ศึกเขมรหยุดยิง ทหารไทยชนะ – รัฐบาลแพ้?
แม้จะอยู่ในขั้นตอนเคลียร์”หน้างาน”จากกองทัพ2ฝ่ายไทย-เขมร ที่วันนี้(29ก.ค.)มีการประชุมหารือของผู้บังคับบัญชาหน่วยทหาร ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ทั้งฝ่ายไทย-เขมร โดยได้ข้อสรุป ตกลง หยุดยิงตลอดแนว! 3 พื้นที่ กองทัพภาคที่1- ภาค2 และ กองกำลัง จันทบุรี ตราด พร้อม ห้ามเคลื่อนย้ายกำลัง ห้ามใช้กำลังหรืออาวุธต่อประชาชน และ งดเสริมกำลัง งดเคลื่อนไหวกำลัง
เพื่อหลีกเลี่ยงความหวาดระแวง ระหว่างรอผลการประชุม GBC วันที่ 4 ส.ค. 68 และให้ผู้นำแต่ละระดับสามารถติดต่อกันโดยตรงได้ เมื่อมีเหตุจำเป็น จากเมื่อวาน(28ก.ค.)ช่วงบ่ายสาม ที่มีการ เปิด“โต๊ะเจรจา”ระดับ “ผู้นำรัฐบาล”ระหว่าง “รักษาการนายกของไทย ภูมิธรรม เวชยชัย”กับ “ฮุนมาเนต”นายกเขมร โดยมี “ประธานอาเซียน” “อันวาร์”นายกฯมาเลเซีย เป็นเจ้าภาพ มีตัวแทนสหรัฐ ร่วมจัดการ มี “จีน”ร่วมสังเกตการณ์ ที่โต๊ะเจรจามีข้อสรุป จบลงที่ให้ทั้ง2ฝ่าย “หยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไขทันที”โดยกำหนดเวลา 24:00น.
ที่ปรากฏว่าก่อนถึงเวลา 24น.เมื่อคืน กองกำลัง 2 ประเทศ ยังมีการปะทะกันอย่างหนักมีการส่ง“กองกำลังทหารของฮุนเซน” พร้อมอาวุธทันสมัยเข้ามา หลายจุด บริเวณจุดยุทธศาสตรสำคัญ 3ปราสาท ตาเมือนธม ตาควาย ตาเมือนโต๊ด ที่ “กองทัพไทย” สามารถ “ปิดจ๊อบ”เอาชนะ ปักธงชาติไทย ยึดคืนพื้นที่มาจากเขมร ทำให้ตลอดคืนจนถึงเช้ามืดและช่วงสายฝ่ายเขมร ยังมีการยิงเข้ามา จนหลายฝ่ายคาดการณ์การประชุมระดับ “แม่ทัพ”ที่นัดไว้ 10:00น.จะไม่เกิดขึ้น หลังมีการเลื่อนเวลาการประชุม อย่างที่ช่วงเช้า เพจกองทัพบก ทันกระแส ซึ่งเป็นเพจทางการของหน่วย ได้ประกาศ ปักธงชาติไทย ภูมะเขือ ช่องอานม้า ปราสาทตาเมือนธมปราสาทตาควาย แนวเขตแดนช่องบก โดยระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวสถาปนาความมั่นคงได้เรียบร้อย
เช่นเดียวกับ กองทัพไทย ได้มีการแถลง ประณามการะละเมิด “ข้อตกลงหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข”จากเวทีที่มาเลเซีย ของฝ่ายเขมร โดย “พล.ต. วิทัย ลายถมยา” โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย(29ก.ค.)ระบุว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด หยุดยิงทุกพื้นที่ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา โดยยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่รัฐบาล2ฝ่าย
แต่ ช่วงเวลาหลังจากกำหนดหยุดยิง ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในหลายจุด ถือเป็นการกระทำที่ “จงใจละเมิดข้อตกลง” และ “บ่อนทำลายความเชื่อมั่น” ที่ควรมีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน กองทัพไทย ขอประณามพฤติกรรมดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา และขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิในการป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ
และว่า ไทยมิได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน “เมื่อเราหยุด แต่เขาไม่หยุด… โลกต้องได้รับรู้ว่า กัมพูชาคือผู้ละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง เและเป็นฝ่ายที่ ไม่เคารพกติกาสากล ไม่ยึดถือข้อตกลงระหว่างประเทศใด ๆ ที่ได้ประกาศไว้ในเวทีระดับโลก และเป็นภัยต่อความมั่นคงของภูมิภาคและของโลก”การยอมรับพฤติกรรมเช่นนี้ เท่ากับเปิดช่อง ให้ความอยุติธรรมกลายเป็นบรรทัดฐานในระบบระหว่างประเทศ ดังนั้นกองทัพไทย จึงขอเรียกร้องให้ ประชาคมโลก ร่วมกันยืนหยัดบนหลักแห่งความจริง ความยุติธรรม และหลักนิติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดสันติภาพตามเป้าประสงค์ต่อไป
เรียกว่าบทบาท “หน้างาน”ในการสู้ศึกแบบตายจริงเจ็บจริงของกองทัพไทย และบทบาทในการ “ฟ้องโลก”ที่ได้รับกำลังใจ และความชื่นชมจากประชาชนที่กำลัง “อิน”กับสถานการณ์“ภัยคุกคามจากเขมร”ครั้งนี้ อดไม่ได้ที่จะถูกเปรียบเทียบกับ “รัฐบาลไทย” ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนัก ตั้งแต่ความกังวลต่อคณะ“ทีมไทยแลนด์”นำโดย “ภูมิธรรม” “มาริษ” “หมอมิ้ง”และ “พล.อ.ณัฐพล” ที่ไปเจรจา กับ “ฮุนมาเนต” เมื่อวาน(28ก.ค.)
รวมถึงผลสรุป “หยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข”ที่สุ่มเสี่ยง “ความเสียเปรียบ”หาก “ทหารไทย” ไม่สามารถ ยึดพื้นที่ยุทธศาสตร์กลับมาได้ โดยอ้างจำใจเพราะถูก “ทรัมป์”กดดันผ่าน “ภาษีทรัมป์”ที่จะไฟนอลวันที่ 1ส.ค. รวมถึง “ความไม่ชัดเจน”ใน “เงื่อนไข”ที่ไม่ถูกเปิดเผย ที่ “ภูมิธรรม”อ้างว่ารับไปจากกองทัพ7ข้อ ไม่นับรวม “การติดใจ” การไม่ใช้จังหวะบนเวทีนี้ “ฟ้องโลก”ต่อพฤติกรรมเข้าข่าย “อาชญากรสงคราม”ของเขมร
ที่บทบาท “รัฐบาลไทย”ถูกวิจารณ์ ดูช้าไม่ทันเกมเวทีโลกเท่า ฝ่ายเขมร จนถูก “จัดตั้งเกม”และ “พลิกเกม”ให้ไทยต้องเล่นตาม ตั้งแต่ครั้งเวที UNSC จนยกระดับดึง2ประเทศมหาอำนาจจีน-สหรัฐเข้ามากดดัน จนกลายเป็น “ความระแวง”ไปถึงปมครหา ต้นเหตุ“ความขัดแย้ง2ตระกูล” โดย ทั้งหมดเริ่ม ถูกสะท้อนผ่านกลายเป็นภาพที่ “ผู้คน”ใน“รัฐบาลอิ๊งค์” ตั้งแต่ “ทักษิณ”, ”อิ๊งค์” จนถึง “ภูมิธรรม”กำลังถูกกดดันกับ “คำถาม”จาก“ประชาชน”ในพื้นที่อพยพ
แบบเดียวกับที่“นักข่าวทำเนียบหญิง” ตั้งคำถามอย่างดุดันกับ “ภูมิธรรม”จนต้องเดินหนี ที่กำลังเป็นคลิปไวรัล อันเป็นคำถามในความรู้สึกที่คล้ายกับที่ “ อดีตสว.สมชาย แสวงการ”โพสFBเมื่อคืน ที่ว่า “คืนนี้ร่วมแรงใจให้ทหารไทย ทำหน้าที่สุดกำลัง เห็นชัด การเมืองล้มเหลว การต่างประเทศอ่อนด้อย เหลือแค่ประชาชนร่วมกันกับทหาร #รวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews