โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ค่าไฟฟ้างวดท้ายปียังไม่ลด ทยอยตัดหนี้คืนกฟผ. ชง 3 ทางเลือกเปิดเฮียริ่ง

The Better

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว • THE BETTER
กกพ.แจงแนวโน้มค่าไฟงวดก.ย.– ธ.ค.ลดลงตามต้นทุนเชื้อเพลิง-ค่าบาทแข็ง แต่ขอคงอัตราค่าไฟต่ำสุดเท่าเดิม 3.98 บาท ชี้จำเป็นต้องคืนหนี้ค่าเชื้อเพลิงให้กฟผ.-ปตท.หวังผ่อนคลายฐานการเงิน

ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.)ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ในการประชุม กกพ. ครั้งที่ 26/2568 (ครั้งที่ 968) เมื่อวันพุธที่ 16 กรกฎาคม 2568 มีมติให้เปิดรับฟังความคิดเห็นค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) และการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าสำหรับงวด ก.ย. - ธ.ค. 2568 เป็น 3 กรณี ตั้งแต่เรียกเก็บต่ำสุดที่ 3.98 บาทต่อหน่วยจนถึงสูงสุดที่ 5.10 บาทต่อหน่วย

ทั้งนี้ปัจจัยบวกที่ทำให้ค่าเอฟทีและแนวโน้มค่าไฟที่ลดลงในงวด ก.ย. - ธ.ค. 2568 มาจากปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ผลิตจากอ่าวไทยกลับมาสู่ภาวะปกติเท่ากับก่อนวิกฤตราคาก๊าซธรรมชาติ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าช่วงปลายปีมีแนวโน้มลดลง เข้าสู่ภาวะปกติ แต่สาเหตุที่ กกพ. ยังไม่สามารถประกาศปรับลดค่าเอฟทีและค่าไฟได้ทันที ก็เพราะว่ายังคงมีภาระต้นทุนค่าเชื้อเพลิงคงค้าง (AF) ที่เกิดขึ้นจริงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อีกกว่า 66,072 ล้านบาทซึ่งการจัดเก็บค่าไฟฟ้าในรอบนี้สามารถลดหนี้ กฟผ. ในช่วงต้นปีก็ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายอยู่ 8,295 ล้านบาท

ปัจจัยหลักๆ ยังคงเป็นภาระการชดเชยต้นทุนคงค้าง (AF) ที่เกิดขึ้นจริงของ กฟผ. ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาคาดว่าจะสามารถลดต้นทุนคงค้างลง 13,142 ล้านบาท แต่ราคาเชื้อเพลิงที่ใช้ผลิตไฟฟ้าจริงสูงกว่าการคาดการณ์ ทำให้สามารถลดต้นทุนคงค้างจริงได้เพียง 4,847 ล้านบาท ซึ่งภาระการชดเชยต้นทุนคงค้าง (AF) ยังคงเป็นปัจจัยลบที่กดดันค่าเอฟทีต่อไปจนกว่าจะหมดภาระ

ด้านแนวโน้มค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นจากงวดก่อนหน้า 1.32 บาทต่อเหรียญสหรัฐ (งวด พ.ค. - ส.ค. 68) เป็น 32.95 บาทต่อเหรียญสหรัฐ และราคา LNG Spot ที่มีแนวโน้มลดลงเล็กน้อยตามราคาในตลาดโลกมาอยู่ที่ 13.9 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียูส่งผลดีต่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้า

“เหตุผลที่ยังไม่สามารถลดค่าไฟได้แม้ต้นทุนเชื้อเพลิงจะลดลงนั้ เนื่องจากยังจำเป็นต้องเข้าไปดูแลภาระหนี้ค่าเชื้อเพลิงทั้งของกฟผ.และปตท. เพื่อให้เกิดการผ่อนคลายฐานะทางการเงิน หากในอนาคตสถานการณ์เศรษฐกิจโลกดีขึ้น และราคาค่าเชื้อเพลิงลดลงจากปัจจุบันก็มีโอกาสนำมาพิจารณาค่าไฟฟ้าในปีหน้าได้ ส่วนที่ยังไม่ใช้เงิน Claw Backหรือเงินเรียกคืนจาก 3 การไฟฟ้าวงเงิน 8 พันล้านบาทมาช่วยลดค่าไฟฟ้านั้น อยากให้เก็บไว้ใช้ในเกิดวิกฤตจริงๆในอนาคตมากกว่า “

อย่างไรก็ตามการประชุม กกพ. ครั้งที่ 26/2568 (ครั้งที่ 968) มีมติให้สำนักงาน กกพ. ดำเนินการเปิดรับฟังความคิดเห็นค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในงวดเดือน ก.ย. - ธ.ค. 2568 แบ่งเป็น 3 กรณีตามเงื่อนไข ดังนี้

กรณีที่ 1: ผลการคำนวณตามสูตรการปรับค่าเอฟที (จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้าง กฟผ. ทั้งหมด) และการคำนวณกรณีเรียกเก็บมูลค่าส่วนต่างราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับภาคไฟฟ้าปี 2566 ค่าเอฟทีขายปลีกเท่ากับ 131.94 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะเป็นการเรียกเก็บตามผลการคำนวณตามสูตรการปรับค่า Ft ที่สะท้อนแนวโน้ม (1) ต้นทุนเดือนก.ย.-ธ.ค. 2568 จำนวน 9.01 สตางค์ต่อหน่วย

และ (2) เงินเรียกเก็บเพื่อชดเชยต้นทุนคงค้าง (AF) ที่เกิดขึ้นจริงของ กฟผ. จำนวน 66,072 ล้านบาท (หรือคิดเป็น 100.08 สตางค์ต่อหน่วย) และมูลค่าส่วนต่างราคาก๊าซธรรมชาติที่เกิดขึ้นจริงกับราคาก๊าซธรรมชาติที่เรียกเก็บเดือนก.ย.-ธ.ค. 2566 ของรัฐวิสาหกิจที่ประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper) จำนวน 15,084 ล้านบาท (หรือคิดเป็น 22.85 สตางค์ต่อหน่วย) รวมจำนวน 122.93 สตางค์ต่อหน่วย โดย กฟผ. จะได้รับเงินที่รับภาระต้นทุนค่าเชื้อเพลิงและค่าซื้อไฟฟ้าแทนประชาชนตั้งแต่เดือนก.ย.-ธ.ค. 2568 ในช่วงสภาวะวิกฤตของราคาพลังงานที่ผ่านมา คืนทั้งหมดภายในเดือนธันวาคม 2568 เพื่อนำไปชำระหนี้เงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องให้มีสถานะทางการเงินคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และรัฐวิสาหกิจที่ประกอบกิจการก๊าซธรรมชาติ จะได้รับเงินคืนส่วนต่างราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับภาคไฟฟ้าคืนทั้งหมด

เมื่อรวมค่าเอฟที ขายปลีกที่คำนวณได้กับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 5.10 บาทต่อหน่วย โดยค่าไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 28 จากระดับ 3.98 บาทต่อหน่วย ในงวดปัจจุบัน

กรณีที่ 2: ค่าเอฟทีt (จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้าง กฟผ. ทั้งหมด) เท่ากับ 109.09 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะเป็นการเรียกเก็บตามผลการคำนวณตามสูตร จำนวน 9.01 สตางค์ต่อหน่วย และเงินเรียกเก็บเพื่อชดเชยต้นทุนคงค้าง (AF) ที่เกิดขึ้นจริงของ กฟผ. จำนวน 66,072 ล้านบาท (หรือคิดเป็น 100.08 สตางค์ต่อหน่วย) โดย กฟผ. จะได้รับเงินที่รับภาระต้นทุนค่าเชื้อเพลิงและค่าซื้อไฟฟ้าแทนประชาชนในช่วงสภาวะวิกฤตของราคาพลังงานที่ผ่านมา คืนทั้งหมดภายในเดือนธันวาคม 2568 เพื่อนำไปชำระหนี้เงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องให้มีสถานะทางการเงินคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว เมื่อรวมค่าเอฟทีขายปลีกที่คำนวณได้กับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4.87 บาทต่อหน่วย โดยค่าไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 จากระดับ 3.98 บาทต่อหน่วย ในงวดปัจจุบัน

ทั้งนี้ ยังไม่รวมมูลค่าส่วนต่างราคาก๊าซธรรมชาติที่เกิดขึ้นจริงกับราคาก๊าซธรรมชาติที่เรียกเก็บเดือนกันยายน - ธันวาคม 2566 ของรัฐวิสาหกิจที่ประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper) อีกจำนวน 15,084 ล้านบาท (หรือคิดเป็น 22.85 สตางค์ต่อหน่วย)

กรณีที่ 3: กรณีตรึงค่าเอฟทีเท่ากับงวดปัจจุบัน เท่ากับ 19.72 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะสะท้อนแนวโน้มต้นทุนเดือนก.ย.-ธ.ค. 2568 จำนวน 9.01 สตางค์ต่อหน่วย และทยอยชำระคืนภาระต้นทุน AF คงค้างสะสมได้จำนวน 7,072 ล้านบาท (หรือคิดเป็น 10.71 สตางค์ต่อหน่วย) เพื่อนำไปพิจารณาทยอยคืนภาระค่า AF ให้แก่ กฟผ. และมูลค่าส่วนต่างของราคาก๊าซธรรมชาติที่เกิดขึ้นจริงกับค่าก๊าซธรรมชาติที่เรียกเก็บ เดือนก.ย.-ธ.ค. 2566ของรัฐวิสาหกิจที่ประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper) ในระบบของ กฟผ. ต่อไป ซึ่งเมื่อรวมค่าเอฟทีขายปลีกกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) คงที่เท่ากับ 3.98 บาทต่อหน่วย เช่นเดียวกับปัจจุบัน

ทั้งนี้ กกพ. เปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ตั้งแต่วันที่ 17 - 28 กรกฎาคม 2568 ก่อนที่จะมีการสรุปและประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก The Better

"ทักษิณ" ประณามระเบิดชายแดน ชี้ไทยต้องประท้วงตามกติกาโลก ย้ำชัดไม่คุย "ฮุนเซน" อีก หวั่นถูกอัดเทปซ้ำ

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

แม่ทัพภาคที่ 2 ลั่น! ปกป้องแผ่นดินไทยทุกตารางนิ้ว หลังพบระเบิดล้ำแดนจากกัมพูชากว่า 100 ลูก

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“ชัยชนะ” ผสานแพทย์ไทย-จีน ยกระดับการแพทย์ นำร่อง รพ.ท่าศาลา

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

David Autor เตือน: โลกอนาคตอาจไม่ใช่ Wall-E แต่เป็น Mad Max

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ส่อง เต่าบิน สเตชั่น ตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ 24 ชม. มีตั้งแต่ขนม ยันถุงยาง-ผ้าอนามัย

MATICHON ONLINE

GULF เตรียมออกหุ้นกู้ครั้งแรกภายใต้บริษัทใหม่ที่แข็งแกร่งขึ้น อันดับเครดิตสูงที่ AA- เสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน ผู้ลงทุนรายใหญ่ และประชาชนทั่วไป

Manager Online

ธอส. เผยเครึ่งปีแรก ปี68 ปล่อยสินเชื่อใหม่ 1.07 แสนล. มั่นใจทั้งปีแตะ 2.41 แสนลบ.

PostToday

ออมสิน-ธ.ก.ส. ปล่อยกู้แก้หนี้นอกระบบแล้วกว่า 2.5 พันล้านบาท

PostToday

80 ปี ตำนานซอสเด็กสมบูรณ์สู่อนาคตในยุคเจนสาม l 19 ก.ค. 68 FULL l BTimes Weekend

BTimes

การบินไทย จับมือ ซัมซุง ร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ยกระดับประสบการณ์การเดินทางผ่าน Samsung Wallet

การเงินธนาคาร

DSI เปิดลงทะเบียนผู้เสียหายกรณีชักชวนลงทุน'Zipmex' ถึง 31 ก.ค.

ฐานเศรษฐกิจ

ผอ.ออมสิน ชี้ปัญหาเศรษฐกิจไทยซึมยาว หนี้ครัวเรือนสูง สังคมสูงวัย ขีดความสามารถการแข่งขันถดถอย

MATICHON ONLINE

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...