ปภ. ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มต่อเนื่อง เน้นย้ำจังหวัดประสบภัยเร่งช่วยเหลือประชาชน
ปภ. ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มต่อเนื่อง เน้นย้ำจังหวัดประสบภัยเร่งช่วยเหลือประชาชน ด้านจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายให้สำรวจความเสียหาย ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย และให้ความช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว
วันนี้ (2 ส.ค. 68) เวลา 10.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มจากพายุ “วิภา” เผยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 4 จังหวัด – น่าน เชียงราย สุโขทัย และพิษณุโลก เน้นย้ำจังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์ให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบเต็มกำลัง ด้านจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วให้สำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย ตลอดจนให้ความช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เน้นบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำความสะอาด ซ่อมแซม และฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้ประชาชนกลับเข้าพักอาศัยและใช้ชีวิตตามปกติโดยเร็วที่สุด โดยอธิบดี ปภ. ได้มอบหมายให้นายจำนง สวัสดิ์วงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย เป็นประธานการประชุมฯ และมีหน่วยงานส่วนกลางของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามการเคลื่อนตัวและผลกระทบจากพายุ “วิภา” อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. 68 – ปัจจุบัน (วันที่ 2 ส.ค. 68) เกิดสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มในพื้นที่ 12 จังหวัด ได้แก่ น่าน เชียงราย พะเยา ลำปาง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แพร่ สุโขทัย ตาก อุตรดิตถ์ เลย และพิษณุโลก มีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 74 อำเภอ 364 ตำบล 2,387 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 74,597 ครัวเรือน 233,509 คน มีผู้เสียชีวิต 6 ราย และ ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 2 ส.ค. 68 เวลา 06.00 น.) ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ น่าน เชียงราย สุโขทัย และพิษณุโลก 9 อำเภอ 21 ตำบล 60 หมู่บ้าน เบื้องต้นมีประชาชนได้รับผลกระทบ 3,230 ครัวเรือน 11,951 คน โดยภาพรวมทุกจังหวัดมีระดับน้ำลดลง และมีแนวโน้มคลี่คลายลงในทุกพื้นที่
“กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ติดตามสถานการณ์ผลกระทบจากพายุโซนร้อน “วิภา” มาอย่างต่อเนื่อง และประสานการปฏิบัติงานกับจังหวัดในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยปลอดภัยจากสถานการณ์ภัยที่เกิดขึ้น ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์ในวันนี้ พบว่ายังมี 4 จังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย ขอฝากให้จังหวัดทั้ง 4 จังหวัดดำเนินการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนทุกด้านอย่างเต็มกำลัง สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ขอให้เร่งสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงให้ความช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว รวมถึงบูรณาการหน่วยงานในพื้นที่เข้าทำความสะอาด และซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน สิ่งปลูกสร้าง สิ่งสาธารณประโยชน์ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยให้กลับสู่สภาพเดิมเพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว ทั้งนี้ สำหรับจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่มในครั้งนี้ ขอให้จังหวัดดำเนินการตรวจสอบข้อมูลผู้เสียชีวิตและจ่ายเงินช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 และหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 ให้แล้วเสร็จก่อนงานฌาปนกิจผู้เสียชีวิตตามข้อสั่งการของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย” นายภาสกร อธิบดี ปภ. กล่าว
ขณะที่นายจำนง สวัสดิ์วงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตามที่อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้มอบหมายให้ประชุมติดตามสถานการณ์ฯ อย่างต่อเนื่อง พบว่าระยะนี้ฝนเบาบางลงจนถึงไม่มีฝนตกเลยในหลายพื้นที่ จึงขอให้จังหวัดใช้ระยะเวลานี้ให้การฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบให้กลับสู่สภาพเดิม และเตรียมการรับมือสถานการณ์ในห้วงถัดไป โดยเน้นไปที่การตรวจสอบความแข็งแรงของพนังกั้นน้ำ หากพบว่ามีการชำรุดหรือเสียหายให้ดำเนินการซ่อมแซมทันที นอกจากนี้ อาจพิจารณาเสริมความแข็งแรงของคันกันน้ำเพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดกับบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย”
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะติดตามสถานการณ์การเคลื่อนตัวของพายุ การพัดผ่านของร่องมรสุม รวมถึงปัจจัยทางสภาวะอากาศอื่นที่อาจก่อให้เกิดสถานการณ์ภัย เพื่อแจ้งเตือนภัยให้กับประชาชนต่อไป โดยประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำ ปริมาณฝนสะสม พยากรณ์อากาศ และประกาศแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงภัยได้ทางแอปพลิเคชัน Thai Disaster Alert (TDA) ติดตามข้อมูลข่าวสารสาธารณภัย ความคืบหน้าสถานการณ์ และการให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews และหากประชาชนพบเห็นหรือได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทาง Line Official Account “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อนผ่าน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 เพื่อประสานการให้ความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง