โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

หุ้นNvidiaลด5%แม้รายได้โต เหตุติดขัดส่งชิปไปจีน โบรกฯมองเป็นโอกาสซื้อ

Amarin TV

เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา
หุ้น Nvidia ร่วง 5% แม้รายได้โต เหตุติดขัดส่งชิปไปจีน โบรกฯ มองเป็นโอกาสช้อนซื้อ

หุ้น Nvidia ร่วงกว่า 5% ในการซื้อขายนอกเวลาตลาด แม้รายงานรายได้ไตรมาสล่าสุดโตแรง เหตุเพราะการส่งออกชิป H20 ไปจีนสะดุดจากแรงกดดันทั้งฝั่งสหรัฐฯ และจีน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายสำนักกลับมองว่าการปรับฐานครั้งนี้คือ “จังหวะทอง” ให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นผู้นำเทคโนโลยี AI รายนี้

ในวันนี้ (28 ส.ค. 68) ราคาหุ้นของ Nvidia ยักษ์ใหญ่เซมิคอนดักเตอร์สัญชาติสหรัฐฯ ปิดทรงตัวที่ 181.6 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ร่วงลงไปต่ำสุดถึง 172.45 ดอลลาร์ แม้เพิ่งประกาศว่าในไตรมาสล่าสุดรายได้รวมของบริษัทเติบโตขึ้นถึง 56% แตะ 4.67 หมื่นล้านดอลลาร์ จาก 3 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 1.05 ดอลลาร์ สูงกว่าประมาณการที่ 1.01 ดอลลาร์ ขณะที่รายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 59% สู่ 2.64 หมื่นล้านดอลลาร์จาก 1.66 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า

แม้ตัวเลขผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นจะตอกย้ำความต้องการโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ที่ยังคงแข็งแรง แต่ราคาหุ้นของ Nvidia กลับถูกกดดัน เนื่องจากรายได้จากธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ออกมาต่ำกว่าที่นักลงทุนคาดเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน อีกทั้งรายได้จากจีนรวมฮ่องกงยังหดตัวถึง 24% เหลือ 2.8 พันล้านดอลลาร์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการอนุมัติส่งออกชิป H20

ในไตรมาสล่าสุด Nvidia ต้องบันทึกการด้อยค่ามูลค่า 4.5 พันล้านดอลลาร์จากสต็อกชิป H20 หลังไม่สามารถจำหน่ายชิปที่ออกแบบมาเพื่อรองรับตลาดจีนได้เลย ต่างจากไตรมาสก่อนซึ่งสร้างรายได้สูงถึง 4.6 พันล้านดอลลาร์จากผลิตภัณฑ์เดียวกัน

ก่อนหน้านี้ Jensen Huang ซีอีโอของบริษัท เคยแสดงความคาดหวังว่าหลังการพบปะกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump จะได้รับสัญญาณไฟเขียวให้กลับมาส่งออกชิป H20 ไปยังจีน แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่เกิดขึ้น อีกทั้งรัฐบาลสหรัฐฯ ยังเรียกร้องส่วนแบ่งรายได้จาก H20 ถึง 15% โดยไม่มีข้อบังคับที่เป็นลายลักษณ์อักษรรองรับ ขณะเดียวกันทางการจีนก็เพิ่มแรงกดดันด้วยการตั้งคำถามด้านความปลอดภัย โดยระบุว่า H20 อาจมี “ช่องโหว่ที่ฝังอยู่” แม้ Nvidia จะยืนยันหนักแน่นว่า GPU ของบริษัทไม่มี back door หรือกลไกแฝงใด ๆ ก็ตาม

สำหรับแนวโน้มในอนาคต Nvidia คาดว่ารายได้ไตรมาสถัดไปจะอยู่ราว 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์ บวกลบ 2% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ LSEG ประเมินไว้ที่ 53.1 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ การคาดการณ์ยังไม่รวมรายได้จากการส่งออกชิป H20 ไปจีน หากสามารถกลับมาส่งออกได้จริง บริษัทอาจมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกถึง 8 พันล้านดอลลาร์ภายในไตรมาสเดียว

Nvidia ชะงัก แต่คู่แข่งจีนพุ่งแรง

ขณะที่ Nvidia ต้องเผชิญแรงบีบจากสองทิศทาง ทั้งจากสหรัฐฯ ที่เข้มงวดด้านกฎควบคุมการส่งออกชิปขั้นสูง และจากจีนที่ผลักดันนโยบายพึ่งพาตนเองในเทคโนโลยี บริษัทเทคโนโลยีจีนกลับฉวยจังหวะนี้เร่งขยายอิทธิพลในตลาดโลก ดัชนีหุ้นเซมิคอนดักเตอร์จีนของ Wind พุ่งขึ้นกว่า 32% ตั้งแต่ต้นปี ทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยมี Cambricon Technologies และ Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) เป็นสองเสาหลักที่โดดเด่นที่สุด

Cambricon ซึ่งถูกขนานนามว่า “Nvidia ตัวน้อยของจีน” รายงานว่ารายได้ครึ่งปีแรกพุ่งขึ้นถึง 4,348% จากฐานที่เล็กในปีก่อน แต่สะท้อนถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดด นักลงทุนจำนวนมากมองว่าบริษัทนี้กำลังก้าวสู่การเป็นผู้เล่นที่สามารถพัฒนา GPU แข่งขันกับ Nvidia ได้โดยตรง โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลจีนให้การสนับสนุนเต็มที่ ด้าน SMIC ซึ่งเป็นโรงหล่อชิปรายใหญ่สุดของจีน กำลังได้รับคำสั่งผลิตเพิ่มขึ้นมหาศาล ทั้งจากบริษัทเทคโนโลยีจีนเองและจากความต้องการในตลาดโลกที่ต้องการลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานจากตะวันตก

ในเชิงนโยบาย รัฐบาลจีนก็เดินหน้าสนับสนุนบริษัทในประเทศเต็มกำลัง ล่าสุดคณะรัฐมนตรีจีน (State Council) เพิ่งประกาศแนวทางพัฒนา AI แห่งชาติ โดยเน้นการเพิ่มศักยภาพด้านการประมวลผลและยกระดับการผลิตชิป AI ภายในประเทศ ข้อมูลจาก Financial Times ระบุว่าจีนตั้งเป้าจะเพิ่มกำลังการผลิตโปรเซสเซอร์ AI ถึงสามเท่าในปี 2026 พร้อมทั้งจัดสรรเงินทุนจากกองทุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์แห่งชาติ (Big Fund) เพื่ออัดฉีดให้กับผู้ผลิตท้องถิ่นโดยตรง การเคลื่อนไหวเหล่านี้สร้างแรงหนุนมหาศาลให้บริษัทจีน ขณะเดียวกัน Nvidia เองก็ยอมรับในรายงานการเงินว่ารัฐบาลจีนมีแนวโน้มจะผลักดันให้ลูกค้าหันไปซื้อจากผู้ผลิตท้องถิ่นมากขึ้น ซึ่งย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้และส่วนแบ่งตลาดในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้การแข่งขันจะรุนแรง Nvidia ยังคงรักษาความเป็นผู้นำในหลายด้าน ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์สร้างรายได้ 41.1 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 56% จากปีก่อน แม้ต่ำกว่าที่ StreetAccount ประเมินเล็กน้อย รายได้จาก GPU หรือ “compute” อยู่ที่ 33.8 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 1% จากไตรมาสก่อนเพราะสูญเสียรายได้จาก H20 ราว 4 พันล้านดอลลาร์ แต่รายได้จากอุปกรณ์เครือข่ายกลับพุ่งเกือบสองเท่าเป็น 7.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ยังเร่งตัวต่อเนื่อง

ชิปรุ่นใหม่ “Blackwell” ยังเป็นจุดขายหลัก โดยยอดขายเพิ่มขึ้น 17% จากไตรมาสก่อน และเพียงเดือนพฤษภาคมก็มียอดขายรวมแล้วถึง 27 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 70% ของรายได้ดาต้าเซ็นเตอร์ ความต้องการจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านคลาวด์อย่าง Meta, Alphabet, Microsoft และ Amazon ยังคงแข็งแกร่ง โดยต่างทุ่มงบลงทุนหลายหมื่นล้านดอลลาร์ต่อไตรมาสเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ขั้นสูง

ธุรกิจอื่นของ Nvidia ก็ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจเกมทำรายได้ 4.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 49% จากปีก่อน โดย GPU เกมถูกปรับแต่งให้สามารถรองรับโมเดลของ OpenAI บนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ส่วนธุรกิจหุ่นยนต์ทำรายได้ 586 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 69% แม้สัดส่วนยังเล็ก แต่ถูกมองว่าเป็น “ตลาดอนาคต” ที่อาจกลายเป็นเสาหลักใหม่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ในด้านการเงิน Nvidia เดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน ประกาศอนุมัติแผนซื้อหุ้นคืนเพิ่มเติมอีก 60 พันล้านดอลลาร์โดยไม่มีวันหมดอายุ และในไตรมาสล่าสุดได้ซื้อหุ้นคืนไปแล้ว 9.7 พันล้านดอลลาร์ ส่งสัญญาณว่าบริษัทเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของกระแสเงินสดและศักยภาพระยะยาว

ศักยภาพเหล่านี้ทำให้นักวิเคราะห์หลายสำนักยังมองบวกต่อ Nvidia โดย Wedbush Securities ระบุว่าการร่วงลงของหุ้นในช่วงนี้เป็น “โอกาสซื้อที่ชัดเจน” เพราะ Nvidia ยังคงเป็นบริษัทไม่กี่รายที่มีเทคโนโลยีระดับโลกขับเคลื่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ ปัจจุบัน Nvidia มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลก อยู่ที่ 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ และ Wedbush คาดว่าจะขยับแตะ 5 ล้านล้านดอลลาร์ได้ภายในต้นปี 2026 ขณะที่นักลงทุนบางส่วนเชื่อว่าหากความต้องการ AI ยังคงเร่งตัว ปัจจัยภายนอกที่กดดันอาจไม่สามารถสั่นคลอนสถานะผู้นำของ Nvidia ได้ง่ายนัก

Nvidia หุ้นร่วงเพราะความคาดหวังสูง แต่ INVX มองเป็นโอกาสสะสม

ด้านบริษัทหลักทรัพย์อินโนเวสท์เอกซ์ ระบุว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 ปีการเงิน 2026 (F2Q26) ของ Nvidia ที่ออกมานั้นถือว่า “In line” หรือสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ โดยรายได้รวมอยู่ที่ 4.67 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 56% YoY ขณะที่กำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 1.05 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 52% YoY ภาพรวมการเติบโตยังคงโดดเด่นกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมอย่างมาก โดยมีแรงขับเคลื่อนจากธุรกิจหลักเกือบทุกกลุ่ม

Data Center ยังคงเป็นรายได้หลักของบริษัท โต 56% YoY ขณะที่ธุรกิจ Gaming ก็เติบโตถึง 49% YoY ซึ่งสะท้อนการฟื้นตัวของตลาดเกมควบคู่ไปกับดีมานด์ใหม่ ขณะเดียวกัน ชิปตระกูล Blackwell ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของระบบ AI ยังคงมีความต้องการสูง โตต่อเนื่อง 17% QoQ สะท้อนว่ากระแส AI ยังไม่ชะลอตัว นอกจากนี้ Nvidia ยังให้แนวโน้มว่ารายได้ไตรมาสถัดไป (F3Q26) จะเติบโต 54% YoY สู่ 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่ได้รวมยอดขายชิป H20 ในจีนเอาไว้

อย่างไรก็ตามหุ้น Nvidia กลับปรับตัวลงราว 3% ในการซื้อขายนอกเวลาราชการ (After Hour) ปัจจัยหลักมาจาก ความคาดหวังของตลาดที่สูงเกินจริง นักลงทุนจำนวนมากนำผลประกอบการไปเปรียบเทียบกับประมาณการระดับบนสุด (upper bound) ของนักวิเคราะห์ ทำให้ตัวเลข Data Center และแนวโน้ม F3Q26 ดู “ต่ำกว่าคาด” แม้ในภาพรวมยังเติบโตแข็งแกร่ง

ในด้านบวก INVX มองว่า บริษัทแสดงให้เห็นถึง ศักยภาพการเติบโตเหนืออุตสาหกรรมในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะ AI ที่ยังเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก Blackwell ทำผลงานโดดเด่น และบริษัทมั่นใจว่าตลาดจีนยังสามารถเติบโตเฉลี่ยถึง 50% ต่อปี แม้ไม่มีการขายชิป H20 เนื่องจาก Nvidia ได้เปิดตัวชิปใหม่ B30A เพื่อตอบสนองตลาดและเลี่ยงข้อจำกัดด้านกฎระเบียบ อีกทั้งยังมี Upside จากตลาดใหม่ เช่น โครงการ Stargate ที่อาบูดาบี ซึ่งคาดว่าจะใช้ชิปมากกว่าสหรัฐ (ซึ่งเองก็มีการใช้ GB200 ประมาณ 400,000 ชิ้น คิดเป็นมูลค่า 40 พันล้านดอลลาร์)

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือแผนการพัฒนาแพลตฟอร์ม AI รุ่นถัดไป “Rubin” ที่ประกอบด้วยชิป 6 ตัว ปัจจุบันเริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตทดลอง (pilot manufacturing) แล้ว และคาดว่าจะเข้าสู่การผลิตเชิงพาณิชย์จำนวนมากในช่วงกลางปี 2026 สิ่งนี้ทำให้ Nvidia ไม่ได้หยุดอยู่ที่ Blackwell แต่เดินหน้าต่อยอดเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันรายได้ก็มีโอกาสกระจายตัวมากขึ้น จากเดิมที่พึ่งพา Hyperscaler รายใหญ่สองรายซึ่งคิดเป็น 39% ของรายได้รวม แต่บริษัทเชื่อว่าสัดส่วนดังกล่าวจะค่อยๆ ลดลงเมื่อ Blackwell และ Rubin แพร่หลาย และเมื่อลูกค้าจากภาครัฐและองค์กรใหม่ๆ เข้ามาเสริมฐานรายได้

อย่างไรก็ดี ปัจจัยลบที่ต้องจับตาคือ ความไม่แน่นอนของตลาดจีน เนื่องจาก Nvidia ไม่ได้ขาย H20 ใน F2Q26 และมีแนวโน้มว่าจะไม่สามารถขายได้ใน F3Q26 เพราะกฎระเบียบของทั้งสหรัฐและจีนที่ยังเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ขณะเดียวกันบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (OpEx) ของปี 2026 มาอยู่ในช่วง สูงกว่า 30% (high-30% range) จากเดิมที่คาดไว้ระดับ mid-30% เนื่องจากการเร่งลงทุนในผลิตภัณฑ์ใหม่ แม้จะกดดันอัตรากำไรระยะสั้น แต่ INVX มองว่านี่คือการลงทุนเพื่อการเติบโตในอนาคต

ในมุมมองด้านมูลค่า (Valuation) Nvidia ปัจจุบันซื้อขายที่ P/E 32.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 49 เท่า ขณะที่กำไรสุทธิปี FY26 คาดว่าจะเติบโตได้สูงถึง 48% ซึ่งถือว่ามูลค่าหุ้นยังสมเหตุสมผล ด้วยปัจจัยบวกเหล่านี้ INVX ประเมินว่าการย่อตัวของราคาหุ้นในรอบนี้เป็น โอกาสสะสมเข้าลงทุน โดยให้กรอบแนวรับที่ 167-172 ดอลลาร์ และแนวต้านที่ 184.5-192 ดอลลาร์

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Amarin TV

หิวดึก...เลือกกินอะไรดี? เมนูไม่ลับสำหรับคนควบคุมน้ำหนักที่ดีต่อสุขภาพ

35 นาทีที่แล้ว

พบเพิ่มอีก2 โคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง ดับแล้ว6 ยังสูญหายอีก3

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ตามล่าสาวผมสั้น ฉกทองคำกว่า 100 บาท เงินสดกว่าล้านในกุฎิเจ้าอาวาส

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

LINE MAN Wongnai ซื้อกิจการ JERA Cloud บุกตลาดความงาม-สุขภาพ

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

‘ดาวโจนส์’ ขึ้นเล็กน้อย 17.26 จุด ตลาดระวังความเสี่ยง ก่อนเปิดข้อมูล ‘ดัชนี PCE’

The Bangkok Insight

Night Recap Gold Spot 28-08-2568

ฮั่วเซ่งเฮง

Night Recap Gold Futures 28-08-2568

ฮั่วเซ่งเฮง

[Vision Exclusive] คดีนายกชี้ชะตาหุ้นไทย ADVANC–GULF เด่น

หุ้นวิชั่น

BLC รายได้ชน 3 พันล. เป้าแบรนด์อันดับหนึ่ง

หุ้นวิชั่น

ถอดรหัสจากถ้อยแถลงของพาวเวลล์ ที่ Jackson Hole เปิดทาง Fed ลดดอกเบี้ยเร็วสุดกันยายนนี้ ตลาดโลกถามต่อ ราคาทองจะไปไกลแค่ไหน?

ฮั่วเซ่งเฮง

OSP พัฒนานวัตกรรมเครื่องดื่มลดน้ำตาลต่ำกว่า 6% สร้างมาตรฐานใหม่

ทันหุ้น

SC Asset กางแผนขึ้นแท่น เจ้าตลาดบ้านโซนเหนือกรุงเทพฯ วางเป้าพัฒนาสะสม 20 โครงการ 2.7 หมื่นล้าน

The Better

ข่าวและบทความยอดนิยม

ครึ่งหลังปี68 เศรษฐกิจไทยซึม เสี่ยงโดนภาษี 40% พึ่งวัตถุดิบต่างชาติสูง

Amarin TV

จีนประกาศหนุนอินเดีย‘ยืนหยัด’สู้ภาษีทรัมป์กระชับสัมพันธ์สองยักษ์เอเชีย

Amarin TV

S&Pชี้ภาษีทรัมป์เร่งจีนผงาดผู้นำการค้าโลก หนุนจีนผูกมิตรปท.กำลังพัฒนา

Amarin TV
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...