‘ครช.’ ยกระเบียบข้อ18 บี้กกต.ต้องชงศาลฏีกาเพิกถอนสิทธิ์ 138 สว.เตือนการเตะถ่วงถือว่าผิดกม.
'ครช.' บี้กกต.ชงศาลฏีกาเพิกถอนสิทธิ์ 138 สว.ยกระเบียบกกต.ข้อ 18 เมื่อมีหลักฐานอันควรเชื่อว่าการเลือกตั้งทุจริต ตามสำนวนการสอบสวนDSI-กก.ชุดที่26 ปรากฏชัดแจ้งแล้วว่ามีการทุจริตกกต.ต้องทำหน้าที่ยื่นศาลฎีกา การตั้งกก.สอบสวน จึงเป็นการกระทำที่เตะถ่วงและผิดกฎหมาย
29 ส.ค. 2568 - นายพลภาขุน เศรษฐญาบดี ตัวแทนผู้ประสานงานคณะราษฎรไทยแห่งชาติ (ครช.) อดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา(สว.)กลุ่ม 17 จ. นครปฐม ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เรื่อง ยื่นชี้มูลเพิ่มเติมว่าทำผิดกฎหมาย กรณียื่นร้องทุกข์ กล่าวโทษ ชี้มูล เรียกร้องให้ทำตามกฎหมายในทันที และขอรายงานการสืบสวนตาม ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน ไต่สวน ฯ
โดยหนังสือมีใจความว่า ตามที่ข้าพเจ้านายพลภาขุน เศรษฐญาบดี ตัวแทนผู้ประสานงาน คณะราษฎรไทยแห่งชาติ ครช. องค์กรตามรัฐธรรมนูญมาตรา 42 ในฐานะประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้เสียภาษี ผู้มีส่วนได้เสียสำคัญ จากการจัดการ การเลือกตั้ง ผู้สมัคร สว 17 นครปฐม ฯ/ได้เคยยื่น นส.ตามกฎหมายต่อท่านและส่วนเกี่ยวข้องแล้วหลายวาระตามอ้างถึง 1-5
โดยข้าฯได้รับ นส.ตามอ้างถึง 6 โดย ตอบว่า ข้าฯเห็นว่า ท่าน และส่วนที่เกี่ยวข้อง มีเจตนาอ้างกฎหมายแนวปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย โดยมีเจตนาพิเศษ โดยขอบรรยายชี้มูลดังนี้ ข้อเท็จจริง ยืนตามอ้างถึง 1 ข้อกฎหมาย รธน.ม 3 53 63 226 พรป.สว ม 62ระเบียบ กกต.ว่าด้วย การสืบสวน ไต่สวน ฯ
หมวด๑ บททั่วไป ส่วนที่ ๔ หน้าที่และอํานาจในการสืบสวนหรือไต่สวน ฯ ข้อ ๑๘ เมื่อมีการยื่นคําร้อง หรือมีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏต่อคณะกรรมการ หรือกรรมการ ว่ามีการกระทําใดอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และพรรคการเมือง หรือจะมีผลให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือเป็นไปโดยมิชอบ ด้วยกฎหมายให้ดําเนินการตามระเบียบนี้
หมวด ๔ การพิจารณาและวินิจฉัย ส่วนที่ ๓ การพิจารณาและวินิจฉัยชี้ขาดของคณะกรรมการ ข้อ ๘๕ ก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง เมื่อมีการสั่งระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้สมัครผู้ใด เป็นการชั่วคราว ให้คณะกรรมการยื่นคําร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น
เมื่อประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้สมัครหรือผู้ใดกระทําการทุจริต ในการเลือกตั้ง หรือการเลือก หรือรู้เห็นกับการกระทําของบุคคลอื่น ให้คณะกรรมการยื่นคําร้องต่อศาลฎีกา เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งฯ ให้นําความในวรรคหนึ่ง และวรรคสอง มาใช้บังคับกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น โดยอนุโลม แต่การยื่นคําร้องให้ยื่นต่อศาลอุทธรณ์
ข้อชี้มูลยกประเด็นขึ้นพิจารณาการใช้อำนาจตามระเบียบกกต.ว่าด้วยการสืบสวน มีระบุชัดตาม ม 18 1 การยื่นคําร้อง 2 หรือมีเหตุอันควรสงสัย 3 หรือความปรากฏ มีมีเพียง 3 กรณีเท่านั้น โดยที่กรณี ที่ข้าฯยื่นร้อง เป็นกรณีที่ “ยื่นร้อง ทุกข์ กล่าวโทษ ชี้มูล เรียกร้องให้ทำตามกฎหมาย ในทันที “โดยชี้มูลว่า มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีการทุจริตในการเลือกสว. การตีความกฎหมาย ไม่มีกำหนดให้ กกต.ใช้ดุลพินิจ ไม่มีถ้อยคำตามบัญญัติ ระบุว่า เมื่อ กกต.” เห็นว่า / ก็ได้” การตีความข้อเท็จจริงตามปรากฏตามจริง คือ เป็นกรณีที่dsi คกก.สส.26 ได้มี สำนวนสอบสวน ปรากฏชัดแล้วว่า มีหลักฐานอันควรเชื่อ ว่า กลุ่มสว. ทุจริต จริงชัดแจ้ง
ฉะนั้น คกก.กกต.ต้องปฏิบัติหน้าที่โดยตำแหน่ง ต้องมีมติตาม ข้อ 85 วรรคสอง “เมื่อประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้สมัครหรือผู้ใดกระทําการทุจริต ในการเลือกตั้ง หรือการเลือก หรือรู้เห็นกับการกระทําของบุคคลอื่น ให้คณะกรรมการยื่นคําร้องต่อศาลฎีกา เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับ” ให้เป็นไปตาม รธน.ม 226 พรป.สว. ม62 ในทันที ไม่ใช่กระทำการเตะถ่วง โดยมีเจตนาให้ สว.หุ่นเชิด ทำหน้าที่ สว.เถื่อน เช่นนี้
เหตุสำคัญในกรณีนี้ โดยที่ความสำคัญของเรื่องเป็นเรื่องความมั่นคงของรัฐ ที่สร้างผลกระทบต่อการปกครอง ต่อปวงชนชาวไทย ที่สำคัญ โดยมีหลักฐานอันควรเชื่อว่า การเลือกสว.ล่าสุดทุจริต อย่างมโหฬาร โดยทำเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำ ที่มีการวางแผนมาตั้งแต่ต้นก่อนเลือกตั้ง มากกว่า 2ปี ประกอบด้วย กลุ่มสว. ที่ได้รับเลือก กลุ่มขบวนการฮั๊ว จนท.รัฐ/นกม./กรรมการพรรคฯเจ้าพนักงานรัฐ องค์กรอิสระ ฯ โดยได้ปรากฏว่ามีคำวินิจฉัยนอกประเด็นฯบิดเบือนข้อเท็จจริง ใช้ดุลพินิจตามอำเภอใจ โดยน่าจะมี “การเคลียดีล” ของส่วนที่เกี่ยวข้องโดยผู้มีอิทธิพลคับแผ่นดินและพรรคการเมือง ร่วมแบ่งหน้าที่กันทำ ยึดอำนาจเบ็ดเสร็จ ปรากฏชัดแล้ว
ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น อาศัย รธน. และกฎหมายที่คุ้มครองให้สิทธิข้าฯ ทุกฉบับ จึงให้ท่าน และส่วนที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการ ทำหน้าที่ตาม ม 62 ให้ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิ์ฯ ของผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 138+2 ในทันที โดยเร่งด่วนใน 15 วัน ย้ำยืนยันด้วยข้อกฎหมายปรากฏชัดข้างต้น
หากพ้นกำหนด โดยข้าฯและกลุ่ม ที่มีนักฎหมายระดับประเทศ อดีตอัยการทำคดีมากกว่า 50000 คดี จะนำเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยตำแหน่งของท่านที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย โดยมีเจตนาพิเศษ สมรู้ร่วม เพิกเฉย จงใจ นำเข้าสู่การดำเนินคดีตามกฎหมาย ในทุกมิติ ท่านจะเห็นการสำคัญเกิดขึ้นและเป็นประวัติศาสตร์ ที่ท่านไม่อาจลืม
ข้อ2 ขอรายงานการสืบสวนตาม ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน ไต่สวน ฯตามที่ข้าฯได้รับหนังสือ ตามอ้างถึง 7โดยที่ข้าฯอ่าน ตามระเบียบฯกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว มีกระบวนการบัญญัติไว้ชัดแจ้งขอให้ท่านและส่วนที่เกี่ยวข้อง ส่ง รายงานกระบวนพิจารณาตาม ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสอบสวนฯ โดยมี รายนาม จนท.เจ้าพนักงาน กรรมการที่เกี่ยวข้อง ที่กระทำการใดๆ ที่จะแสดงว่าท่านฯ ทำตามกฎหมาย โดยขอให้ส่งมาทางอีเมลที่แจ้งด้านล่าง
ทั้งนี้หากได้ผลประการใด /หรือ ต้องการคำชี้แจงใด พยานหลักฐานเพิ่มเติมใด โปรดแจ้งเป็นการด่วน และข้าฯขอมีส่วนร่วม/ขอเข้าประชุม เพื่อนำชี้ประเด็นสำคัญใดๆ ในที่ประชุม ตาม รธน.ม 25 43 63 78 ด้วย
จึงนำเรียนให้เร่งดำเนินการโดยพลัน และ โปรดแจ้งความคืบหน้า ให้ทันตามกำหนด ถือเอกสารฉบับนี้เป็นหลักฐานร้องทุกข์ มีข้อเท็จจริง/ข้อกฎหมาย/ข้อพิจารณา ที่ปรากฏมีสภาพอันร้าย แรง และเรียกร้องให้ เจ้าพนักงานของรัฐ องค์กรอิสระที่มีหน้าที่ตามกฎหมาย ให้ทำหน้าที่ตามกฎหมาย โดยชอบแล้ว