เกาะประเด็นการเมืองวันนี้ จับตา ‘ศาลรัฐธรรมนูญสั่งฟ้อง’ ปม ‘นั่งลงลูก’
สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ออกเอกสารเผยแพร่ว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อ 21 ส.ค. ไต่สวนพยานบุคคล คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เรื่อง ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 260 (4) และ (5) หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ 18/2568)
ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 38 วรรคหนึ่ง
ภายหลังวันดังกล่าวมีการเผยแพร่คลิปและข่าวในสื่อสารมวลชนหลายช่องทาง อันเป็นเท็จบิดเบือนข้อเท็จจริงในกระบวนการไต่สวน ของศาลลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวอ้างว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งพูดกับผู้ถูกร้องว่า "นั่งลงลูก" ซึ่งความจริงท่านพูดว่า "นั่งลงครับ"
การบิดเบือนเข้าข่ายเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลตามมาตรา 38 และมาตรา 39 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 และข้อ 10 และข้อ 11 ของข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2562 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจะดำเนินการทางกฎหมายแก่บุคคลที่กระทำการบิดเบือนและเผยแพร่คลิปดังกล่าวต่อไป
“นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ก็โพสต์ไอจีสตอรี่ เขียนข้อความประกอบคลิปว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า "นั่งลงครับ" ไม่ใช่ "นั่งลงลูก" อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่วอย่าบิดเบือนข่าว
“หมอมิ้ง” นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการยื่นคำแถลงปิดคดีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกฯ อิ๊งค์ และฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่า ยื่นคำแถลงปิดคดีตามกำหนดคือ 25 ส.ค. และนายกฯ กำลังพิจารณาว่า จะเดินทางไปฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเองที่ศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่
“หัวหน้าเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ว่า หากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญไม่เป็นคุณ ยืนยันว่าจะใช้จำนวนเสียงที่มีอยู่กำหนดทิศทางการเมืองไทยในสภาให้เดินหน้าไปอย่างมั่นคงให้กับประชาชนได้ แคนดิเดตนายกฯ ที่เหลืออยู่ทุกคนมีสิทธิที่จะถูกโหวตตามกระบวนการทางกฎหมาย แต่พรรค ปชน.จะไม่ร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน แต่ถ้าการเมืองไทยอาจจะถึงทางตัน พรรคการเมืองอื่นไม่สามารถรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็จำเป็นต้องยอมรับเงื่อนไขของพรรค ปชน.ได้แถลงไปก่อนหน้านี้
(เงื่อนไขดังกล่าวคือ พร้อมให้ สส.ปชน. 142 เสียง สนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ คนที่พร้อมประกาศทำเรื่องจำเป็นให้เสร็จปีนี้ เช่น ทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากนั้นยุบสภาให้เลือกตั้งใหม่ ปี 2569) หัวหน้าเท้งบอกว่า เชื่อว่าตอนนี้สังคมไทยต้องการรัฐบาลที่มีความชอบธรรมและมีเสถียรภาพมากพอที่จะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ
ที่ทำเนียบรัฐบาล “มท.อ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีการแต่งตั้ง นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี เป็นอธิบดีกรมที่ดิน ว่า เมื่อได้ตัวอธิบดีกรมที่ดินคนใหม่ ก็ดำเนินการต่อเรื่องเขากระโดง ตามคำสั่งต่างๆ ของข้อสรุปที่คณะทำงานตรวจสอบได้ทำ ข่าวที่ว่าอธิบดีกรมที่ดินคนใหม่ป่วยเข้าโรงพยาบาลทำอะไรไม่ได้ก็ไม่จริง เพราะเขาจะมาพบวันที่ 25 ส.ค. เรื่องนี้ไม่มีกรอบเวลาให้ดำเนินการ แต่เคยพูดไปแล้วว่า ให้เร็วที่สุด ปฏิบัติตามคำสั่งศาลให้เต็มที่ ไม่เช่นนั้นจะเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ที่ควรจะต้องทำ ตนไม่แทรกแซง อธิบดีเซ็นเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินเขากระโดงได้ทันทีที่เร็วที่สุด
อีกเรื่องหนึ่ง กองทัพอากาศ ตั้งชื่อโครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ฝูงใหม่ JAS 39 Gripen E/F ว่า โครงการ "PEACE BURAPHA" ซึ่งตราสัญลักษณ์ โครงการ "PEACE BURAPHA" ที่ร่วมกันออกแบบโดย “บิ๊กไก่” พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) พล.อ.ท.อนุรักษ์ รมณารักษ์ รอง เสธ.ทอ. และ พ.อ.อ.บดินทร์ จำปา เจ้าหน้าที่ แผนกแผน สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักบริหารยุทโธปกรณ์ กรมยุทธการทหารอากาศ
รายละเอียดโครงการ คือ 1.ชื่อโครงการ "PEACE BURAPHA" หรือ "บูรพาสันติ" เป็นชื่อโครงการจากดำริของ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี ที่ต้องการสื่อถึงโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ ซึ่งจะประจำการที่ฝูงบิน 102 กองบิน 1 จ.นครราชสีมา ในอนาคตจะเป็นเขี้ยวเล็บหนึ่งในกำลังสำคัญในการรักษาความมั่นคงให้พื้นที่ด้านตะวันออก และตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเสถียรภาพในภูมิภาคอย่างยั่งยืนสืบไป
2.ตราสัญลักษณ์ ทอ. เป็นรูปปีก ทอ. ที่ใช้ในยุคที่ ทอ. เริ่มใช้วิสัยทัศน์ Unbeatable Air Force ซึ่งเริ่มโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทน ในปีนี้ 3.ธงชาติไทยรูปวงกลมเป็นสัญลักษณ์ของชาติไทยที่ติดไว้บนอากาศยานทุกแบบของกองทัพอากาศ 4.ดาวคู่จำนวน 2 ดวง หรือ "STARS" เป็นนามเรียกขานและเป็นสัญลักษณ์ประจำฝูงบิน 102 ยุคใหม่ที่เริ่มใช้สัญลักษณ์ดังกล่าว เมื่อเครื่องบิน F-16 ADF เข้าประจำการในปี 2545 ซึ่งขณะนั้นยังกำหนดภารกิจเป็นฝูงบินขับไล่สกัดกั้น สำหรับตราสัญลักษณ์ใหม่นั้นใช้คำว่า 102 TACTICAL FIGHTER SQUADRON หมายถึงในอนาคตฝูงบิน 102 จะปรับภารกิจเป็นฝูงบินขับไล่ยุทธวิธีซึ่งรองรับภารกิจอเนกประสงค์ทั้ง Air to Air และ Air to Ground ฝูงบิน 102 มีคำขวัญประจำฝูงบินว่า "เราจะหยุดไพรีที่ห้าวหาญ"
5.ดาวสีทองข้างละ 6 ดวง รวม 12 ดวงในขอบวงกลมเป็นการให้เกียรติแก่ฝูงบิน 12 ซึ่งเดิมมีที่ตั้ง ณ กองบิน 1 ดอนเมือง ที่มีเกียรติประวัติในการรบที่สำคัญ ก่อนจะย้ายที่ตั้งมาที่กองบิน 1 จ.นครราชสีมา ตั้งแต่ 24 ต.ค.2519 และ 6.ข้อความ JAS 39 GRIPEN E/F-RTAF หมายถึง รุ่นของเครื่องบิน Gripen E/F ที่จะเข้าประจำการในกองทัพอากาศ โดยในภาพเครื่องบินที่บินด้วยความเร็วสูงตรงกลางของภาพจะติดอาวุธ แบบ Meteor, AIM-120 AMRAAM และ IRIS-T ซึ่งเป็นอาวุธนำวิถีแบบอากาศสู่อากาศที่ทันสมัย.
"ทีมข่าวการเมือง"