ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดลบ กังวลทรัมป์ปลด “ลิซา คุก” จากเฟด-ขู่ภาษีจีน 200%
ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดลบ กังวลทรัมป์ปลด "ลิซา คุก" ออกจากตำแหน่งผู้ว่าการเฟดอย่างกะทันหัน ขู่ภาษีจีน 200% หากจีนไม่ส่งออกแม่เหล็กหายากให้สหรัฐ
วันที่ 26 สิงหาคม 2568 ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ (26 ส.ค.) เคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ หลังดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนวันจันทร์ ท่ามกลางแรงกดดันจากการเมืองการเงิน เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งปลด ลิซา คุก ออกจากตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อย่างกะทันหัน หลังถูกกล่าวหาว่ากระทำการฉ้อโกงด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัย เหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกที่ผู้นำสหรัฐฯ ใช้อำนาจถอดถอนผู้ว่าการเฟด และสะท้อนถึงการเพิ่มความเข้มข้นในการโจมตีเฟดของทรัมป์
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว เปิดที่ 42,619.66 จุด ลดลง 188.16 จุด หรือ -0.44% ดัชนีฮั่งเส็งฮ่องกงเปิดที่ 25,714.91 จุด ลดลง 115.00 จุด หรือ -0.45% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดที่ 3,871.47 จุด ลดลง 12.09 จุด หรือ -0.31% ดัชนี KOSPI เกาหลีใต้ปรับตัวลง 0.46% ดัชนี S&P/ASX 200 ออสเตรเลียลดลง 0.31%
ทรัมป์ลงนามปลดลิซา คุก มีผลในทันที หลัง บิล พูลที ผู้อำนวยการสำนักงานการเงินเพื่อการเคหะ (FHFA) เปิดเผยว่า คุกได้กู้สินเชื่อที่อยู่อาศัยในรัฐมิชิแกน โดยแจ้งว่าเป็นบ้านหลัก จากนั้นจึงกู้ซื้อคอนโดในแอตแลนตาและอ้างว่าเป็นที่อยู่อาศัยหลักเช่นกัน การกระทำดังกล่าวทำให้เธอได้รับสิทธิพิเศษด้านอัตราดอกเบี้ยจากโครงการที่อนุญาตให้มีบ้านหลักเพียงหนึ่งแห่ง ซึ่งถือเป็นการให้ข้อมูลเท็จเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
นักลงทุนยังจับตาความสัมพันธ์การค้าระหว่างจีน–สหรัฐฯ หลังมีรายงานว่าทรัมป์ขู่จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรสูงถึง 200% หากจีนไม่ยอมส่งออก “แม่เหล็กหายาก” (rare earth magnets) ให้กับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีและพลังงานสะอาดทั่วโลก ความเคลื่อนไหวนี้เพิ่มความตึงเครียดและสร้างแรงกดดันต่อทิศทางตลาดหุ้นเอเชีย
โดยรวมแล้ว บรรยากาศการลงทุนในเอเชียยังคงถูกกดดันจากทั้งปัจจัยภายนอกและความไม่แน่นอนทางนโยบายการเงินสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนรอประเมินผลกระทบระยะยาวจากการเผชิญหน้าระหว่างทรัมป์กับเฟด รวมถึงมาตรการกีดกันทางการค้ากับจีนที่จะส่งผลต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจโลก