ผบ.ตร.เผย ศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา พบพระสงฆ์ผิดวินัย 69 เรื่องอยู่ระหว่างตรวจสอบ
บิ๊กต่าย เผยความคืบหน้าการจัดตั้งศูนย์ร้องเรียนพระกระทำผิด รับเรื่องแล้ว 69 เรื่อง อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 17 กรกฎาคม ที่หน้าตึกกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงภายหลังการประชุมศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและส่งเสริมพระธรรมวินัย โดยมีตัวแทนจากกรมการศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) สำนักงาน ป.ป.ท. และสำนักงาน ป.ป.ช. เข้าร่วม เพื่อหารือและบูรณาการข้อมูลในการปฏิบัติงานร่วมกัน
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า เราได้มีการจัดตั้งศูนย์ร้องเรียนการกระทำผิดของพระสงฆ์ขึ้น โดยเป็นการร่วมมือกันหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย ตำรวจ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่ ปปง. รวมถึงเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนา โดยจะมีการประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ซึ่งการจัดตั้งศูนย์ครั้งนี้ถือเป็นการจัดตั้งเฉพาะกิจขึ้นมาก่อน
โดยให้ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเป็นผู้อำนวยการศูนย์ แต่ในอนาคตคงจะต้องยกระดับให้เป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยการแบ่งหน้าที่กันนั้น จะให้สำนักพุทธตรวจสอบว่าวัดไหน บุคคลใด ไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และแนวทางที่วางไว้ ก็จะผิดเรื่องวินัยสงฆ์ ส่วนหากผิดในเรื่องอาญา ตำรวจจะเป็นผู้ดำเนินคดี ซึ่งตัวเองไม่อยากให้เหมารวม ให้แยกเป็นเรื่องของบุคคล ส่วนการแสดงทรัพย์สินวัดนั้นก็จะให้ ป.ป.ช.เป็นผู้พิจารณาว่าจะมีการประกาศให้แสดงทรัพย์สินหรือไม่
ผบ.ตร.ย้ำด้วยว่า การจัดตั้งศูนย์ครั้งนี้ เนื่องจากมีเหตุการณ์มีพระหลายรูป รวมทั้งสำนักสงฆ์หลายแห่ง เข้าข่ายการกระทำความผิดวินัยสงฆ์และอาญาในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ จึงมองว่าถึงเวลาที่ต้องร่วมมือกับทุกหน่วยงาน ซึ่งการจัดตั้งศูนย์ครั้งนี้มีคนร้องเรียนมาแล้วถึง 69 เรื่อง ส่วนการร้องเรียนในเรื่องอะไรนั้นยังไม่ขอลงรายละเอียด ทั้งนี้ เน้นย้ำให้ตรวจสอบระวังข้อมูลข่าวสารที่อาจนำไปสู่การกลั่นแกล้ง รวมถึงการให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นเท็จ ถ้าหากพบก็ให้ดำเนินคดีกับผู้แจ้งความเท็จด้วย
เมื่อถามว่าในส่วนที่ผ่านมา เมื่อตำรวจทราบว่าเจ้าหน้าที่สำนักพุทธมีการละเว้นและบกพร่อง เมื่อร่วมงานทุกครั้งจะเกิดความล้มเหลว ทั้งที่เป็นความผิดชัดเจน ทำไมตำรวจถึงไม่ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่เหล่านี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีพยานหลักฐาน หากจะเอาผิดใครจะต้องมีพยานหลักฐานและมีผู้แจ้งร้องทุกข์ ยืนยันตำรวจไม่ผิด สำนักพุทธไม่ผิด แต่มีเพียงพระสงฆ์บางรูปที่ประพฤติไม่เหมาะสม จากพระสงฆ์ 3 แสนรูป ที่นับเป็นส่วนน้อยที่มีความผิด จึงขออย่าเหมารวมศาสนา
ส่วนกรณีที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ดำเนินการที่ผ่านมาทุกครั้งไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่สำนักพุทธ ทำให้เกิดความไม่สบายใจกับทั้ง 2 หน่วยงานนั้นยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้ง และไม่ถึงขนาดต้องจูบปาก เพราะบางครั้งผู้ปฏิบัติงานโดยเฉพาะ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เป็นคนตั้งใจทำงาน แต่การสื่อสารอาจทำให้เกิดความเข้าใจไม่ตรงกัน จึงได้กำชับการให้ข้อมูล เนื่องจากมีความละเอียดอ่อน ส่วนตัวตนเองก็ไม่อยากติ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ จะทำให้เสียกำลังใจ และทราบดีว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติเป็นคนตั้งใจทำงาน และขณะนี้ก็ยังตั้งใจทำงานอยู่ ส่วนเส้นเงินสีกากอล์ฟมีการขยายผลว่าเส้นเงินไปถึงใครบ้าง ถึงแม้ว่าจะจับกุมดำเนินคดีแล้วก็ตาม ก็จะขยายผลต่อไป
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีพระผู้ใหญ่ สมณศักดิ์สูงกว่า แอบมีสัมพันธ์ฉาวสีกาคล้ายกับสีกากอล์ฟ ยืนยันว่ามีเรื่องร้องเรียนมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะนี้ตนเองทราบเรื่องแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณา แต่เบื้องต้นสามารถยืนยันได้ว่าไม่ใช่พระที่มีสมณศักดิ์สูงกว่าคดีสีกากอล์ฟตามข่าวลือ เป็นพระอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่กรุงเทพมหานคร โดยมีความเกี่ยวข้องกับสีกา ส่วนจะเกี่ยวกับเงินหรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มีการกอดและยกนิ้วให้กำลังใจ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ พร้อมกล่าวชื่นชมว่า “ทำงานเยี่ยม คนทำงานต้องชื่นชม”
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ผบ.ตร.เผย ศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา พบพระสงฆ์ผิดวินัย 69 เรื่องอยู่ระหว่างตรวจสอบ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th