โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ประเด็นสำคัญจากงานเปิดตัวผลการศึกษาเชิงลึก (Whitepaper) ในหัวข้อ “Going Beyond สร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับสัตวแพทย์ในประเทศไทย” โดย เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ แอนิมอล เฮลท์

TODAY

อัพเดต 28 สิงหาคม 2568 เวลา 23.14 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • workpointTODAY

การศึกษาเชิงลึกครั้งนี้จัดทำขึ้นโดย เบอริงเกอร์อินเกลไฮม์ แอนิมอลเฮลท์ หนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านสุขภาพสัตว์ร่วมกับTAGR บริษัทวิจัยระดับโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำความเข้าใจปัญหาและความท้าทายที่สัตวแพทย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน ทั้งในด้านการปฏิบัติงาน ภาระทางการเงิน สุขภาพจิตใจ และความเข้าใจจากสังคม งานวิจัยยังมุ่งสร้างความตระหนักรู้ถึงคุณค่าและบทบาทที่สำคัญของวิชาชีพนี้ ทั้งในมิติการรักษาสัตว์เลี้ยง การสนับสนุนความมั่นคงทางอาหาร และการปกป้องสุขภาพของคนและชุมชน

การศึกษาครั้งนี้ยังเป็นการเชิญชวนให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ สถาบันการศึกษา ภาคเอกชน และสมาคมวิชาชีพ เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและสนับสนุนสัตวแพทย์ให้สามารถทำงานได้อย่างมีคุณภาพและยั่งยืน ข้อมูลที่ได้มาจากผู้ตอบแบบสอบถาม335 คน ซึ่งประกอบด้วยสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่คลินิกสัตว์จาก6 ประเทศในภูมิภาค ถือเป็นฐานข้อมูลเชิงประจักษ์ที่สะท้อนเสียงของวิชาชีพอย่างแท้จริง

[ ความท้าทายสำคัญที่พบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ]

จากผลการศึกษาพบว่า สัตวแพทย์ในภูมิภาคนี้กำลังเผชิญกับความท้าทายสำคัญ3 ประการ ดังนี้:

  • การขาดความเข้าใจและการยอมรับจากสาธารณะสัตวแพทย์มักถูกมองว่าเป็นเพียง“หมอรักษาหมาแมว” ขณะที่บทบาทอื่น ๆ ที่มีความสำคัญยิ่ง เช่น การดูแลด้านสาธารณสุข การควบคุมโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน รวมถึงการจัดการด้านความมั่นคงทางอาหาร กลับถูกมองข้ามไป การขาดการยอมรับนี้ไม่เพียงส่งผลต่อกำลังใจของสัตวแพทย์ แต่ยังสะท้อนถึงการขาดการสนับสนุนด้านนโยบายและเงินทุนจากสังคม
    [    * **แรงกดดันด้านการดำเนินงานและการเงิน**ต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น ค่าเครื่องมือทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้น และข้อจำกัดในการเข้าถึงทรัพยากร ถือเป็นอุปสรรคสำคัญ โดยเฉพาะในประเทศที่ยังไม่มีระบบประกันสุขภาพสัตว์เลี้ยงที่ครอบคลุม คลินิกและโรงพยาบาลสัตว์ต้องเผชิญกับความท้าทายในการสร้างสมดุลระหว่างการให้บริการที่ได้มาตรฐานกับราคาที่ลูกค้าสามารถยอมรับได้ ,     * **การสนับสนุนด้านสวัสดิการและสุขภาวะที่ยังไม่เพียงพอ**ชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน การเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉิน และภาระงานที่มีความกดดันสูง ทำให้สัตวแพทย์จำนวนมากเสี่ยงต่อภาวะหมดไฟและความเหนื่อยล้าทางอารมณ์ โดยปัญหานี้ยิ่งรุนแรงขึ้นเมื่อขาดระบบสนับสนุนด้านสุขภาพจิตและสวัสดิการที่เหมาะสม ส่งผลให้สัตวแพทย์บางส่วนตัดสินใจลาออกจากวิชาชีพหรือเลือกไปทำงานในต่างประเทศ ]

[ ผลการศึกษาที่สำคัญเฉพาะสำหรับประเทศไทย ]

แม้ปัญหาหลักของสัตวแพทย์ไทยจะสอดคล้องกับแนวโน้มในภูมิภาค แต่ก็มีรายละเอียดที่ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายเฉพาะตัว ดังนี้:

1. ความกดดันด้านการเงินและความไม่เข้าใจจากลูกค้า

สัตวแพทย์ไทยกำลังเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากค่าเครื่องมือทางการแพทย์และค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงาน ขณะเดียวกัน42% ของผู้ตอบแบบสอบถามรายงานว่าจำนวนลูกค้ามีแนวโน้มลดลง ความไม่เข้าใจของลูกค้าเกี่ยวกับคุณค่าและความซับซ้อนของบริการด้านสุขภาพสัตว์เป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดความตึงเครียด โดยสัตวแพทย์จำนวนมากสะท้อนว่าลูกค้ายังมองค่าบริการสูงเกินไป โดยไม่เห็นต้นทุนที่แท้จริงของการรักษา

  • 70% ของสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่คลินิกประสบปัญหาจากความรู้ที่จำกัดของลูกค้าเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพสัตว์
    [    * 74% ระบุว่าการได้รับการยอมรับในเรื่องค่าบริการจากลูกค้าเป็นความท้าทายอันดับต้น ๆ ที่ต้องเผชิญ ]

2. ความเครียดภาวะหมดไฟและความเหนื่อยล้าทางใจ

ภาระงานที่ยาวนาน ทั้งเวรกลางคืน การดูแลฉุกเฉิน และการทำงานในวันหยุดสุดสัปดาห์ ทำให้การรักษาสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวแทบเป็นไปไม่ได้ สัตวแพทย์ยังต้องเผชิญกับแรงกดดันจากเจ้าของสัตว์ที่มาพร้อมความคาดหวังสูง รวมถึงประสบการณ์ทางอารมณ์ที่ยากลำบากในการดูแลชีวิตสัตว์

  • มีเพียง16% ที่รู้สึกว่าได้รับความเข้าใจจากสาธารณชนอย่างแท้จริง
    [    * 58% ของสัตวแพทย์ในประเทศไทยทำงานมากกว่า50 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ สูงที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ที่ทำการสำรวจ ,     * 64% ต้องการให้ลูกค้าเข้าใจงานของพวกเขามากขึ้นเพื่อช่วยลดความเครียด ,     * 58% ต้องการการปฏิบัติที่ดีกว่าจากลูกค้า ,     * 42% ต้องการชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ]

[ ข้อเสนอแนะเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของสัตวแพทย์ไทย ]

จากผลการศึกษาเชิงลึกฉบับนี้ ได้สรุปข้อเสนอแนะแนวทางเพื่อส่งเสริมสุขภาพจิตและการยอมรับวิชาชีพสัตวแพทย์ พร้อมสร้างเครือข่ายสนับสนุนที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น ดังนี้

  • การศึกษาและสร้างความตระหนักรู้ในสาธารณะ– จัดแคมเปญเฉพาะกลุ่มผ่านสื่อสาธารณะและกิจกรรมของสถาบันการศึกษา เพื่อเพิ่มความเข้าใจของสาธารณชนต่อบทบาทของสัตวแพทย์
    [    * **การรักษาและพัฒนาบุคลากรสัตวแพทย์**– สนับสนุนค่าตอบแทน ผลประโยชน์ และเส้นทางการพัฒนาวิชาชีพที่ชัดเจน เพื่อดึงดูดและสร้างแรงบันดาลใจให้บุคลากร ,     * **การสนับสนุนด้านสุขภาวะ**– ให้สัตวแพทย์เข้าถึงบริการให้คำปรึกษา กลุ่มสนับสนุนเพื่อนร่วมอาชีพ และการฝึกอบรมสำหรับคลินิกสัตวแพทย์ด้านสุขภาพจิตและการจัดการความเครียด ,     * **ด้านนโยบายและการส่งเสริมกฎหมาย**– ร่วมมือกับรัฐบาลและองค์กรสัตวแพทย์เพื่อผลักดันโครงการ เช่น ประกันสัตว์เลี้ยงและการขยายบริการดูแลป้องกัน ,     * **การยกย่องด้านวิชาชีพ**– จัดตั้งรางวัลและโครงการยกย่องเพื่อเชิดชูผลงานของสัตวแพทย์ และสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ,     * **การเสริมสร้างเครือข่ายวิชาชีพ**– ส่งเสริมความร่วมมือใกล้ชิดระหว่างสมาคมสัตวแพทย์ รัฐบาล และบริษัทเอกชน เพื่อเพิ่มเสียงสะท้อนของวิชาชีพให้กว้างไกลยิ่งขึ้น ]

[ สรุปประเด็นจากการเสวนา ]

ในงานเปิดตัวผลการศึกษาเชิงลึก ยังได้มีการจัดเสวนาเพื่อระดมความคิดเห็นจากสัตวแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งร่วมกันแบ่งปันมุมมองและข้อเสนอแนะในการยกระดับวิชาชีพให้มีความยั่งยืน ประกอบด้วย

  • รศ.สพ.ญ.ดร.จารุวรรณ คำพา– เลขาธิการสัตวแพทยสภา
    [    * ผศ.น.สพ.ภูดิทมณีสาย– นายกสมาคมสัตวแพทย์ผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์แห่งประเทศไทย ,     * ผศ.น.สพ.รุ่งโรจน์ โอสถานนท์– อดีตประธานคณะผู้บริหารวิทยาลัยวิชาชีพการสัตวแพทย์ชำนาญการแห่งประเทศไทย ,     * อ.น.สพ.ชัยยศธารรัตนะ– ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์กรุงเทพ, คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ,     * สพ.ญ.ดร.เมตตา เมฆานนท์– นายกสมาคมสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มสุกรไทย ,     * สพ.ญ.กฤติกา ชัยสุพัฒนากุล– ประธานชมรมสถานพยาบาลสัตว์แห่งประเทศไทย ]

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

Q1: สัตวแพทย์ไทยมีชั่วโมงการทำงานมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวทางใดที่ช่วยลดภาระงานและปรับปรุงคุณภาพชีวิตได้บ้าง?

  • รศ.สพ..ดร.จารุวรรณคำพา(เลขาธิการสัตวแพทยสภา) เปิดประเด็นว่า“เมื่อมองจากประกาศรับสมัครงานในตลาดแรงงาน เราพบการระบุชั่วโมงทำงานตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงสามทุ่ม ซึ่งหมายความว่าสัตวแพทย์ไทยต้องทำงานไม่ต่ำกว่า12 ชั่วโมงต่อวัน สิ่งนี้สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างของตลาดแรงงานสัตวแพทย์ที่เรื้อรังมานาน” เธอชี้ให้เห็นว่าตั้งแต่ปี2565 สัตวแพทยสภาได้ออกเกณฑ์มาตรฐานการทำงาน40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือ8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อเป็นแนวปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม เธอยอมรับว่าการนำไปใช้จริงยังไม่ทั่วถึงและต้องอาศัยความร่วมมือของสถานประกอบการ
    [    * **อ****.****น****.****สพ****.****ชัยยศ****ธารรัตนะ****\(****ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์กรุงเทพ****,** **คณะสัตวแพทยศาสตร์****จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย****\)** กล่าวเสริมว่า ที่โรงพยาบาลสัตว์จุฬาฯ ได้เริ่มนำเกณฑ์นี้มาปรับใช้แล้ว โดยเฉพาะกับสัตวแพทย์รุ่นใหม่ แต่ความท้าทายยังอยู่ที่ปริมาณงานและจำนวนบุคลากรที่ไม่สมดุลกับความต้องการ ถึงจะมีมาตรฐาน40 ชั่วโมง แต่เมื่อเจอเคสฉุกเฉิน หรือความต้องการของเจ้าของสัตว์ที่คาดหวังการรักษาตลอดเวลา ก็ทำให้หมอต้องยืดหยุ่นเกินกรอบอยู่ดี ,     * **สพ****.****ญ****.****กฤติกา****ชัยสุพัฒนากุล****\(****ประธานชมรมสถานพยาบาลสัตว์แห่งประเทศไทย****\)** เห็นว่า ชั่วโมงทำงาน40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เป็นมาตรฐานที่เหมาะสมและควรเดินหน้า แต่สิ่งสำคัญคือการสร้าง“วัฒนธรรมองค์กร” ที่เข้าใจความสมดุลของบุคลากร เธอกล่าวว่า“นายจ้างต้องตระหนักว่าการทำงานเกินกำลัง ไม่เพียงทำให้สัตวแพทย์เสี่ยงหมดไฟ แต่ยังสะท้อนต่อคุณภาพการดูแลสัตว์ที่อาจลดลงด้วย” ]

Q2: ความเครียดจากการทำงานของสัตวแพทย์เกิดจากปัจจัยใดและมีแนวทางใดที่จะช่วยได้บ้าง?

  • ผศ..สพ.รุ่งโรจน์โอสถานนท์(อดีตประธานคณะผู้บริหารวิทยาลัยวิชาชีพการสัตวแพทย์ชำนาญการแห่งประเทศไทย) ระบุว่าความเครียดของสัตวแพทย์เกิดจาก3 ปัจจัยหลักคือ สภาพแวดล้อมการทำงานและความสัมพันธ์ในที่ทำงาน หากขาดระบบสนับสนุนหรือต้องทำงานกับทีมที่กดดันย่อมส่งผลต่อสุขภาพจิตความคาดหวังของเจ้าของสัตว์ที่มักสูงเกินจริง แต่ข้อจำกัดด้านค่าใช้จ่ายกลับสวนทาง และแรงกดดันภายในตัวสัตวแพทย์เอง ซึ่งมักตั้งมาตรฐานกับตัวเองสูง เมื่อเกิดความผิดพลาดหรือการสูญเสียสัตว์ จะโทษตัวเองและรู้สึกผิด ซึ่งสะสมจนเป็นความเครียดลึก

  • ผศ..สพ.ภูดิทมณีสาย(นายกสมาคมสัตวแพทยผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์แห่งประเทศไทย) เสริมว่า โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยมีความเครียดสูงที่สุด เพราะต้องเจอเคสที่ซับซ้อน ขณะที่สัตวแพทย์ในคลินิกแม้จะเจอแรงกดดันน้อยกว่า แต่ก็มีความกังวลเรื่องทรัพยากรและเครื่องมือที่ไม่เพียงพอ อีกสิ่งที่ต้องไม่มองข้ามคือ มิติทางอารมณ์ สัตว์เลี้ยงทุกวันนี้ถูกมองว่าเป็นสมาชิกครอบครัว นั่นหมายถึงความคาดหวังจากเจ้าของสูงมาก และสัตวแพทย์ต้องรับแรงกดดันทางอารมณ์โดยตรง

Q3: การทำงานในฟาร์มปศุสัตว์เช่นฟาร์มสุกรมีความท้าทายใดบ้าง?

  • สพ..ดร.เมตตาเมฆานนท์(นายกสมาคมสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มสุกรไทย) กล่าวว่า สัตวแพทย์ด้านปศุสัตว์ต้องเผชิญกับความท้าทายที่หลากหลาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ, ผลทางกฎหมาย(เช่น การที่ฟาร์มสุกรขนาดใหญ่ มีสุกรมากกว่า500 ตัว ต้องมีสัตวแพทย์ประจำ) และความรับผิดชอบในการยืนยันสุขภาพสัตว์ก่อนส่งโรงฆ่า ซึ่งอาจมีความเสี่ยงจากการปนเปื้อนโรคระหว่างการขนส่ง หลังจากผ่านการยืนยันจากสัตวแพทย์แล้ว
    [    * นอกจากนี้ สัตวแพทย์ปศุสัตว์ยังแบ่งเป็น2 กลุ่มคือ **หมอประจำฟาร์ม** ที่ต้องมีการกักตัวก่อนเข้าฟาร์ม และ **หมอบริษัท** ที่ต้องเดินทางเยี่ยมฟาร์มต่างจังหวัดซึ่งกินเวลาทั้งวัน โดยมีหน้าที่หลากหลายตั้งแต่การตรวจสุขภาพ, ชันสูตรซาก, ไปจนถึงการทำรายงาน ทำให้มีความรับผิดชอบสูงและเสี่ยงต่อการหมดไฟ ]

Q4: ในฐานะสภาวิชาชีพและองค์กรอิสระมีแนวทางในการร่วมมือเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของสัตวแพทย์อย่างไร?

  • ผศ..สพ.ภูดิทมณีสาย(นายกสมาคมสัตวแพทยผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์แห่งประเทศไทย) กล่าวว่า องค์กรไม่ได้มีอำนาจในการบังคับใช้ แต่จะช่วยเสริมสร้างการสนับสนุนให้เกิดการกระทำในเชิงบวก และแสดงความยินดีที่งานนี้เกิดขึ้นจากความริเริ่มของภาคเอกชนอย่างเบอริงเกอร์
    [    * **รศ****.****สพ****.****ญ****.****ดร****.****จารุวรรณ****คำพา****\(****เลขาธิการสัตวแพทยสภา****\)**ชี้ว่า สังคมยังไม่เข้าใจในบทบาทของสัตวแพทย์อย่างแท้จริง จึงมีแผนที่จะปรับภาพลักษณ์ของสัตวแพทย์ทั้งในสายสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์ เพื่อให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของวิชาชีพ นอกจากนี้ยังเน้นว่าเป้าหมายของแต่ละฝ่ายไม่เหมือนกัน ดังนั้นทุกส่วนจึงต้องร่วมมือกัน โดยเฉพาะในเรื่องการส่งเสริมให้สัตวแพทย์ปศุสัตว์มีตัวตนและเป็นที่ตระหนักถึงความสำคัญ รวมถึงการมีเวทีให้สัตวแพทย์รุ่นใหม่ได้แสดงความสามารถ ,     * **สพ****.****ญ****.****กฤติกา****ชัยสุพัฒนากุล****\(****ประธานชมรมสถานพยาบาลสัตว์แห่งประเทศไทย****\)** เน้นย้ำเรื่องปัญหาการขาดแคลนบุคลากร โดยเสนอให้เริ่มตั้งแต่กระบวนการคัดสรรนักศึกษา การจัดบูทแคมป์เพื่อปรับความคาดหวัง และการทำแผนพัฒนาเฉพาะตัวให้กับสัตวแพทย์แต่ละคน เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่าเสียงของตัวเองได้รับการได้ยิน และนำไปสู่การปรับปรุงนโยบายขององค์กรที่ช่วยให้สัตวแพทย์มีความสุขในการทำงาน ]

Q5: สัตวแพทย์ในยุคนี้ควรมีทักษะใดเพิ่มขึ้นบ้าง?

  • ผศ..สพ.ภูดิทมณีสาย(นายกสมาคมสัตวแพทยผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์แห่งประเทศไทย) กล่าวว่า เทรนด์การเลี้ยงสัตว์เปลี่ยนไป สัตว์กลายเป็นสมาชิกในครอบครัว ดังนั้นสัตวแพทย์ต้องปรับการสื่อสารให้คิดว่ากำลังพูดคุยกับผู้ที่พาสมาชิกในครอบครัวมารักษา และต้องมีความเข้าใจในสัตว์และเจ้าของมากขึ้น
    [    * **ผศ****.****น****.****สพ****.****รุ่งโรจน์****โอสถานนท์****\(****อดีตประธานคณะผู้บริหารวิทยาลัยวิชาชีพการสัตวแพทย์ชำนาญการแห่งประเทศไทย****\)** มองว่าความรู้ไม่ใช่ปัญหาที่กำลังขาด ในทุกวันนี้เราสามารถค้นคว้าจากทั้งในออนไลน์และแอปลิเคชันต่าง ๆ ได้ง่าย แต่เรื่องของจิตใจและทักษะด้าน**Soft Skill** ต่างหากที่สำคัญ เพราะปัญญาประดิษฐ์ไม่สามารถเข้ามาทดแทนได้ การมีทักษะเหล่านี้จะช่วยให้เข้าถึงใจของคนและสัตว์ได้มากขึ้น และนำไปสู่การรักษาที่ตรงจุด ,     * **สพ****.****ญ****.****ดร****.****เมตตา****เมฆานนท์****\(****นายกสมาคมสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มสุกรไทย****\)** ย้ำว่าสัตวแพทย์สายปศุสัตว์ควรมีทักษะด้านการบริหารธุรกิจ และทักษะด้านภาษาที่หลากหลาย เช่น อังกฤษ, จีน, เวียดนาม และอินโดนีเซีย–มาเลเซีย เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางปศุสัตว์ของภูมิภาค ]

Q6: ในอนาคตเราจะดึงดูดสัตวแพทย์รุ่นใหม่อย่างไร?

ผู้ร่วมเสวนาต่างเห็นพ้องว่าการดึงดูดสัตวแพทย์รุ่นใหม่เข้าสู่วิชาชีพอย่างยั่งยืนนั้นต้องเริ่มตั้งแต่ระดับรากฐาน โดยมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้:

  • สร้างความรู้ความเข้าใจตั้งแต่วัยเรียน: มีข้อเสนอแนะว่าควรสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิชาชีพนี้ให้กับนักเรียนในระดับมัธยม เพื่อให้พวกเขามีความเข้าใจที่ถูกต้องและครอบคลุมก่อนตัดสินใจเลือกเส้นทาง นอกจากนี้ ในระดับมหาวิทยาลัย ควรเน้นกระบวนการ“Recruit – Educate – Training” อย่างจริงจัง เพื่อพัฒนาบัณฑิตให้เป็นสัตวแพทย์ที่มีคุณภาพและมีความพร้อมในการทำงาน
    [    * **การเตรียมความพร้อมของครอบครัว****:** ผู้ร่วมเสวนาเน้นย้ำว่าผู้ปกครองมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเลือกอาชีพของลูก ผู้ปกครองควรใส่ใจและปรับความคิดให้พร้อมกับการเป็นสัตวแพทย์ เพราะเป็นอาชีพที่มีความรับผิดชอบสูงมาก และทุกชีวิตมีความหมาย การที่พ่อแม่เข้าใจความท้าทายของวิชาชีพนี้จะช่วยให้พวกเขาสามารถสนับสนุนและเป็นที่พึ่งให้กับลูกได้เมื่อต้องเผชิญกับความเครียดจากการเรียนและการทำงาน ,     * **โครงการเชิงรุกจากองค์กรวิชาชีพ****:** **สมาคมสัตวแพทย์ผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์แห่งประเทศไทย****\(VPAT\)** ได้ริเริ่มจัดกิจกรรมอย่าง**“****ค่ายโลกทรรศสัตวแพทย์****“** เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนมัธยมปลายได้สัมผัสกับโลกของสัตวแพทย์อย่างใกล้ชิด และยังเสนอแนวคิดที่น่าสนใจว่าควรพาผู้ปกครองเข้าร่วมค่ายด้วย เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและเป็นทีมเดียวกันในการเลือกเส้นทางวิชาชีพนี้ ,     * **พัฒนา****Soft Skill:** ทางVPAT ยังเน้นย้ำว่าการพัฒนาทักษะด้านอารมณ์และสังคม หรือ**Soft Skill** ให้กับสัตวแพทย์รุ่นใหม่เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน ทักษะเหล่านี้จะช่วยให้พวกเขาสามารถรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นกลไกสำคัญในการช่วยเหลือวงการทั้งต้นทางและปลายทาง ]

Q7: องค์กรต่างควรปรับปรุงด้านใดบ้าง?

  • ผศ..สพ.รุ่งโรจน์โอสถานนท์(อดีตประธานคณะผู้บริหารวิทยาลัยวิชาชีพการสัตวแพทย์ชำนาญการแห่งประเทศไทย) มองว่ามหาวิทยาลัยควรทำงานร่วมกับสภาวิชาชีพในเรื่องหลักสูตรตลอด6 ปี และภาคเอกชนควรเข้าใจทักษะของสัตวแพทย์จบใหม่ เพื่อลดความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผล เช่นคาดหวังว่าสัตวแพทย์ที่เพิ่งจบต้องทำการผ่าตัดใหญ่ได้ ในขณะที่ผลตอบแทนอยู่ในขั้นต้น

Q8: ในอีก5-10 ปีข้างหน้าอยากเห็นอะไรในวงการสัตวแพทย์ไทย?

ผู้ร่วมเสวนาต่างมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันอนาคตของวิชาชีพสัตวแพทย์ในทิศทางที่ยั่งยืนและก้าวไกลยิ่งขึ้น โดยสรุปวิสัยทัศน์ที่อยากเห็นในอนาคตได้ดังนี้:

  • ..สพ.ชัยยศธารรัตนะ(ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์กรุงเทพ, คณะสัตวแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) เชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการรักษาสัตว์ที่พัฒนาขึ้น ผมเชื่อว่าในปัจจุบันเราเป็นผู้นำด้านสัตวแพทยศาสตร์ในภูมิภาคนี้แล้ว แต่อยากใหมุ่งเป้าไปไกลกว่านั้น เพราะในปัจจุบันความรู้ไม่มีขอบเขตทางพรมแดน การพัฒนาทางวิชาการและการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้จึงเป็นสิ่งสำคัญ ควบคู่ไปกับการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของสัตวแพทย์
    [    * **สพ****.****ญ****.****กฤติกา****ชัยสุพัฒนากุล****\(****ประธานชมรมสถานพยาบาลสัตว์แห่งประเทศไทย****\)** ต้องการเห็นสัตวแพทย์เป็นมากกว่าผู้ประกอบ“อาชีพรับจ้างทำของ” ที่แบกรับความคาดหวังของลูกค้ามาโดยตลอด และอยากเห็นสัตวแพทย์ทำงานอย่างมีความสุขในทุกด้าน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดพลังบวกไปยังคนรอบข้าง ทั้งเจ้าของกิจการ, เจ้าของสัตว์ และตัวสัตว์เอง ]

ผู้ร่วมเสวนาคนอื่นๆ มีวิสัยทัศน์ร่วมกันว่า อยากให้สัตวแพทย์ในอนาคตเป็น“บุคลากรทางการแพทย์สายหนึ่ง” ที่ได้รับการยอมรับอย่างแท้จริงจากสังคม ไม่ใช่เป็นเพียงอาชีพที่ให้การดูแลสัตว์เลี้ยงเท่านั้น แต่เป็นอาชีพที่สำคัญในการดูแลชีวิตของทุกสิ่ง ทั้งสัตว์, คน และระบบเศรษฐกิจ การได้รับการยอมรับนี้จะนำไปสู่การสนับสนุนด้านนโยบายและเงินทุนที่เพียงพอ ซึ่งจะช่วยให้วิชาชีพมีความมั่นคงยิ่งขึ้น และอยากเห็นสัตวแพทย์ก้าวไปสู่การเป็น“สัตวแพทย์ไร้พรมแดน” ที่สามารถแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ทำให้วงการสัตวแพทย์ไทยแข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TODAY

แกร็บ ผนึก ททท. ผุดโปรเจกต์พิเศษ “เช็กอินกินเที่ยว กับ Grab Now Go Around” ดึง 5 ศิลปินชั้นนำ สร้างอาร์ตเดสติเนชั่นใหม่ กระตุ้นการท่องเที่ยว

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ซิตี้ เรียลตี้ ผนึกกำลัง สไวร์ พร็อพเพอร์ตี้ส์ เปิดวิสัยทัศน์ปั้นที่สุดแห่งคอนโดมิเนียมระดับอัลตร้าลักชัวรีใจกลางมหานครกรุงเทพ ชูสุดยอดทำเลที่ดินฟรีโฮลด์ทรงคุณค่าและหาได้ยากบนถนนวิทยุ

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

วิดีโอ

วิทเยนทร์ เผยจับตาศาลรธน.พรุ่งนี้ ลั่น! แพทองธาร ไม่เหมาะสมจะปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ต่อ เป็นภัยต่อความมั่นคงชาติ ทรยศต่อหน้าที่

BRIGHTTV.CO.TH

ไทยเตรียมสร้างรั้วแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หลักเขตที่ 49-50 ด่านคลองลึก ยกระดับมาตรการด้านความมั่นคง

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

2 กรมชลฯ ไทย–มาเลเซีย ผนึกกำลังเดินหน้าปรับปรุงปากแม่น้ำโก-ลก

The Bangkok Insight

เปิดวาร์ป หนุ่มตี๋สุดหล่อ "แฟนใหม่ จ๊ะ นงผณี" ดีกรีไม่ธรรมดา

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

ยิ่งสาวยิ่งเจอ! “อดีตพระอลงกต” ให้ยืมเงิน 100 ล้าน ซื้อ ฮ. “สมปอง” ยันยืม 13 ล้าน

สยามรัฐ

ตบสาวไทยซ้อมเสิร์ฟ-เกมรับ ก่อนดวลญี่ปุ่น ชิงแชมป์โลก

สำนักข่าวไทย Online

รัสเซียใช้โดรน-ขีปนาวุธนับร้อยถล่มเคียฟ ดับอย่างต่ำ14ราย-บาดเจ็บเกือบครึ่งร้อย

Manager Online

วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ.2568

สำนักข่าวไทย Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

ชีวิต “ดาราสัตว์” แลกความบันเทิงให้ “มนุษย์”? ความเหมาะสมอยู่ที่ไหน

TODAY

‘เปลือกมังคุดเป็นยา’ สัตวแพทย์จุฬาฯ จำลองสารเลียนแบบได้สำเร็จ รักษาการอักเสบในลำไส้สัตว์และคน

TODAY

พิษโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อหมา-แมวเร่ร่อน ทั้งถูกทิ้งและหิวโหย

TODAY
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...