สืบสานกีฬาสมเด็จย่า "รร.วัดลิงขบ" ผงาดคว้ารางวัลแข่งขันกีฬาเปตอง ชิงถ้วยพราะราชทานสมเด็จพระเทพฯ 2 ถ้วยรวด
เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2568 ที่สนามเปตอง ปั๊มน้ำมัน ถาวรโมบิล จังหวัดสุพรรณบุรี นายภูวเดช ภัทรจิตรา ครูอตราจ้าง ผูัฝึกสอน(โค้ช)กีฬาเปตอง โรงเรียนวัดบวรมงคล เปิดเผยว่า นักกีฬาเปตอง รร.วัดบวรมงคล(รร.วัดลิงขอบ)ได้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาเปตองชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยครั้งที่ 44 ประจำปี 2568 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ระหว่างวันที่ 7 ถึง 12 สิงหาคม 2568
โดยการแข่งขันกีฬาเปตองในครั้งนี้ มี นาวาอากาศโทสุทธิโรจน์ ประพันธ์พัฒ นายกสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นประธาน ซึ่งวันก่อนหน้านี้ได้ นักเรียน โรงเรียนวัดบวรมงคล(รร.วัดลิงขบ) ได้รับรางวัล รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ประเภทเยาวชนหญิงรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี นักกีฬาประกอบด้วย(1. )นางสาวอัฉรียา กาไว(2.)นางสาวสุชัญญา ภาระปี(3.)นางสาวณิชกมล สังข์เงิน
ล่าสุดการแข่งขันเมื่อวานนี้เป็นวันสุดท้าย ผลการแข่งขันนักกีฬาเปตอง นักเรียน รร.วัดบวรมงคล ลงเล่นในนาม “ชมรม สมาคมกีฬาจังหวัดภูเก็ต” ได้รับรางวัลชนะเลิศประเภทเยาวชนชายรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี นักกีฬาประกอบด้วย 1. เด็กชายธีรภัทร ฉวีรัตน์ (ออโต้)
ด้าน ว่าที่ร้อยตรีวัชรา งามมีฤทธิ์ ผู้อำนวยการ โรงเรียนวัดบรวรมงคล กล่าวว่า ตนดีใจและภาคภูมิใจแทนนักกีฬาเปตอง ของโรงเรียนได้สร้างชื่อเสียงให้ รร.เรา ที่สามารถคว้ารางวัลในการแข่งขัน มาถึง 2 รางวัล คือรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ประเภทเยาวชนหญิงรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี และรางวัลชนะเลิศ ที่ลงเล่นในนาม ชมรม สมาคมกีฬาจังหวัดภูเก็ต ประเภทเยาวชนชายรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ตนจะสนับสนุนกีฬาเปตอง ให้กลับมาเป็นสนใจเพราะต้องการสืบสานกีฬา ที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า)ทรงโปรดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงโปรดกีฬาเปตอง ทรงมีรับสั่งว่า “เปตองเป็นยาวิเศษสำหรับฉัน” สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงมีรับสั่งว่า “พระองค์เคยเล่นกีฬาประเภทนี้ตั้งแต่ทรงมีพระชนมายุ 30 กว่า กีฬา เปตองมีประโยชน์มาก ได้ทั้งบริหารร่างกายเพื่อให้สุขภาพดีและสร้างสรรค์ความ
สำหรับโรงเรียนวัดบวรมงคล"เดิมเรียกกันว่า "โรงเรียนวัดลิงขบ" ซึ่งเรียกตามชื่อของวัดบวรมงคลในสมัยนั้น เมื่อครั้งก่อนนั้นวัดบวรมงคลมีชื่อเรียกว่า"วัดลิงขบ" โดยชื่อนี้มีเรื่องเล่าว่าเมื่อแรกเริ่มสร้างวัดนั้น "ลุงขบ" ซึ่งเป็นผู้มีถิ่นฐานอาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณนี้ และมีศรัทธาในพระพุทธศาสนาจึงได้สร้างวัดนี้ถวายเป็นสังฆาราช ชาวบ้านต่างนิยมนับถือลุงขบมากจึงขนานนามให้วัดนี้ว่า "วัดลุงขบ" แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปอาจจะทำให้ให้ภาษากร่อนจาก "ลุงขบ" มาเป็น "ลิงขบ" ก็เป็นได้
ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ทรงพระราชทานนามของวัดให้ใหม่ว่า "วัดบวรมงคล" และได้ทรงสถาปนา เป็นพระอารามแต่ยังไม่นิยมเรียกกันโดยทั่วไป ครั้งต่อมาในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้กรมขุนธิเบศร์บวรปฏิสังขรณ์และพระราชทานนามวัดใหม่อีกครั้งหนึ่งว่า "วัดบวรมงคลราชวรวิหาร" โรงเรียนวัดบวรมงคลเริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ 2498 ซึ่งตั้งอยู่ในเขตธรณีสงฆ์ของวัดบวรมงคลด้านทิศตะวันตกด้วยเนื้อที่ประมาณ 9 ไร่ 3 งานอยู่ระหว่างสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้ากับสะพานกรุงธนโดยมีท่านเจ้าคุณ "พระศรีวิสุทธิวงศ์" รองเจ้าอาวาสวัดบวรมงคล
ในสมัยนั้นเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งแต่การก่อสร้างอาคารเรียนไม่สามารถสร้างแล้วเสร็จทันเพื่อใช้ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2498 จึงเปลี่ยนมาให้นักเรียนไปเรียนที่วิหารคดรอบพระอุโบสถของวัดไปก่อนหลังจากอาคารเรียนสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงนำนักเรียนกลับมาเรียน ยังสถานที่ตั้งโรงเรียนในปัจจุบันในระดับ ม.1 ถึง ม.6