ชาวบ้านเข้าสำรวจความเสียหายในบ้านเรือน
สุรินทร์ 29 ก.ค. – ผู้อพยพใน จ.สุรินทร์ เริ่มกลับเข้าไปสำรวจบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย มีบางส่วนตกสำรวจเนื่องจากช่วงชุลมุนและหนีเอาชีวิตรอดออกมา วันนี้ได้กลับเข้าไปสำรวจ เพื่อนำข้อมูลไปรับการช่วยเหลือต่อไป
ทีมข่าวรับแจ้งการตกสำรวจความเสียหายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอปราสาท จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบซึ่งเป็นบ้านที่ตกสำรวจยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแล จึงพาทีมข่าวเข้าไปสำรวจ โดยเจ้าของบ้านไปให้ข้อมูลว่าบ้านตนได้รับความเสียหาย จากแรงระเบิด ช่วงเช้าวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา ลูกกระสุนเป็นของจรวด BM-21 ได้ตกใส่ห้องน้ำข้างบ้านทำให้ห้องน้ำพังท่อน้ำแตกไม่สามารถใช้การได้
เจ้าของบ้านยังเล่าวินาทีที่ระเบิดเฉียดตนเองไปเพียง 100 เมตร โดยให้ข้อมูลว่าในขณะนั้นเป็นช่วงเวลา 06.00 น. ซึ่งตนยืนอยู่ข้างบ้านจากนั้นได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นทำให้ตัวเองหมอบเอาชีวิตรอดและวิ่งออกจากพื้นที่ ตอนนี้ยังรู้สึกหวาดผวา เมื่อได้ยินเสียงดัง ซึ่งในขณะเดียวกันหมู่บ้านของตนก็ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด ทั้งหมด 25 จุด ซึ่งบ้านของตนได้ตกสำรวจวันนี้จึงเดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐานเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นขอเยียวยาความช่วยเหลือกับหน่วยงานภาครัฐต่อไป
จากนั้นทีมข่าวเดินทางมายังศูนย์อพยพแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งพบกับประชาชนที่อพยพมาเป็นจำนวนมาก ให้ข้อมูลว่า ได้ทางมาพักที่ศูนย์ เข้าสู่คืนที่ 6 เริ่มปรับตัวได้ แต่ยังเป็นห่วงทรัพย์สินในบ้านเรือน แต่เพื่อความไม่ประมาทจึงรอคำสั่งจากทางรัฐบาลและกองทัพ
ในขณะเดียวกัน ได้มีประชาชนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเดินทางมามอบสิ่งของเพื่อเป็นกำลังใจแก่ผู้อพยพโดยเฉพาะพระสงฆ์ เป็นตัวแทนเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เมตตาห่วงใยและให้ความช่วยเหลือเป็นกำลังใจแก่ทหารและประชาชนที่ได้รับผลกระทบตามแนวชายแดนนำโดยพระมหาต่อ รักษาการเจ้าอาวาสวัดแจ้งในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเกจิดังแห่งจังหวัดนครราชสีมาที่แม่ทัพภาคที่ 2 ให้ความเคารพนับถือ และให้ข้อมูลว่า ประเด็นเรื่องเหรียญหลวงปู่มหาศิลา ที่แม่ทัพภาคที่ 2 นำไปแจกแก่ทหารชายแดนแล้วยิงไม่ทะลุนั้น เป็นเรื่องของคุณงามความดีที่ทำหน้าที่ให้กับประเทศชาติหากเราทำความดีพุทธานุภาพก็จะคุ้มครองทำให้มีสติตลอดไป รวมถึงขณะนี้ขอให้กำลังใจทั้งทหารและชาวบ้านให้ผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน
ส่วนในช่วงบ่ายผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ได้เป็นประธานพิธีส่งวีรบุรุษ กลับบ้าน ทหารกล้าพลีชีพจากเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทยกัมพูชา จำนวน 2 นาย โดยมีทหารกองเกียรติยศยืนทำความเคารพอย่างสมเกียรติโดยเคลื่อนขบวนไปยังสนามบินสุรินทร์เพื่อนำส่งต่อไปยังบ้านเกิดซึ่งจะจัดพิธีฌาปนกิจและทหารกล้าอย่างสมเกียรติต่อไป.-สำนักข่าวไทย