‘จากปางสู่ป่า’ ศูนย์เรียนรู้ ‘ช้าง’ พิษณุโลก ต้นแบบท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
ผู้เขียน : กรรณิการ์ สิงหะ
องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) ต่อยอดความสำเร็จในโอกาสครบรอบ 75 ปี ร่วมกับมูลนิธิช้างทรัพย์ไพรวัลย์และพันธมิตรทุกภาคส่วน เปิดตัว “Elephant Forest Phitsanulok” ต้นแบบปางช้างที่เป็นมิตรอย่างสมบูรณ์ แห่งแรกในภาคเหนือตอนล่าง หมุดหมายใหม่ของการท่องเที่ยวอย่างมีจริยธรรม สร้างมุมมองใหม่เพื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับช้างสำหรับคนไทยและก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานสวัสดิภาพช้างไทยสู่สากล
พลังของความร่วมมือ
วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ เมื่อ Elephant Forest Phitsanulok เปิดงาน “จากปางสู่ป่า : เรียนรู้และเปลี่ยนผ่านสู่ช้างเป็นมิตร” โดยมี ทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นพ่องาน พร้อมผู้แทนภาครัฐ เอกชน และองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ กรมปศุสัตว์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อินเทรพิด ทราเวล (Intrepid Travel) บริษัทท่องเที่ยวระดับโลกที่มุ่งเน้นการท่องเที่ยวเชิงยั่งยืน และผู้อำนวยการองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศสวีเดน ผู้ให้การสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญนี้
รวมถึง “กัญจนา ศิลปอาชา” ผู้มีบทบาทสำคัญด้านการอนุรักษ์ช้างไทย มาร่วมเป็นสักขีพยาน ในการยกระดับการท่องเที่ยวที่เคารพสวัสดิภาพช้างและสัตว์
Elephant Forest Phitsanulok มีจุดเริ่มจากความเมตตาของ ประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ที่ซื้อโรงแรมทรัพย์ไพรวัลย์กลางผืนป่า 900 ไร่ และได้เห็นสภาพของช้างที่ถูกใช้งานหนัก ทางครอบครัวจึงตัดสินใจก่อตั้งมูลนิธิเพื่อดูแลช้าง โดยมอบ “บ้าน” ธรรมชาติ เพื่อฟื้นฟูกายใจของช้างให้กลับมาใช้ชีวิตในแบบที่ควรจะเป็น พร้อมรักษาผืนป่า ดูแลต้นไม้ไปด้วย
จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่
วิกฤตโควิด-19 คือจุดเริ่มต้นที่มูลนิธิช้างทรัพย์ไพรวัลย์เข้าร่วมโครงการพรุ่งนี้ที่ดีกว่าของช้าง (Build Back Better) ภายใต้การสนับสนุนขององค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก โดยได้รับทุนพัฒนาแปลงพืชอาหารยั่งยืน ระบบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ลดการพึ่งพาอาหารจากภายนอก
ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงช่วยแก้วิกฤต แต่กลายเป็นแรงบันดาลใจที่นำไปสู่การพัฒนา “Elephant Forest Phitsanulok” ให้เป็น “ปางช้างที่เป็นมิตรกับช้าง”
พ่อเมืองพิษณุโลกบอกว่า จังหวัดพิษณุโลกเป็นเมืองหลักการท่องเที่ยวใน 5 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง และเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ มีแหล่งท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรม ด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การเปิดศูนย์เรียนรู้ดังกล่าวจึงเป็นมิติใหม่ ให้คนรักช้างได้มาเรียนรู้วิถีเลี้ยงช้างในป่า โดยไม่ทำร้ายช้างและสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปสู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกมีความยินดีที่จะสนับสนุนศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ให้เป็นหมุดหมายของการท่องเที่ยว
“ศิรอาภา ศิริวิริยะกุล” ผู้อำนวยการ มูลนิธิช้างทรัพย์ไพรวัลย์ ในฐานะทายาทรุ่นที่ 4 กล่าวว่า “สิ่งหนึ่งที่มูลนิธิเห็นตรงกับองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกคือ การทำปางช้างเป็น Elephant Friendly ที่ส่งเสริมให้สวัสดิภาพช้าง ควาญช้าง เช่น ลดระยะเวลาการใช้โซ่ให้สั้นลง ให้ช้างได้เดินอย่างอิสระ ทั้งเพิ่มความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวด้วย”
ปัจจุบันที่นี่มีช้างเพศเมีย 5 ตัว ส่วนใหญ่ผ่านชีวิตที่ยากลำบากจากการลากไม้และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมาแล้ว ล่าสุดได้กลายเป็น “ศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับช้างสำหรับคนไทย” เพื่อสร้างความเข้าใจใหม่ในการอยู่ร่วมกับสัตว์ด้วยความเคารพ เน้นแนวคิด “พาช้างมาให้คนดู” สู่ “พาคนไปดูช้างในป่า”
หมุดหมายใหม่ของทั่วโลก
การเปลี่ยนผ่านยังครอบคลุมถึงการปรับอุปกรณ์โซ่ที่ใช้ผูกช้างเวลากลางคืน จากโซ่โลหะเป็นโซ่น้ำหนักเบา สร้างคอกล้อมรั้วที่ปลอดภัยสำหรับใช้เวลาพัก จัดเสริมอุปกรณ์ Enrichment กระตุ้นพฤติกรรมตามธรรมชาติ ฟื้นฟูสภาพป่า ตลอดจนดูแลช้างสูงอายุให้พักในโรงเรือนและทำอาหารเฉพาะที่ย่อยง่าย ช่วยระบบขับถ่าย
ที่สำคัญยังยกระดับคุณภาพชีวิตของควาญช้าง ปรับบทบาทจาก “ผู้ควบคุมบังคับ” เป็น “ผู้ดูแล” ทำงานร่วมกับช้างด้วยความเข้าใจ ลดความเครียดทั้งสองฝ่าย
“ทริเซีย โครสดอล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก เสริมว่า “ประเทศไทยเป็นบ้านของช้างเอเชียมายาวนาน ถือเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกใฝ่ฝันอยากมาเยือน การเปลี่ยนผ่านของ Elephant Forest Phitsanulok ไม่เพียงคืนชีวิตอิสระให้ช้าง แต่ยังเปิดโอกาสให้นักเดินทางได้สัมผัสการท่องเที่ยวที่มีจริยธรรมและมีความหมาย พร้อมสร้างความภาคภูมิใจให้กับชุมชนจากการทำงานโดยไม่ต้องบังคับช้าง”
ในวาระครบรอบ 75 ปี องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก มองว่า นี่คือก้าวสำคัญที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เชื่อว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวโลกก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืนและเคารพธรรมชาติอย่างแท้จริง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ‘จากปางสู่ป่า’ ศูนย์เรียนรู้ ‘ช้าง’ พิษณุโลก ต้นแบบท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net