โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สรุปผลประชุม กรรมการมหาเถรสมาคม เปิดบทลงโทษวินัยสงฆ์

คมชัดลึกออนไลน์

อัพเดต 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

13 ก.ค. 2568 นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงผลประชุมมหาเถรสมาคม พิจารณาวินัยสงฆ์ ปมพระชั้นผู้ใหญ่ สรุปประเด็นได้ 2 เรื่อง คือ 1.มาตรการที่จะทำเฉพาะหน้าเร่งด่วน 2.กำหนดแนวทางป้องกันในอนาคต ไม่ให้เกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้นอีก โดยยอมรับว่า ข้อบัญญัติต่าง ๆ มีมาตั้งแต่ปี 2505 และอาจมีระเบียบที่ต้องปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน
สำหรับกรณีที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำ 11 รายชื่อ พระชั้นผู้ใหญ่ เข้าพบสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) ซึ่งเป็นสมเด็จพระราชาคณะฝ่ายมหานิกาย ที่ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เมื่อวานนี้ (12 ก.ค. 2568)
ผอ.สำนักพุทธฯ กล่าวว่า พระทั้ง 11 รูป ได้ลาสิกขาไปแล้ว ถือว่าท่านสิ้นสุดสถานภาพการเป็นพระภิกษุสงฆ์ เรื่องของพระธรรมวินัย ไม่สามารถดำเนินการได้ แต่หากมีความผิดเกี่ยวข้องกับเงินวัด หรือส่วนใดก็ตามไปเกี่ยวข้องการกระทำความผิดกฎหมายอาญา จะเป็นหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการ
สำหรับการยืนยันสถานะของพระ แบ่งเป็น 2 กรณี คือ 1.มีภาพปรากฏชัดเจนว่าลาสิกขาตามพระธรรมวินัย 2.ไม่มีภาพแต่มีหนังสือยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรว่าลาสิกขา ทั้ง 2 กรณีจะถือว่าสิ้นสุดจากการเป็นพระ

นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

ส่วนพระบางรูปที่ยังไม่ยืนยันสถานะ ทางกรรมการมหาเถรสมาคม ได้มอบหมายเจ้าคณะใหญ่ฯ แต่ละหน ทำหนังสือเรียกตัวพระที่ปรากฏรายชื่อมาชี้แจงข้อเท็จจริง ต่อเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ หากไม่มาในระยะที่กำหนด ถือว่าท่านละทิ้งการปฏิบัติหน้าที่ ก็จะดำเนินการตามจริยาพระสังฆาธิการ อาจถูกปลด ถอดถอน ตามกฎมหาเถระสมาคม โดยตัวเลขที่ไม่ยืนยันสถานะ เหลือเพียง 5 รูป
ผอ.สำนักพุทธฯ กล่าวอีกว่า กรรมการมหาเถรสมาคม และเจ้าคณะผู้ปกครอง ยังมีความห่วงใย เรื่องพยานหลักฐานที่ชัดเจน การจะเอาผิดตามพระธรรมวินัย หรืออาญา ต้องมีพยานหลักฐาน มาตั้งกรรมการพิจารณาโทษ ดังนั้น ฝ่ายคณะสงฆ์ จึงให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ประสานกับตำรวจสอบสวนกลาง ขอเอกสารหลักฐาน คลิปภาพต่าง ๆ ส่งให้เจ้าคณะใหญ่ ที่มีพระในปกครองโดยตรง

รศ.ดร.ชัชพล ไชยพร รักษาราชการแทน ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม กล่าวว่า มติมหาเถรสมาคม ที่ออกมาเป็นข้อเร่งด่วน คือ ขอให้เจ้าพนักงานผู้มีพยานหลักฐาน ประเภทกระทำความผิด ครุกาบัติ หมายถึง ปาราชิก และ สังฆาทิเสส โปรดนำพยานหลักฐานมาถวายเจ้าคณะใหญ่ ในแต่ละหนการปกครอง เพื่อดำเนินการอย่างเด็ดขาด และหากมีพระภิกษุนอกเหนือจาก 11 รูป ถูกกล่าวหากระทำความผิด ให้ใช้วิธีการเช่นเดียวกัน
สำหรับพระภิกษุที่ปราชิก ขาดจากความเป็นพระโดยพระธรรมวินัย ถ้ายังไม่สละสมณเพศ ต้องเข้าสู่กระบวนการ ให้สละสมณเพศตามพยานหลักฐาน หมายความว่าไม่ให้ใส่ผ้าเหลือง ถ้าใส่ต่อไปผิดกฎหมายอาญา ส่วนการทำพิธีลาสิกขา เป็นการสละสมณเพศโดยความสมัครใจ เป็นประโยชน์ในเรื่องพยานหลักฐาน ว่าบุคคลนั้นเป็นฆารวาสแล้ว
แนวทางการดำเนินการในระยะยาว วันนี้ (13 ก.ค. 2568) มหาเถรสมาคม ได้มีมติเรื่องกฎหมาย กฎระเบียบ คำสั่งหรือมติ ในอดีต การเอาผิดกับพระที่กระทำความผิด ละเมิดพระธรรมวินัย อายุของกฎหมายประมาณ 50 ปีแล้ว แต่การกระทำผิดที่เปลี่ยนแปลงไป กฎเล่านั้นอาจจะล้าสมัยไปแล้ว

มหาเถรสมาคม มีมติเห็นชอบ ดังนี้

1. เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน แต่ต้องรอบคอบ รัดกุม และสอดคล้อง ต้องด้วยหลักพระธรรมวินัย และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในการนี้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ตั้งแต่ระดับเจ้าคณะใหญ่ จนถึงเจ้าอาวาส ตลอดจนพระวินยาธิการ ต้องสำนึกในหน้าที่ และทำตามหน้าที่ ให้สมกับตำแหน่งที่ดำรงอยู่ โดยให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบ ดูแล กำกับพฤติกรรม พระภิกษุในปกครอง อย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอ ตามพระธรรมวินัย กฎหมาย กฎระเบียบ คำสั่งมติคณะสงฆ์ และพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช หากปรากฏพฤติกรรม ที่อาจเข้าข่ายละเมิดพระธรรมวินัย ให้ดำเนินการสอบสวน ตามกฎมหาเถรสมาคม โดยมิชักช้า และให้รายงานต่อมหาเถรสมาคมโดยเร็ว
นอกจากนี้ มหาเถรสมาคม ให้เน้นย้ำความสำคัญการดำเนินงานของคณะสงฆ์ในด้านการปกครอง การศาสนศึกษา และการเผยแผ่พระพุทธธรรม ในพระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา และมติบูรพาจารย์ ที่กำหนดหลักสูตรและวิธีวิทยาโดยชอบ ตามหลักไตรสิกขา ขอให้กวดขันพระภิกษุ สามเณร ในปกครอง ให้งดพฤติกรรม โน้มน้าวใจประชาชน ให้หลงใหล นิยมในวัตถุปัจจัย กับทั้งพิธีกรรมนอกพระพุทธศาสนา และพุทธศาสนประเพณี

2. มหาเถรสมาคม กำหนดนโยบาย ในกรณีพระภิกษุถูกกล่าวหา ว่ากระทำผิดพระวินัย ประเภท ครุกาบัติ ดังนี้

2.1 กรณีพระภิกษุ ทำผิดทางพระธรรมวินัย หากปรากฏว่ามีมูล หรือเข้าข่ายละเมิดพระวินัย ให้เจ้าคณะผู้ปกครองตามลำดับชั้น ออกคำสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน เพื่อประโยชน์แก่การดำเนินการตามพระธรรมวินัย และกฎหมาย และเป็นหน้าที่ของมหาเถรสมาคม และพระสังฆาธิการ โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะเป็นผู้รับผิดชอบ ประสานงาน และสนับสนุนการดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าว

2.2 ให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ที่ไม่ใช่เจ้าคณะพระสังฆาธิการ ที่ปกครองสงฆ์ แต่มีพยานหลักฐาน กรณีพบพระภิกษุกระทำผิดพระธรรมวินัย และมีเจตนาปกป้องคุ้มครองพระศาสนา ให้เข้าบูรณาการความร่วมมือกับเจ้าคณะปกครอง ซึ่งกรณีเฉพาะหน้าครั้งนี้ มติมหาเถรสมาคม ให้เจ้าพนักงานผู้มีพยานหลักฐาน นำถวายเจ้าคณะใหญ่ได้เลย

ทั้งนี้ มหาเถรสมาคม ไม่มีนโยบายช่วยเหลือ ปกปิด บิดเบือนข้อเท็จจริง แต่อย่างใด แต่ยังจำเป็นต้องดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย และพระธรรมวินัย

อนึ่ง เจ้าคณะพระสังฆาธิการ ผู้ปกครองคณะสงฆ์ ตามลำดับชั้น ในรูปใด ปฏิบัติ หรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต นอกจากจะละเมิดพระจริยาพระสังฆาธิการ ยังอาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ในฐานะที่ถือว่าเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาด้วย

2.3 กรณีที่ยังไม่มีคำพิพากษา การลงโทษตามกระบวนการ นิคหกรรม หรือการยืนยันความผิดอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะตามกฎหมายบ้านเมือง หรือพระธรรมวินัย พึงระมัดระวัง การเผยแพร่ข้อมูล ต่อสาธารณะชน และสื่อมวลชน เนื่องจากตามหลักกฎหมายทั่วไป และพระธรรมวินัย ผู้ถูกกล่าวหา ย่อมถูกสันนิษฐาน ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะต้องคำพิพากษา หรือคำตัดสินว่ากระทำความผิด

ดังนั้น การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล จึงอาจละเมิดข้อบังคับ ข้อบัญญัติทางกฎหมาย และสิทธิมนุษยชน ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย รับรองไว้ครบถ้วนทุกประการ

3. มติ มหาเถรสมาคม ให้เร่งปรับปรุงกลไกการทำงาน เชิงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างเข้มงวด รวดเร็ว รอบคอบ รัดกุม โดยสำนักพุทธฯ ต้องเป็นหน่วยประสานหลัก ระหว่างคณะสงฆ์ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน

อย่างไรก็ดี หากสำนักพุทธฯ ยังมีข้อบกพร่อง ด้วยสรรพกำลังทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเชิงโครงสร้าง อำนาจตามกฎหมาย ศักยภาพบุคลากร กำลังความสามารถ ความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะบ้าน ทางมหาเถรสมาคม ขอให้รัฐบาลซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง โปรดพิจารณาวิเคราะห์สภาพปัญหาเชิงลึกอย่างจริงจัง และรอบด้าน จะได้กำหนดแนวทางการปรับโครงสร้าง ปรับปรุงพัฒนาองค์กร และบุคลากร ให้สอดคล้องด้วยพันธกิจของคณะสงฆ์ และการอุปถัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนา ซึ่งมีมิติทางบริบทที่เปลี่ยนแปลไปอย่างมาก

4. เป็นการกำหนดหลักการทั่วไป การตรากฎหมาย กฎระเบียบ คำสั่ง มติ ให้ยึด 4 หลัก คือ 1.)พระธรรมวินัย ให้ถือเป็นหลักสูงสุด กรณีพระภิกษุกระทำละเมิดพระวินัย 2.)หลักความยุติธรรม ปราศจากอคติ รอบคอบ รัดกุม รวดเร็ว เป็นอิสระ คำนึงถึงสิทธิมนุษยชน และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ 3.)หลักการปกครองคณะสงฆ์ตามพระธรรมวินัย และตามกฎหมาย 4.)คณะสงฆ์ต้องปกครองอย่างเข้มงวดและจริงจัง ดำเนินการต่อผู้ละเมิดพระวินัย อย่างรวดเร็ว แต่ต้องได้ดุลยภาพกับการปกป้องคุ้มครองผู้บริสุทธิ์ หรือผู้ถูกสันนิษฐานว่ายังบริสุทธิ์

รศ.ดร.ชัชพล ไชยพร รักษาราชการแทน ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม

สำหรับพระที่ปรากฎคลิปหลักฐานเกี่ยวข้อง จะแบ่งเป็น 4 กลุ่ม

กลุ่มแรก ลาสิกขาแล้ว 6 รูป คือ อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ เจ้าคุณอาชว์ , อดีตพระเทพวชิวธีรคุณ , อดีตพระเทพวชิรธีราภรณ์ , อดีตพระครูปลัดสุรพล , อดีตพระมหาบุญเลิศ ช่วยธานี , อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ซึ่งทั้งหมดถือว่าสิ้นสุดกระบวนการเจ้าคณะผู้ปกครองแล้ว
กลุ่มที่ 2 ยังไม่ยืนยันสถานะ และยังไม่ทราบว่า ปัจจุบันยังเป็นพระหรือไม่เพราะยังติดต่อไม่ได้ เพราะ การจะยืนยันสถานะนั้นจะต้องมีภาพปรากฎ และยืนยันว่าเป็นลายลักษณ์อักษร มี 2 รูป คือ พระปริยัติธาดา วัดกัลยาณมิตรฯ และ พระราชรัตนสุธี วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก ซึ่งจะต้องทำหนังสือคำสั่งเรียกตัวมาชี้แจงข้อเท็จจริง
กลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มที่ยังเป็นพระภิกษุ 2 รูป คือ พระเทพปวีเมธี วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร และ พระเทพวัชรสิทธิเมธี วัดท่าหลวง จ.พิจิตร ซึ่งทั้ง 2 รูปนี้ มหาเถรสมาคม มีมติขอความร่วมมือตำรวจได้ส่งรูปหลักฐานให้เจ้าคณะใหญ่หนกลาง และเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ โดยตรง
ส่วนกลุ่มที่ 4 คือ พระเทพวัชราภรณ์ วัดชูจิตธรรมาราม ยังเป็นพระอยู่ แต่ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ จ.พระนครศรีอยุธยา แล้ว และลาออกจากตำแหน่งประธานสำนักงานพระปริยัติศึกษาแล้ว โดยมหาเถรสมาคมได้มีคำสั่งแต่งตั้งผู้รักษาการแทนไปปฏิบัติหน้าที่แล้ว
ส่วนกรณีพระที่ลาสิกขาแล้วจะต้องคืนพัดยศด้วยหรือไม่นั้น รักษาราชการแทน ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ระบุว่า หากมีการลาสิกขาแล้วย่อมพ้นจากการเป็นพระภิกษุ ดังนั้นสมณศักดิ์ ย่อมขาดโดยอัตโนมัติ รวมถึงราชทินนามก็ไม่สามารถใช้ได้ เพราะจะผิดกฎหมายอาญา และพัดยศจะต้องส่งคืนทั้งหมด

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก คมชัดลึกออนไลน์

LIVE ดูบอลสด "เชลซี พบ เปแอสเช" นัดชิงแชมป์สโมสรโลก เวลา 02.00 น.

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

หนีตายระทึก! เด็กปั๊มเติมน้ำมันผิด อู่ซ่อมรถ ช่วยถ่ายออก เกิดไฟลุกท่วม

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

LIVE ถ่ายทอดสด "เปรสตัน พบ ลิเวอร์พูล" เกมอุ่นเครื่อง ลิงค์ดูบอลสด 21.00 น.

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ไทย VS แคนาดา ลิงค์ดูฟรี ถ่ายทอดสด วอลเลย์บอลหญิง VNL 2025 นัดสุดท้าย

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่นๆ

เด็กๆ เสียชีวิตหลายรายจากการโจมตีฉนวนกาซา ขณะที่กองทัพอิสราเอลยอมรับว่าเป็นความผิดพลาด

JS100

สหภาพยุโรปเลื่อนการขึ้นภาษีตอบโต้สหรัฐฯ ไปถึงเดือนสิงหาคม

JS100

ประธานาธิบดีอิหร่านได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยขณะหลบหนีการโจมตีของอิสราเอล

JS100

รถตู้ชนกับรถจักรยานยนต์ กลางถนนหมายเลข 304 มีผู้บาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จ.ปราจีนบุรี

สวพ.FM91

ฝนตกถนนลื่น รถกระบะเสียหลักชนกัน บนถนนสายลำปาง - เด่นชัย มีผู้บาดเจ็บหลายราย จ.ลำปาง

สวพ.FM91

ไฟฟ้าดับ กฟน. ประกาศดับไฟ พื้นที่ กทม. สมุทรปราการ 14-16 ก.ค.นี้

ฐานเศรษฐกิจ

ผู้นำเมียนมา ขอบคุณทรัมป์ส่งจดหมายแจ้งภาษี ถือเป็นการยอมรับรัฐบาล

JS100

‘อุ๊งอิ๊ง’ โพสต์ข่าวดีของคนไทย ‘พระปรางค์วัดอรุณ’ ขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

The Bangkok Insight

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...