กลาโหมกัมพูชาโบ้ย! ไม่เกี่ยวทหารไทยเหยียบระเบิด ชี้ไทยละเมิด MOU43
"กลาโหมกัมพูชา" แถลงการณ์กล่าวหา "ไทย" ละเมิด MOU43 ลาดตระเวนเข้าเขตกัมพูชา จนทหารโดนกับระเบิดบาดเจ็บ พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาของไทยต่อกัมพูชา
กระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลง ยันไม่เกี่ยวเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิด ชี้เตือนหลายครั้งให้ไทยลาดตระเวนในเส้นทางที่ตกลงไว้ เหตุยังเหลือทุ่นระเบิดเก่าอีกมา
กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาของไทยที่มีต่อกัมพูชาอย่างเด็ดขาด เกี่ยวกับการบาดเจ็บของทหารไทย 3 นาย จากเหตุเหยียบกับระเบิด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ณ หมู่บ้านเตโช มรกต ตำบลมรกต อำเภอจวมกสัน จังหวัดพระวิหาร
กระทรวงกลาโหมกัมพูชา อ้างว่า ได้เตือนฝ่ายไทยหลายครั้งให้ปฏิบัติตามเส้นทางลาดตระเวนที่ตกลงร่วมกันอย่างเคร่งครัด เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้ยังคงมีทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิดจำนวนมาก ซึ่งแม้แต่พลเรือนชาวกัมพูชาก็อาจได้รับอันตราย
กระทรวงกลาโหมกัมพูชา อ้างว่า ข้อเท็จจริง ทหารไทย ได้ละเมิดข้อตกลงที่ระบุไว้ในบันทึกความเข้าใจปี พ.ศ. 2543 (MOU 2543) ด้วยการเบี่ยงเบนจากเส้นทางลาดตระเวนที่กำหนดไว้ และสร้างเส้นทางใหม่ที่เข้าสู่ดินแดนอธิปไตยของกัมพูชา ตามแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ซึ่งเป็นผลมาจากการกำหนดเขตแดนและการวางเสาหลักระหว่างอินโดจีนและสยามสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยามในปี พ.ศ. 2447 และ พ.ศ. 2450
แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ยังอ้างว่า การรุกรานของพวกเขา ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บจากทุ่นระเบิด ซึ่งเป็นสิ่งตกค้างจากสงคราม การเคารพในอำนาจอธิปไตยและกฎหมายระหว่างประเทศ ต้องแสดงออกด้วยการกระทำ ไม่ใช่แค่คำพูด
ดังนั้น กัมพูชาจึงเรียกร้องให้ฝ่ายไทยปฏิบัติตาม MOU2543 อย่างเต็มที่ และใช้กลไกทางกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเต็มที่ รวมถึงศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เพื่อแก้ไขข้อพิพาทเรื่องพรมแดน สันติภาพที่แท้จริงและยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยวิธีการเช่นนี้เท่านั้น ควบคู่ไปกับการป้องกันการบาดเจ็บหรือการสูญเสียชีวิตเพิ่มเติมของพลเรือนผู้บริสุทธิ์
กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ยังระบุว่าเหตุการณ์นี้ ยังก่อให้เกิดคำถามสำคัญเกี่ยวกับเจตนาของผู้นำกองทัพไทย เหตุใดจึงสั่งให้ทหารลาดตระเวนนอกเส้นทางที่ตกลงกันไว้ ทั้งที่พวกเขารู้ว่าพื้นที่ดังกล่าวมีความเสี่ยงจากทุ่นระเบิดในช่วงสงคราม และแม้ว่ากัมพูชาจะเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า นี่เป็นการกระทำโดยเจตนาเพื่อยั่วยุความตึงเครียดที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งหรือไม่?
กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ขอเรียกร้องอีกครั้งให้ฝ่ายไทยยุติการกระทำใดๆ ที่ละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชาโดยทันที และงดเว้นพฤติกรรมใดๆ ที่คุกคามสันติภาพและเสถียรภาพตามแนวชายแดน
ในฐานะประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากทุ่นระเบิด กัมพูชามีบทบาทสำคัญในการปฏิบัติตามพันธกรณีในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ที่ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล กัมพูชาได้รับการยกย่องอย่างสูงจากประชาคมโลก ไม่เพียงแต่ความสำเร็จในการกำจัดและทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทุกประเภทเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการมีส่วนร่วมของสหประชาชาติในการกำจัดทุ่นระเบิดในประเทศอื่นๆ ที่ได้รับความเสียหายหรือยังคงได้รับความเสียหายจากสงครามอีกด้วย
ในโอกาสนี้ กระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาและกองทัพกัมพูชา ขอยืนยันการสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อจุดยืนของรัฐบาลกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับประเทศไทยด้วยสันติวิธี และบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการนำข้อพิพาทเกี่ยวกับปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโตช ปราสาทตากระบวย และพื้นที่โดยรอบขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)
ทั้งสองยังแสดงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา และให้คำมั่นว่าจะไม่มีการสูญเสียดินแดนของกัมพูชาแม้แต่มิลลิเมตรเดียว ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ทหารช่าง ช.พัน6 พบ 'สนามทุ่นระเบิดใหม่' หลายร้อยลูกช่องบก
- จับตา! ศบ.ทก.เรียกถกด่วนวันนี้ รับฟังผลสอบปม 'กับระเบิด'
- แม่ทัพภาค 2 เตรียมตอบโต้กัมพูชา ลั่น!เล่นสกปรก วางระเบิดช่องบกกว่า 100 ลูก
ติดตามเราได้ที่