นับถอยหลังเส้นตาย 1 ส.ค. ดีลการค้าสหรัฐฯ ใครรอด ใครยังลุ้น?
การนับถอยหลังสู่เส้นตายวันที่ 1 สิงหาคม 2568 สำหรับการเจรจาข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศสำคัญกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีการตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้ภาษีศุลกากร ซึ่งจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและการค้าระหว่างประเทศ สหรัฐฯ ได้ขยายเวลาการเจรจาจากเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนกรกฎาคม เพื่อให้ประเทศต่างๆ ได้มีโอกาสหารือและทำข้อตกลงที่ดีกว่า ก่อนที่ภาษีศุลกากรจะถูกปรับเพิ่มขึ้น
จนถึงวันนี้ หลายประเทศได้เจรจาสำเร็จในบางประเด็นและบรรลุข้อตกลงเชิงบวกกับสหรัฐฯ แต่ยังมีหลายประเทศที่ยังคงค้างอยู่ในช่วงการเจรจา โดยเฉพาะการตัดสินใจเกี่ยวกับภาษีศุลกากรที่อาจจะมีการปรับขึ้นในบางกรณีหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้
สหราชอาณาจักร-เวียดนาม สองประเทศตัวอย่างที่เจรจาสำเร็จ
สหราชอาณาจักรได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ได้สำเร็จเมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2568 ซึ่งมีการลดภาษีศุลกากรลงเหลือเพียง 10% สำหรับสินค้าบางประเภท เช่น ยานยนต์และอุตสาหกรรมการบิน แม้ว่าจะมีการคงภาษีศุลกากรสูงสุด 50% สำหรับเหล็กและอะลูมิเนียม สหราชอาณาจักรยังสามารถเจรจาข้อตกลงทางการค้าที่มีข้อจำกัดสำหรับสินค้าบางประเภท ซึ่งถือเป็นความสำเร็จสำคัญที่ช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาษีศุลกากรที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
เวียดนามก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เจรจาสำเร็จ โดยสามารถลดภาษีศุลกากรลงจาก 46% เหลือเพียง 20% สำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังสามารถรักษาความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหรัฐฯ เอาไว้ได้อย่างราบรื่น ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงในการค้าระหว่างสองประเทศ
จีน
ขณะที่จีนซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ยังไม่ได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญทั้งหมด โดยเฉพาะในเรื่องของภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าหลายประเภท แม้ว่าจะมีการเจรจาข้อตกลงชั่วคราว แต่ยังคงต้องเจรจาในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับตลาดสินค้าและอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญ เช่น ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และสินค้าจากเกษตรกรรม ข้อขัดแย้งเหล่านี้ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้การเจรจายังคงค้างอยู่
สหภาพยุโรปและอินเดีย
สหภาพยุโรปยังคงอยู่ในระหว่างการเจรจากับสหรัฐฯ โดยมีการหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผลผลิตจากการเกษตร และการลดภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าหลายประเภท เช่น ยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะเดียวกัน ประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปก็พยายามที่จะให้แน่ใจว่าข้อตกลงดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยุโรป
ในส่วนของอินเดีย ขณะนี้ยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ ได้ โดยอินเดียได้กำหนด "เส้นแดง" ในการเจรจา โดยเฉพาะในภาคเกษตรกรรมและผลิตภัณฑ์นม ซึ่งอินเดียต้องการการยกเว้นภาษีศุลกากร 26% สำหรับสินค้าบางประเภท หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ภาษีศุลกากรจะกลับมาใช้ในอัตราเดิม ซึ่งเป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายต้องมีการเจรจากันต่อไปในอนาคต
กัมพูชา
กัมพูชาระบุว่า ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าทวิภาคี โดยมีการตกลงร่วมกันในกรอบข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับกัมพูชา ซึ่งจะมีการเผยแพร่ต่อสาธารณะในเร็วๆ นี้
ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมออนไลน์ระหว่างรองนายกรัฐมนตรีซัน ชานธอล และซาราห์ เอลเลอร์แมน ผู้ช่วยผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ทบทวนและเห็นชอบในร่างแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับกรอบข้อตกลงการค้าทวิภาคี
การบรรลุข้อตกลงดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับกัมพูชา เนื่องจากตั้งแต่ในเดือนเมษายน สหรัฐฯ ได้กำหนดภาษีศุลกากรสูงถึง 49% สำหรับสินค้านำเข้าจากกัมพูชา ซึ่งเป็นอัตราภาษีที่สูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ไทย
ประเทศไทยกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ก่อนเส้นตาย ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการพักการเก็บภาษีศุลกากรที่ 10% หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ สหรัฐฯ จะกลับมาใช้ภาษีสูงถึง 36%
กระทรวงการคลังของไทยได้ยื่นข้อเสนอใหม่ต่อสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายลดดุลการค้ากับสหรัฐฯ ลง 70% ภายใน 5 ปี และบรรลุความสมดุลภายใน 7-8 ปีข้างหน้า ข้อเสนอนี้รวมถึงการเพิ่มการนำเข้าพลังงานจากสหรัฐฯ เช่น ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และเอธานอล รวมถึงการสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้งจากสายการบินไทย แม้จะมีการเจรจาอย่างเข้มข้น แต่ยังไม่มีข้อตกลงที่ชัดเจน
หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ตามกำหนด ไทยอาจเผชิญกับภาษีศุลกากรที่สูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่คาดว่าจะลดลงเหลือ 1.8% ในปีนี้
แต่ละประเทศใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกันในการเจรจากับสหรัฐฯ โดยบางประเทศ เช่น สหราชอาณาจักรและเวียดนาม ใช้กลยุทธ์การเจรจาโดยตรงและรวดเร็วเพื่อบรรลุข้อตกลงในขณะที่ยังคงสามารถคุ้มครองผลประโยชน์ทางการค้าได้ ขณะที่จีนและอินเดียใช้กลยุทธ์การเจรจาอย่างรอบคอบ โดยเน้นการรักษาผลประโยชน์ของตนเองให้ได้มากที่สุด ก่อนที่จะทำข้อตกลงใดๆ
สำหรับสหภาพยุโรป การเจรจาถูกทำในรูปแบบของการประสานงานระหว่างประเทศสมาชิก ซึ่งทำให้เกิดความยืดหยุ่นในการเจรจา แต่ก็มีความยุ่งยากในการหาข้อตกลงร่วมกันทุกประเทศ
ความเคลื่อนไหวการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศต่างๆ ทั่วโลกยังคงเป็นเรื่องที่น่าจับตามอง เพราะการบรรลุข้อตกลงจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศต่างๆ การขยายเวลาของสหรัฐฯ ออกไปจนถึง 1 สิงหาคม 2025 จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ทุกประเทศต้องเร่งเจรจาและทำข้อตกลงให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนที่ภาษีศุลกากรจะมีการปรับขึ้นอย่างเป็นทางการในช่วงเวลาถัดไป