โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

อาการ ‘ปวดขมับ ท้ายทอย’ คือสัญญาณเตือน โรคไตจริงหรือไม่ ?

เดลินิวส์

อัพเดต 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
รู้จักสังเกตอาการ เมื่อปวดขมับหรือท้ายทอยแบบไหนถึงจะเข้าข่าย แล้วอาการ จะเป็นอย่างไร ?

วันนี้ “เดลินิวส์” นำบทความจากเพจรามาแชนแนล โดย รศ. นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ สาขาวิชาโรคไต ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงอาการ ปวดขมับ ท้ายทอย คือสัญญาณเตือน โรคไต ! จริงหรือไม่ ?

ใครที่อยู่ ๆ ก็มีอาการ ปวดขมับ ท้ายทอยเหมือนโดนบีบขมับ หลายคนอาจจะคิดว่าก็เป็นอาการปวดหัวธรรมดาทั่วไป แต่รู้หรือไม่อาการแบบนี้อาจเสี่ยงเป็น โรคไต ได้ เนื่องจากอาการ ปวดศีรษะ เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้บ่อยมากที่สุดในปัจจุบัน และสาเหตุของอาการก็มีหลากหลาย ดังนั้นหากมีอาการปวดขั้นรุนแรงต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน จำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยพร้อมการรักษาอย่างถูกวิธีโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ทั้งนี้ ยังมีสัญญาณเตือนของอาการปวดศีรษะที่ต้องเฝ้าระวัง หากมีอาการ ปวดขมับ ท้ายทอย อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคไตได้เช่นกัน

โรคไต เกิดจากอะไร ?

โรคไต เกิดจากภาวะของไตที่ทำงานผิดปกติ สามารถเกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่โดยส่วนใหญ่มักพบในวัยผู้สูงอายุ ซึ่งสาเหตุหลักของการเกิดโรค คือ การรับประทานอาหารรสจัด อย่างรสเค็มในปริมาณมากเป็นระยะเวลานาน ๆ เป็นความดันโลหิตสูง นอกจากนี้อาจเกิดจากสาเหตุภายนอกร่วมด้วย การดําเนินชีวิตประจําวันด้วยพฤติกรรมเดิม ๆ ไม่ออกกำลังกาย กินยาที่เป็นพิษต่อไต สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง พันธุกรรมที่ผิดปกติ และโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน เพราะฉะนั้น โรคไตถือว่าเป็นโรคหนึ่งที่ใครก็ไม่อยากเป็น มาดูกันว่ามีพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบไหนบ้างที่ทำให้เสี่ยงเป็นโรคไตโดยที่เราไม่รู้ตัว – สัญญาณเตือนโรคไต พฤติกรรมเสี่ยงที่ควรเลี่ยง !

5 สัญญาณอันตราย เมื่อ โรคไต ถามหา สัญญาณเตือนเหล่านี้ เบื้องต้นอาจเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าอาจเสี่ยงเป็นโรคไตควรเฝ้าสังเกตอาการเพื่อสามารถเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที

  • อาการ ปวดศีรษะ ในคนที่อายุน้อย

โดยปกติในคนที่มีอายุน้อยจะค่อนข้างมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง เนื่องจากการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและระบบการทำงานของร่างกายในส่วนอื่น ๆ ยังมีประสิทธิภาพที่ดีอยู่ แต่หากมีพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันที่บกพร่องและไม่ได้ประสิทธิภาพก็สามารถก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยหรือเป็นโรคได้ง่ายขึ้น ดังนั้น หากยังอายุน้อย แต่มีอาการปวดศีรษะอยู่บ่อยครั้ง ทั้งที่ใช้ชีวิตประจำวันปกติและไม่ได้เป็นอาการที่เกี่ยวข้องกับสาเหตุของการเกิดโรคอื่น ๆ ให้เฝ้าระวังทันทีว่าอาจเป็นสัญญาณแรกเริ่มของการเป็นโรคไตได้

  • ปวดศีรษะบริเวณขมับหรือท้ายทอย

อาการปวดหัวแบบต่าง ๆ มีสาเหตุของการเกิดที่แตกต่างกันออกไป แต่หากตัวเองหรือคนใกล้ตัวมีอาการปวดศีรษะในบริเวณขมับหรือท้ายทอยบ่อย ๆ ปวดแบบตุบ ๆ นั่นอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเข้าข่ายการเป็นโรคไตได้เช่นกัน

  • ความดันเลือดสูงผิดปกติ

ผู้ป่วยโรคไต ส่วนใหญ่จะมีความดันเลือดสูงมากกว่าปกติ ซึ่งคนที่มีความดันเลือดสูงจะไม่แสดงอาการ แต่ในบางรายพบว่ามีอาการปวดหัวและเวียนหัวร่วมด้วย ดังนั้น ควรที่จะพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ และวัดความดันเลือดว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่ เพราะนอกจากจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคไตยังเสี่ยงอันตรายต่อการเกิดโรคร้ายแรงอื่น ๆ ได้อีกด้วย

  • ปัสสาวะผิดปกติ

อาการของการปัสสาวะที่ผิดปกติ เช่น เมื่อปัสสาวะแล้วมีฟองมากเป็นพิเศษ หรือสีของปัสสาวะผิดปกติ ให้วินิจฉัยว่าระบบการทำงานของร่างกายผิดปกติ ซึ่งเป็นสัญญาณของการเกิดโรคได้

  • ร่างกายบวมและผมร่วง

อาการของผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตและสามารถสังเกตได้ชัดเจนมากที่สุดคือ ร่างกายมีอาการบวมผิดปกติโดยเฉพาะบริเวณใบหน้า หลังเท้า ตามมาด้วยสัญญาณผมร่วงมากเกินไป หากเริ่มสังเกตว่าร่างกายมีอาการเหล่านี้บ่อยครั้งและกินระยะเวลานานควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยทันที

สำหรับใครที่มีความสงสัยและกังวลว่าโรคไตกำลังจะมาเยือน สามารถเช็คความเสี่ยงด้วยตัวเองได้ที่แบบสอบถามนี้ – ติดกินเค็ม รสจัด เช็กด่วนคุณเสี่ยงเป็นโรคไตหรือยัง ?

อาการของ โรคไต เป็นอย่างไร

โรคไตทำให้เกิดการเสียสมดุลของเกลือ เมื่อคนไข้กินเค็มจะเกิดอาการบวมที่ขา กดบุ๋ม ปัสสาวะมาก ปัสสาวะเปลี่ยนสี ปัสสาวะมีฟองมาก ปัสสาวะมีสีแดง อ่อนเพลีย ไม่มีแรง คลื่นไส้ อาเจียน ความดันเลือดสูง โลหิตจาง ผมร่วง ผิวแห้ง หากเป็นโรคไตระยะสุดท้าย ไตจะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ คนไข้จะเกิดอาการอวัยวะล้มเหลว ชัก น้ำท่วมปอด หัวใจวาย เสียชีวิตได้ สำหรับ โรคไต อาการ สามารถแบ่งออกได้ 2 ระยะหลัก ๆ ได้แก่

[            * **โรคไตอาการเริ่มต้น** อาการของผู้ป่วยโรคไตระยะแรก มักมีอาการ ดังนี้ ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีแรง เหนื่อยง่ายมากกว่าปกติ บางรายอาจมีอาการน้ำหนักลดลงผิดปกติ ผิวหนังแห้งซีดและมีจ้ำเลือดตามร่างกาย เบื่ออาหาร และคลื่นไส้อาเจียน มือเท้าชา ปวดบริเวณบั้นเอว ปวดศีรษะบริเวณขมับหรือท้ายทอย ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ ,             * **โรคไตระยะสุดท้าย** อาการของผู้ป่วยโรคไตระยะสุดท้ายมีอาการ ดังนี้ ปัสสาวะลดน้อยลงหรือแทบไม่ปัสสาวะเลย เลือดออกหรือเป็นแผลในกระเพาะอาหาร หายใจเองลำบาก กล้ามเนื้อหัวใจเสื่อมและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ปอดบวมและไอหรืออาเจียนเป็นเลือด มีอาการชักหรือหมดสติบ่อยครั้ง กระดูกแตกหักได้ง่าย เลือดหยุดไหลยาก เนื่องจากการทำงานของระบบเลือดผิดปกติ มีอาการติดเชื้อหรือเกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่าย ]

โรคอื่น ๆ ที่เป็นสาเหตุของโรคไต

โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคเกาต์ โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) โรคทางพันธุกรรม โรคถุงน้ำในไต รวมทั้งการกินยา เช่น ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบบางชนิดที่มีพิษต่อไต โดยเฉพาะยาแก้ปวดข้อเอ็นต่าง ๆ

ปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงโรคไต

  • กินอาหารเค็มจัด อาหารหวานจัด

อาหารเค็มทำให้เกิดความดันเลือดสูง ไตทำงานหนัก ในระยะยาวทำให้เกิดโรคไตเสื่อมเรื้อรังได้ เช่น อาหารที่มีผงชูรส เครื่องปรุงต่าง ๆ พริกน้ำปลา น้ำจิ้ม แจ่ว น้ำซุป บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมกรุบกรอบ อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน ส่วนอาหารหวานอาจทำให้เกิดโรคเบาหวาน ส่งผลให้หลอดเลือดและไตเสื่อมได้

  • ไม่ออกกำลังกาย

คนที่มีน้ำหนักเกินจะมีความดันเลือดสูง ไตจึงทำงานหนัก

  • สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

ทำให้เกิดความดันเลือดสูงและหลอดเลือดเสื่อมได้

  • กินยาที่มีพิษต่อไต

ยาบางชนิดไม่ว่าจะเป็นยาไทย ยาจีน ยาฝรั่ง ยาชุด ยาหม้อ อาหารเสริม อาจมีพิษต่อไตได้ ฉะนั้น คนไข้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการกินยาต่อเนื่องเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคไตในระยะยาว

วิธีดูแลตัวเองเบื้องต้นสำหรับผู้ป่วย โรคไต

โรคไตหากเป็นมาจนถึงระยะเรื้อรังแล้วอาจไม่สามารถทำการรักษาให้หายขาดจากโรคได้แต่สามารถประคองและรักษาให้อาการดีขึ้นได้ ขึ้นอยู่ที่คนไข้ดูแล และรักษาสุขภาพร่างกายของตัวเองได้ดีแค่ไหน ทั้งนี้วิธีการดูแลตัวเองหรือคนรอบข้างเบื้องต้นสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคไต สามารถทำตามได้ ดังนี้

  • ใส่ใจในเรื่องอาหารการกินมากขึ้น ไม่รับประทานอาหารรสจัดเป็นประจำ
    [                            * **ไม่ควรหายามารับประทานเองอย่างเด็ดขาด** ควรอยู่ในการดูแลและคำแนะนำของแพทย์เป็นหลัก ,                             * **หากมีโรคแทรกซ้อนควรระมัดระวัง** และควรทราบถึงวิธีการดูแลอาการของโรคเหล่านั้น ,                             * **รักษาความสะอาดของร่างกายอย่างสม่ำเสมอ** เพื่อลดโอกาสของการติดเชื้อ ,                             * **รู้จักเฝ้าสังเกตความผิดปกติของร่างกาย** หากพบว่ามีอาการไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นควรรีบไปพบแพทย์ ,                             * **ไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง** เพื่อรักษาอย่างต่อเนื่อง ]

การดูแลเบื้องต้นเหล่านี้สามารถทำได้ง่าย ๆ ในผู้ป่วยที่เป็นโรคไต เพื่อหลีกเลี่ยงและลดอัตราการป่วยที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งสามารถบรรเทาการเกิดโรคแทรกซ้อนและส่งผลให้อาการของโรคดีขึ้นได้

ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตควรได้รับการรักษาและทราบถึงวิธีรักษาโรคไตอย่างถูกต้อง นอกจากนี้การรักษาที่ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด คือการเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เช่น แพทย์เฉพาะทางหรืออายุรแพทย์โรคไต

การเข้ารับรักษาในโรงพยาบาลที่มีประสิทธิภาพก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างดีมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงสิ่งสำคัญอย่างการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้ดูแลอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูและดีขึ้นในที่สุด

ข้อปฏิบัติสำหรับคนไข้โรคไต

[                                * คนไข้ระยะแรกต้องควบคุมโรคที่เป็นให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง  ,                                 * กินยาที่หมอให้อย่างสม่ำเสมอ ไม่ซื้อยากินเอง ,                                 * ดื่มน้ำให้เพียงพอ  ,                                 * งดอาหารเค็มจัด โดยเฉพาะเครื่องปรุงรส น้ำพริก น้ำจิ้ม ของแปรรูป น้ำแกง อาหารกึ่งสำเร็จรูป  ,                                 * กินอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ถั่วต่าง ๆ ควรกินน้อยกว่าคนปกติ 20% จะช่วยชะลอการเสื่อมของไตในระยะยาวได้ ,                                 * ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  ]

เมื่อเป็นโรคไตแล้ว หากผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง และดูแลตัวเองดี อาจทำให้ไตทำงานดีขึ้น และไม่เกิดไตเสื่อม ไตวายในระยะยาวได้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

ไม่สนห้าม! จับทัวริสต์สิงคโปร์บินโดรน อ้างถ่ายวิวสูงวอล์คกิ้งสตรีท พัทยา

33 นาทีที่แล้ว

เกาะประเด็นการเมืองวันนี้ จับตา สส.พรรคภูมิใจไทย ‘ท้า’ อ้วน ‘รักษามาตรฐาน’

37 นาทีที่แล้ว

อินเดียประณามสหรัฐตั้งกำแพงภาษีรอบใหม่ เหตุยังซื้อน้ำมันจากรัสเซีย

47 นาทีที่แล้ว

“ซ้อนท้ายไรเดอร์กอดแน่น-จับไม่ปล่อย เสื้อมีชื่อมหา’ลัย ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ”

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

เขากระโดง เดือดแรง!! พ่อผมเสียชีวิตไปแล้ว 35 ปี แต่มั่นใจได้พ่อผมไม่ทำชั่ว !!

TOJO NEWS

"บิ๊กเล็ก" นำทีมไทยแลนด์บินมาเลเซีย ร่วมประชุม GBC ไทย–กัมพูชา

สยามรัฐ

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ถึงเช้านี้ 7 สิงหาคม ไม่มีปะทะ เหตุการณ์ปกติ

TNN ช่อง16

‘เทพไท’ ระอาสภาล่มซ้ำซากซัดอย่าดันทุรังยุบสภาดีกว่า!

ไทยโพสต์

เกาะประเด็นการเมืองวันนี้ จับตา สส.พรรคภูมิใจไทย ‘ท้า’ อ้วน ‘รักษามาตรฐาน’

เดลินิวส์

‘หมอธีระวัฒน์’ เตือนระวังสารเสพติดตัวใหม่ 7-OH แรงกว่ามอรืฤฯ 10 เท่าใส่ใน ‘เยลลี่-ไอสกรีมโคน-บุหรี่ไฟฟ้า’

ไทยโพสต์

ข่าวและบทความยอดนิยม

ไทยทำอะไร!! วันที่มหาวิบัติภัย Extreme Weather ถล่มโลก

เดลินิวส์

ทั่วไทยฝนเพิ่มร้อยละ 40-60 ตกหนัก 7 จังหวัด ‘เหนือ-อีสาน’ ระวังอันตราย!

เดลินิวส์

เดลินิวส์ 7 ส.ค.กัมพูชารับ 8 ข้อเสนอไทย บิ๊กเล็กถกเตียเซ็ยฮาโต๊ะใหญ่

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม