”ไทย - สวีเดน“ ยกระดับความสัมพันธ์ เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างเป็นทางการ
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พบหารือทวิภาคี กับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ในโอกาสเดินทางเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการ โดยได้หารือร่วมกันถึงแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีการป้องกันประเทศ นวัตกรรม สตาร์ทอัพ การจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน และการเปลี่ยนผ่านพลังงานสีเขียว ตลอดจนการขยายโอกาสการค้าและการลงทุน โดยเฉพาะการเร่งรัดการเจรจา FTA ไทย - อียู และการยกเว้นการตรวจลงตราเข้าสู่เขตเชงเกนของผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของไทย อีกทั้งยังแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคและระหว่างประเทศด้วย
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศได้ร่วมลงนามในเอกสารยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างเป็นทางการ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นทางการเมืองร่วมกันในการยกระดับความร่วมมือในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญ ซึ่งการยกระดับความสัมพันธ์ครั้งนี้ ถือเป็นหมุดหมายทางประวัติศาสตร์ของมิตรภาพอันยาวนานระหว่างสองประเทศ
โดยนายมาริษ กล่าวว่า จริงๆแล้วความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสวีเดน เป็นความสัมพันธ์ที่เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์มานานแล้ว ดังนั้นการลงนามวันนี้เป็นเพียงสัญลักษณ์ เพราะการ ดำเนินความสัมพันธ์ โดยเฉพาะทวิภาคีระหว่างไทยกับสวีเดน เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อยู่แล้ว และความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์นั้นไม่ได้เป็นเพียงนามธรรม แต่เป็นรูปธรรมที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือเพื่อผลักดันความสัมพันธ์ให้ประสบความสำเร็จ ความร่วมมือจะเกิดขึ้นได้จริงจากการนำไปปฏิบัติในภาคส่วนต่างๆ เช่น ภาคการศึกษา, ภาคการผลิตที่จำเป็นต้องใช้ความรู้ด้านเทคโนโลยี และความร่วมมือในภาคเอกชนด้านต่างๆ
นอกจากนี ยังใช้โอกาสนี้นำเสนอข้อเท็จจริงเพื่อให้รัฐบาลสวีเดนเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในความตึงเครียดชายแดนไทยกับกัมพูชา พร้อมยืนยันว่าไทยได้ปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรสหประชาชาติอย่างเคร่งครัด ได้หารือกรณีที่กัมพูชาใช้พลเมืองเข้ามาเป็นโล่มนุษย์ กดดันสร้างความขัดแย้งในเขตพรมแดน ขัดต่อข้อตกลงหยุดยิง ละเมิดอนุสัญญาเจนีวา กฎหมายระหว่างประเทศและกฏบัตรของสหประชาชาติ
“รัฐบาลสวีเดนได้ชื่นชมประเทศไทย โดยเฉพาะหลังการลงนามซื้อกริฟเพน ทำให้รัฐบาลสวีเดนสนับสนุนเรา เพราะเชื่อว่าการปฏิบัติการทางทหารของเราเป็นไปเพื่อกำจัดการรุกราน ตามกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด“ นายมาริษ กล่าว