‘นุ๊ก สุทธิดา’ อัปเดตอาการป่วยดีขึ้น เผยคำพูด ‘น้องปาแปง’ ทำแม่ซึ้งจนต้องเล่า!
เรียกได้ว่าแฟนๆแห่คิดถึงหนัก หลังจากห่างหายจากหน้าจอเพื่อไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ ล่าสุดนักร้องนักแสดงมากฝีมือ “นุ๊ก สุทธิดา” กลับมาพร้อมอัปเดตทั้งสุขภาพที่ยังต้องดูแลต่อเนื่อง และกำลังใจล้นๆ จากลูกชายคนกลาง“น้องปาแปง” ที่คุณแม่ปลื้มจนต้องนำโมเมนต์น่ารักมาเล่าให้ฟัง งานนี้แม่นุ๊กถึงขั้นเอ่ยปากไดรับพลังจากลูกๆเต็มร้อยเลยทีเดียว
โดย นุ๊ก สุทธิดา ได้มาร่วมงานเปิดตัวละครเรื่อง "ผีเสื้อสลับลาย" เธอจึงได้โอกาสอัปเดตเรื่องสุขภาพและเรื่องราวของลูกชาย "น้องปาแปง" ให้แฟนๆได้ทราบถึงความน่ารักของลูกชาย นุ๊ก สุทธิดา เผยว่า
“สุขภาพตอนนี้ก็ดีค่ะ ช่วงนี้ก็ดูแลตัวเองเป็นปกติแล้วก็ตรวจเลือดทุกสามเดือนเหมือนเดิมค่ะ อัลตร้าซาวด์ทุกหกเดือนทานยาทุกวันเป็นปกติค่ะ ก็ไม่มีอาการอะไรค่ะ ช่วงนี้ก็อาจจะดูแลตัวเองดีเป็นพิเศษ แล้วก็หลังจากที่ไปให้เอ็นเคเซลล์มาค่ะก็รู้สึกว่าร่างกายสดชื่นแล้วก็แข็งแรงขึ้น ช่วงนี้ก็อาจจะลุยงานหนักด้วยซ้ำไปค่ะ แต่ว่าก็ยังถือว่าโอเคแสดงว่าที่เราไปให้บำบัดไปรักษามาก็น่าจะโอเค“
ส่วนการทำงานหนักมีค่ะ ถ้าเกิดว่าเราทำงานหนักแล้วเราเครียดมันก็อาจจะมีผลหรือว่าถ้าทำงานหนักแล้วนอนไม่เป็นเวลามันก็จะมีผล จริงๆ มันก็มีผลกับทุกคนอยู่แล้วความเครียดหรือว่าการนอนไม่ตรงเวลา แต่พอเราเป็นคนปกติเราอาจจะละเลยไม่สังเกตตัวเองหรือว่าบางทีเราก็อาจจะรู้สึกว่ามันเป็นแค่นิดหน่อยเพลียหรือว่าหน้าตาเราไม่สดใส แต่พอสะสมมานานๆ ขนาดคนปกติก็ยังป่วยหรือว่าเป็นโรคอย่างอื่นได้ ถ้าเป็นคนที่ป่วยอยู่แล้วเรื่องพวกนี้อาจจะต้องให้ความสำคัญนิดนึง เรื่องการรับประทานอาหารต้องตรงเวลา การนอนที่ตรงเวลา อันนี้มันก็ช่วยด้วย แล้วถ้าเราดูแลตัวเองดีๆ อาจจะแข็งแรงกว่าคนปกติที่ใช้ร่างกายแบบเปลืองก็ได้
เริ่มปรับตัวคุ้นชินกับการที่เราจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับเขา แต่ว่าเราก็ยังจะต้องเฝ้าระวังว่ามันโตขึ้นไหมมันพัฒนาไปยังไงทุกๆ หกเดือน แต่ว่าตอนนี้ก็ก็ต้องชินกับการอยู่ร่วมกัน แต่ว่าจริงๆ ก็ไม่ได้โดดเดี่ยวค่ะคนรอบข้างเป็นกันเยอะเลยค่ะ ที่สนิทๆ เสียไปก็เยอะเดือนที่ผ่านมา แต่ส่วนมากจะเป็นรุ่นผู้ใหญ่ ซึ่งพอเป็นผู้ใหญ่เนี่ยบางทีกว่าจะรู้ก็เข้าสเตจสี่กันไปหมดแล้ว แต่ว่าอย่างเราโชคดีเราได้รู้ตั้งแต่กลางๆ ต้นๆ มันก็ยังดูแลตัวเองกันไปได้ ก็ยังมีเพื่อนร่วมทางอีกเยอะเลยค่ะ
ถามถึงกำลังใจจากลูกๆ เป็นยังไงบ้าง คือลูกโตขึ้นด้วยค่ะช่วงนี้คิดว่าทุกคนน่าจะไม่รู้หรือคิดไปเอง ในแต่ละวัยมันจะมีวัยนึงที่เขากำลังระหว่างเด็กไปเป็นวัยผู้ใหญ่ มันจะมีช่วงปวดประสาทของพ่อแม่แต่ละคนก็จะไม่เท่ากันว่าช่วงอายุไหน แต่ของนุ๊กรู้สึกว่าลูกสองคนเนี่ยผ่านช่วงวัยนั้นไปแล้ว ตอนนี้เป็นช่วงวัยที่เขากำลังเริ่มจะเติบโตละคุยรู้เรื่อง พยายามจะปรับจูนเข้าด้วยกันได้ มันก็เลยกลายเป็นว่าแค่นี้ก็เป็นกำลังใจแล้วค่ะอย่างเช่น ล่าสุดปาแปงเขาก็พูดว่าแม่อย่าเพิ่งตายนะคือภาษาเขามันจะประหลาดนิดนึง “แม่อย่าเพิ่งตายนะอยู่กับผมให้ถึงเจ็ดปีนะ” หลังจากเจ็ดปีนี้เขามีแพลนจะทำอย่างเงี้ยอยากให้แม่อยู่ เราฟังแล้วก็แบบเฮ้ยทำไมมันสวีตอย่างงี้ เขาก็ถามสวีตตรงไหนอะแม่ ก็ตรงที่มันเป็นความจริงเขาพูดแบบตรงไปตรงมามันดูสวีตดี เขาจะเป็นแนวนี้ค่ะเวลาเป็นเด็กที่พูดไม่ประดิษฐ์ แต่มันสวีตด้วยความจริงของเขา มันเลยทำให้เรารู้สึกมันสวีตกว่าคำพูดแบบประดิษฐ์ แล้วเราตอบลูกไปว่า “โห คนบาปหนามันตายกันไม่ง่ายหรอก มันไม่ตายง่ายๆ หรอกลูก ก็แบบเล่นฮาๆ””
นุ๊ก เล่าต่อว่า “ถามว่าลูกเขาบอกไหมว่าอีกเจ็ดปีเขาจะทำอะไร เขาก็คงอยากทำธุรกิจ ตอนนี้คือจะเป็นช่วงที่เขาอยากรับงาน เพราะเขาเก็บเงินคงอยากจะลงทุนอะไรสักอย่าง คงกำหนดกับตัวเองว่าเก็บเงินสักเจ็ดปี แต่แกก็ยังไม่ได้พูดจริงจัง แล้วก็จะไม่ถามเยอะ เพราะว่าเหมือนเด็กเจนนี้เขาจะพูดเท่าที่เขาอยากให้เรารู้ เราก็จะไม่ไปก้าวก่ายเขาเยอะ เขาก็พยายาม แต่ว่ามันก็จะเป็นความพยายามแบบเหมือนเด็กที่เพิ่งออกจากห้องนะคะ เขาเหมือนเด็กเนิร์ด ยังไม่รู้จักวิธีเข้ากับคน ยังไม่รู้จักวิธีพูดกับคน แต่ว่าเห็นได้ว่าเขาพยายามที่จะปรับตัว
แล้วน้องปาแปงเขาได้มาขอคำแนะนำอะไรคุณแม่บ้างไหม เราจะพูดกันสั้นๆ นะคะ ถ้าเรื่องพวกนี้ เขาจะเป็นคนนิสัยห้ามพูดซ้ำๆ คือเราจะมองเห็นอนาคตเลยว่าแฟนเขาหรือคนที่เขาจะอยู่ด้วยจะต้องเป็นลักษณะไหน เขาจะไม่ชอบคนที่พูดซ้ำสองครั้ง เพราะว่าเป็นเด็กที่ค่อนข้างหัวดี แม้ว่าจะทำเป็นไม่ฟัง แต่เขาคิดตาม เพราะฉะนั้นถ้าพูดอะไรซ้ำสองครั้งปุ๊บเขาจะหันไปมองหน้าแล้วบอก แม่พูดแล้วนะ คือการเตือนว่าพูดซ้ำ ถ้าเกิดพูดครั้งที่สามคือจะเดินหนีเลยนะ
น้องชอบคุยนะคะ น้องบอกว่าน้องไม่ได้เป็นอินโทรเวิร์ต คือเขาไม่รู้ว่าคนคิดว่าเขาเป็นอินโทรเวิร์ตนะคะคือเขาไปเจอลูกพี่ธัญญ่า น้องลียาก็บอกอ๋อพี่อินโทรเวิร์ต ปาแปงก็หัวเราะขึ้นมาแล้วก็บอกทำไมเขาเรียกผมอินโทรเวิร์ต ก็เลยบอกว่าผมเป็นเนิร์ดผมไม่ได้เป็นอินโทรเวิร์ต เขายอมรับค่ะ เพราะฉะนั้นเวลาคุยกับเขา เนิร์ดก็จะคุยเรื่องเกม ถ้าคุยเรื่องเกมนี่คือไม่หยุดเป็นชั่วโมงค่ะ ยิ่งถ้าเล่นเกมเดียวกันคือไม่หยุดค่ะ คือถ้าเข้าถึงจุดในสิ่งที่เขาสนใจสิ่งที่เขาชอบก็คุยไม่หยุดค่ะ ต้องบอกว่าหยุดคุยเดี๋ยวนี้
ตอนนี้ถามว่า ปาแปงเริ่มรับงานหรือยัง ส่วนมากก็จะหลังจากที่เรียน เพราะว่าช่วงนี้เขาเพิ่งสอบเข้า มันก็จะเป็นช่วงปรับฐานต้องเรียนเกือบทุกวัน แกก็จะไม่อยากขาด เพราะว่าที่ใหม่เขาดูเอนจอย เขาบอกว่าเพื่อนๆ น่ารัก ถ้ามีงานก็จะได้รับงานช่วงที่ไม่มีเรียน ซึ่งก็จะไม่ใช่เดือนนี้ ถ่ายรูปมากขึ้นหรือยัง น้องน่าจะไม่ค่อยชอบถ่ายรูป คือจะให้ถ่ายสมมุติเราคุยกันว่าวันนี้ไปทำงานนะต้องมีงานอะไรบ้าง มีสัมภาษณ์มีถ่ายมีเจอพี่เขานะ ก็จะประมาณนี้ แต่ถ้าชีวิตจริงไม่ให้ถ่าย โซเชียลไม่มีเลยค่ะ เฟซบุ๊ก ไอจี ไม่มีเลย
ถามถึงความอึดอัด เพราะลูกเป็นแบบนี้ไม่จอยกับแม่เลย นุ๊กกลับรู้สึกว่านุ๊กน่าจะเป็นคนที่เข้าใจเขามากที่สุดเวลาที่เราทะเลาะกันแล้วเขาไม่มีนุ๊กอะ จะรู้สึกว่าเขาก็จะไม่มีใครที่เข้าใจเขาจริงๆ อาจจะมีคนที่ตามใจเขาแต่ไม่มีใครที่เข้าใจเขา เพราะว่านุ๊กก็รู้สึกว่าตัวนุ๊กกับเขาอะใกล้เคียงกัน เพียงแต่คนละเจนเนอเรชั่น นุ๊กก็จะมีโลกส่วนตัวที่สูงมากๆ เพียงแต่ว่าเราถูกเทรนให้เข้าสังคมตั้งแต่เด็ก เราก็จะมีอีกหมวกนึง แต่พอเวลาที่มัน เป็นพาร์ตส่วนตัวจะสังเกตได้ว่านุ๊กก็ไม่ค่อยโพสต์รูปตัวเองบางทีหายไปเป็นเดือน ไม่มีกลุ่มแบบดาราไปกินข้าวคือน้อยมากเลย จะใกล้เคียงกับปาแปง เราเข้าใจเขามากเลย”
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก nook_suttida