากฝรั่งเศส ระบุว่า ในปีนี้จะลงทุนในสหรัฐฯ ต่ำกว่าระดับปกติที่ 2-3 พันล้านดอลลาร์ไม่ถึงครึ่ง ขณะที่ ผู้บริหารบริษัทพลังงานรายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg เมื่อต้นปีว่า อุตสาหกรรมคาดว่าจะเผชิญภาวะชะลอตัว เช่น การหยุดพักการให้เช่าที่ดินของรัฐ และโครงการที่เสนอใหม่อาจไม่ได้เดินหน้า แต่ขนาดของความปั่นป่วน โดยเฉพาะการโจมตีโครงการที่ได้รับอนุญาตอย่างสมบูรณ์นั้นเกินความคาดหมาย โดยผู้บริหารรายดังกล่าวขอไม่เปิดเผยชื่อเพื่อให้สามารถพูดอย่างตรงไปตรงมา
ผู้บริหารอีกรายหนึ่งกล่าวกับ Bloomberg ว่า สำหรับบางบริษัท กลยุทธ์ที่ดีที่สุดในเวลานี้คือการไม่โต้ตอบและหวังว่าโครงการจะสามารถรอผ่านช่วง 3 ปีครึ่งที่เหลือไปได้ อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ดังกล่าวเท่ากับเป็นการตรึงเงินทุนไว้ และพลาดโอกาสในการลงทุนอื่นในระหว่างนี้
การโจมตีส่วนใหญ่ของรัฐบาลชุดนี้ต่อพลังงานลมและแสงอาทิตย์ดำเนินผ่านกระทรวงมหาดไทย
ซึ่งมีอำนาจดูแลที่ดินและน่านน้ำของรัฐบาลกลางหลายร้อยล้านเอเคอร์ โดยในปัจจุบันมีสัดส่วน 4% ของการผลิตพลังงานหมุนเวียนในสหรัฐฯ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 12.5% ภายในปี 2035 ตามรายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคม
ตามข้อมูลจาก American Clean Power เบอร์กัมออกคำสั่งให้ตนเองต้องเป็นผู้ลงนามอนุมัติในโครงการพลังงานลมและแสงอาทิตย์บนที่ดินของรัฐบาลกลางจำนวน 69 รายการ ซึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มชั้นตอนเอกสารจำนวนมาก โดยต้องตรวจสอบเอกสารหลายพันฉบับ
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมระบุว่า นโยบายของรัฐบาลกลางใหม่นี้ อาจขัดขวางโครงการที่สร้างบนที่ดินเอกชนด้วย เพราะหลายโครงการมักเกี่ยวข้องกับหน่วยงานของรัฐ โดยเฉพาะในภาคตะวันตกที่รัฐบาลกลางเป็นเจ้าของที่ดินเกือบครึ่ง
กระทรวงมหาดไทยให้ข้อมูลกับ Bloomberg ว่าปัจจุบัน พิจารณาความหนาแน่นของกำลังการผลิตเป็นปัจจัยหลักในการพิจารณาข้อเสนอด้านพลังงานบนที่ดินและน่านน้ำสาธารณะ โดยโครงการแต่ละแห่งจะได้รับการพิจารณาเป็นกรณีไป
โฆษกของกระทรวงกล่าวว่า เพียงเพราะบางคนพยายามตีกรอบว่าเรื่องนี้เป็นการเมือง ไม่ได้แปลว่ามันเป็นความจริง การประเมินการใช้ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพและผลกระทบสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่คือการบริหารจัดการที่มีความรับผิดชอบ
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีอุปสรรคใหม่มากมาย ผู้พัฒนาโครงการพลังงานสะอาดรายใหญ่ยังพยายามสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนว่า จะสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ บริษัท NextEra Energy Inc. และ AES Corp. ระบุในการประชุมผลประกอบการล่าสุดว่า เชื่อว่าโครงการส่วนใหญ่ของตนได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเรียบร้อยแล้ว